ขุนคลังสนับสนุน "สมใจนึก เองตระกูล" เป็นประธานการสรรหากรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยคนใหม่
ลั่นไม่มีปัญหา ขณะที่บอร์ดกรุงไทยเมินเฉยแถมเสียงแตก ส่วน "วิโรจน์ นวลแข" พร้อมยื่นใบสมัครหลังพ้น
ตำแหน่ง 9 ก.ค.นี้ สหภาพฯ กรุงไทยเคลื่อนไหวสนับสนุนทำหน้าที่ต่ออีกสมัย พร้อมร่างหนังสือถึง
"สมคิด" รวบรวมผลงาน 3 ปีทำกรุงไทยมีกำไร-ปรับโครงสร้างองค์กร-พัฒนาพนักงาน
จากกรณีที่มีความอึมครึมเกี่ยวกับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ธนาคารกรุงไทยหลังนายวิโรจน์
นวลแข หมดวาระในวันที่ 9 ก.ค.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
กล่าวว่า "ไม่มีปัญหา"
นายสมคิดกล่าวว่า การแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยคนใหม่จะเป็นไปตามระเบียบรัฐวิสาหกิจคือ
ต้องผ่านกระบวนการสรรหา คาดว่านายสมใจนึก เองตระกูล ปลัดกระทรวงการคลัง จะเป็นประธานคณะกรรมการสรรหา เชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย
ทั้งนี้ ตำแหน่งประธานคณะกรรมการสรรหา คณะกรรมการ (บอร์ด) ธนาคารกรุงไทยจะต้องยื่นเรื่องไปที่กระทรวงการคลัง
แต่ถึงขณะนี้บอร์ดธนาคารกรุงไทยยังไม่การดำเนินการแต่อย่างใด
นายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา กรรมการธนาคารกรุงไทย กล่าวยอมรับว่า บอร์ดธนาคารกรุงไทยมีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับการต่อหรือไม่ต่ออายุนายวิโรจน์
แต่ความเห็นส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลมีวิสัยทัศน์และเลือกนายวิโรจน์ ให้ทำหน้าที่ต่อไป
"ส่วนตัวผมสนับสนุนคุณวิโรจน์ เพราะกรุงไทยภายใต้การนำของคุณวิโรจน์ถือเป็นสถาบันการเงินที่สนับสนุนนโยบายรัฐบาลในเชิงสร้างสรรค์"
นายมัชฌิมากล่าวว่า หากบอร์ดธนาคารเห็นว่านายวิโรจน์เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องให้ลาออกเพื่อสมัครใหม่
เนื่องจากตามกระบวนการสรรหากรรมการผู้จัดการไม่จำเป็นต้องลาออกก่อน แต่ที่มีปัญหาจนสับสนในขณะนี้เกิดจากมีความขัดแย้งเกิดขึ้นทั้งในบอร์ดและระหว่างบอร์ดกับฝ่ายบริหาร
ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ รองประธานกรรมการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การเลือกกรรมการ
ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย ต้องเป็นไปตามระเบียบรัฐวิสาหกิจคือผ่านขั้นตอนสรรหาเท่านั้น
แหล่งข่าวธนาคารกรุงไทยกล่าวว่า บอร์ดธนาคารกรุงไทยมีความเห็นเรื่องนี้ 3 กลุ่มๆ
แรกเห็นด้วยที่จะให้ต่ออายุนายวิโรจน์ ได้แก่ นายอุตตม สาวนายน นายชัยอนันต์ สมุทวณิช
นายรัตน์ พานิชพันธ์ นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์และนายมัชฌิมา ส่วนที่ไม่เห็นด้วย
ได้แก่ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ (ประธานกรรมการ) นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ (ประธานกรรมการบริหาร)
