Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 มิถุนายน 2547
หวั่นแรงต้านเมเจอร์ฯ ขายตั๋ว80บาท นำร่อง นศ.             
 


   
www resources

โฮมเพจ เมเจอร์ซินีเพล็กซ์
โฮมเพจ อีจีวี

   
search resources

อีจีวี เอ็นเตอร์เทนเม้นต์, บมจ.
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป, บมจ.
สหมงคลฟิล์ม, บจก.
เอเซีย พลัส, บมจ.
ก้องเกียรติ โอภาสวงการ
วิชา พูลวรลักษณ์
สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
มนตรี ศรไพศาล
Theatre




เมเจอร์ฯ วางแผนสยบข้อกล่าวหาผูกขาดโรงหนัง เผยเตรียมออกตั๋วราคา 80 บาทก่อนสิ้นปี "วิชา" มั่นใจทำหลายราคาช่วยขยายฐานลูกค้าและจำนวนคนดู เตรียมเดินสายโรดโชว์ดึงทุนนอกเข้าลงทุนดันเมเจอร์โกอินเตอร์ โต้หนังเสี่ยเจียงคุณภาพแค่หนังแผ่น แม้งดส่งก็ไม่กระทบเมเจอร์ โบรกฯเชียร์ซื้อหุ้น MAJOR เหตุควบรวมทำให้ต้นทุนและหนี้บริษัทลดลง

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ เปิดเผยว่า บริษัทกำลังปรับโครงสร้างราคาตั๋วชมภาพยนตร์เพื่อให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนหลังการควบรวมกิจการกับอีจีวีลดลง ราคาตั๋วจึงควรลดลงได้เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือก โดยจะเริ่มที่ตั๋วราคานักศึกษา 80 บาทเป็นอันดับแรกคาดว่าจะเริ่มได้ประมาณปลายปี หลังจากนั้นจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปภายในปี 2548

"เชื่อว่าการออกตั๋วที่ราคาต่ำจะช่วยขยายฐานลูกค้า แม้รายได้จากการจำหน่ายตั๋วต่อใบลดลงแต่ปริมาณลูกค้าจะเพิ่มขึ้นในที่สุดรายได้ของบริษัทจะมากขึ้น และยืนยันว่าการควบรวมครั้งนี้ไม่ใช่การผูกขาด"

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เอเซียพลัส ที่ปรึกษาทางการเงินในการควบรวมกิจการดังกล่าวระบุว่า การควบรวมกิจการเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากเรื่องของขนาดที่ต้องใหญ่ขึ้นเพื่อการแข่งขันในปัจจุบัน โดยไม่จำกัดเฉพาะในประเทศเท่านั้น ยังมีธุรกิจข้ามชาติที่ปะทะกัน หากธุรกิจของไทยไม่ปรับตัวถือว่าลำบาก

"ผมไม่เห็นด้วย 100% ที่มองว่าดีลนี้ผูกขาด เพราะผมเชื่อว่าถ้ามีการขึ้นราคาแล้วไม่เป็นธรรม ผู้บริโภคร้องเรียนหรือส่งเสียงดังๆ ได้" นายก้องเกียรติกล่าว

ปัจจุบันตั๋วของเมเจอร์มีตั้งแต่ 90 บาท สำหรับต่างจังหวัด ส่วนในกรุงเทพฯและปริมณฑลประกอบ ด้วยราคา 100 บาท 120 บาท และ 300 บาท แล้วแต่ประเภทที่นั่งและทำเลของสาขา

นายวิชาเปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลและให้โอกาสผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์เข้าซักถามช่วงวันที่ 15-16 มิ.ย.หลังจากนั้นจะออกไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง การเดินสายจะทำให้นักลงทุนต่างชาติรู้จักและสนใจลงทุน การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์จะง่ายขึ้น สนับสนุนให้แผนการขยายการลงทุนในต่างประเทศประสบความสำเร็จ

"ต่างชาติให้ความสำคัญกับการควบรวมกิจการให้ใหญ่ขึ้น ดังนั้นการระดมเงินหรือเพิ่มฐานเงินทุนจะง่ายขึ้นสำหรับเมเจอร์" นายวิชาย้ำ

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลังควบกิจการ เมเจอร์จะถือหุ้น 70% ที่เหลือเป็นของอีจีวี ทั้งนี้จะใช้บุคลากรร่วมกัน โดยไม่มีการลดจำนวนผู้บริหารและพนักงาน เนื่องจากงานไม่ซ้ำซ้อนกัน ขณะที่สาขาที่มีอยู่ 250 แห่งเป็นสาขาที่สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้เป็นอย่างดีจึงไม่มีการยุบ แต่จะขยายเป็น 350 สาขา

ส่วนกรณีที่นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ เจ้าของสหมงคลฟิล์ม ผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่ของไทยและผู้ถือหุ้นเอสเอฟ ซีนีม่า ออกมาประกาศ งดส่งหนังให้โรงหนังเมเจอร์ฯ เป็นเวลา 6 เดือนนั้น นายวิชากล่าวว่า จะส่งผลกระทบต่อเมเจอร์เพียงเล็กน้อย เนื่องจากในแต่ละปี หนังที่มาจากสหมงคลฟิล์มมีประมาณปีละ 20 เรื่องเท่านั้น

"ส่วนใหญ่หนังที่เข้าฉายในโรงเมเจอร์มาจากต่างประเทศ เช่น ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ พาราเมาท์ พิคเจอร์ โคลัมเบีย พิคเจอร์และวอลท์ ดีสนีย์ ซึ่งล้วนแต่เป็นหนังคุณภาพที่ได้รับความนิยม ส่วนหนัง เสี่ยเจียงคุณภาพสู้ไม่ได้ส่วนใหญ่มักจะนำหนังแผ่นมาเสนอ"

นายวิชายังกล่าวถึงแผนการสร้างโรงภาพยนตร์ในที่ดินภายใต้การบริหารงานของสยามฟิวเจอร์ ดีเวลล๊อปเม้นท์ ย่านรัชดาฯว่า จะแล้วเสร็จภายในปี 2548

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง กล่าวว่า บล.กิมเอ็งแนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้น MAJOR เนื่องจากหลังการควบรวมต้นทุนแล้วหนี้บริษัทจะลดลง ขณะเดียวกันธุรกิจ โรงภาพยนตร์มีโอกาสขยายตัวสูง มีผลตอบแทนดีกว่าธุรกิจหลักที่มีข้อจำกัดในการซื้อ

"สินค้าอุปโภคบริโภคอื่นอาจจำเป็นในชีวิตประจำวันแต่มีเพดานหรือจำนวนซื้อชัดเจน แต่หนังไม่ใช่ คนดูหนังถ้าชอบสามารถดูได้หลายรอบในแต่ ละวันหรือในทุกๆ สัปดาห์ จึงมีโอกาสสร้างรายได้แบบก้าวกระโดด"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us