และร.ท.สุชาย ส่วนไม่แสดงความคิดเห็น ได้แก่ นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล นายเชษฐทวี
เจริญพิทักษ์ นายชาญชัย มุสิกนิศากร นายเรวัต ฉ่ำเฉลิมและนายประสิทธิ์ ดำรงชัย
สำหรับท่าทีนายวิโรจน์ต่อเรื่องดังกล่าว เป็นที่แน่นอนแล้วว่า นายวิโรจน์จะสมัครหลังจากพ้นจากตำแหน่งโดยอัตโนมัติ
หลังจากนั้นเข้าสู่กระบวนการสรรหา คาดว่าจะเกิดช่วงสุญญากาศ ในธนาคารกรุงไทยประมาณ
1-3 เดือน
"ส่วนหนึ่งที่เกิดความอึมครึมทั้งๆ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต้องการให้คุณวิโรจน์ทำหน้าที่ต่อไป
เพราะมีขัดแย้งระหว่างคุณวิโรจน์กับบิ๊กหมง (พล.อ.มงคล) บิ๊กหมง มองว่าคุณวิโรจน์ไม่นอบน้อมผู้หลักผู้ใหญ่
อย่างไรก็ตามขณะนี้มีการไกล่เกลี่ยจนบิ๊กหมงมีท่าทีโอนอ่อนลง"
ทั้งนี้ พล.อ.มงคลจะเกษียณอายุตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารกรุงไทยในปี 2548 เป็นไปตามระเบียบรัฐวิสาหกิจที่ห้ามไม่ให้กรรมการธนาคารกรุงไทยอายุเกิน
65 ปี
นายปรีชา นวปราการ ประธานสหภาพรัฐวิสาหกิจธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า รัฐบาลควรให้นายวิโรจน์ทำหน้าที่กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยอีกวาระหนึ่งเพื่อความต่อเนื่องในการทำงาน
โดยเฉพาะการสานต่อระบบการรวมถังข้อมูล (Data Warehouse) กับระบบไอทีหลัก (Core
Banking) หากเปลี่ยนกรรมการผู้จัดการเป็นคนอื่นงานดังกล่าวต้องเริ่มกันใหม่เป็นการเสียเวลาอย่างยิ่ง
ส่วนระบบการสรรหา นายปรีชากล่าวว่า คณะกรรมการสรรหาจะต้องพิจารณาผลงานที่ผ่านมาของนายวิโรจน์
ซึ่งสหภาพฯเห็นว่า จำเป็นต้องให้นายวิโรจน์เป็นกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยต่อไป
"เรากำลังทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้ข้อมูลการทำงานที่ผ่านมาของคุณวิโรจน์
ตอนแรกที่ประชุมคณะกรรมการสหภาพฯจะยื่นทันที แต่มีคนเสนอว่าควรให้เวลาผู้มีอำนาจได้ตัดสินใจ
ดังนั้นเราจะรอให้ใกล้วันแต่งตั้ง หากมีทีท่าว่าคุณวิโรจน์จะไม่ได้รับการคัดเลือก
สหภาพฯค่อยตัดสินใจยื่นหนังสือให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอีกครั้ง"
นายปรีชากล่าวว่า หนังสือดังกล่าวจะแสดงถึงผลงานของนายวิโรจน์ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งผลการดำเนินงาน การทำกำไรให้ผู้ถือหุ้น การแก้ปัญหาหนี้เสีย สวัสดิการพนักงานและการปรับโครงสร้างองค์กร
โดยทุกเรื่องมีความเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ กำไรต่อหุ้นของธนาคารกรุงไทยปี 2545 เท่ากับ 26 สตางค์ต่อหุ้น ปี 2546
เพิ่มเป็น 47 สตางค์ต่อหุ้น ส่วนหนี้เสียลดลงจาก 13% ในปี 2545 เหลือ 11% ในปี
2546
"หากใครมองที่ผลงานก็ต้องพอใจ ตัวเลขสำคัญๆ ระบุได้ชัดเจน ผมเชื่อว่าปี 47 ผลประกอบการธนาคารจะดีขึ้นอีก"
นายปรีชากล่าวว่า นายวิโรจน์ได้วางรากฐานระยะยาวให้ธนาคาร โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพของบุคลากร
มีการฝึกอบบรมแทนการปลดพนักงาน ทำให้พนักงานมีศักยภาพไม่แพ้ธนาคารพาณิชย์เอกชน