Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 มิถุนายน 2547
EGV ยังเลียบค่ายปฎิเสธไม่เคยคุยจับมือ MAJOR             
 


   
www resources

โฮมเพจ เมเจอร์ซินีเพล็กซ์
โฮมเพจ อีจีวี

   
search resources

อีจีวี เอ็นเตอร์เทนเม้นต์, บมจ.
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป, บมจ.
เสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง
Theatre




กระแสข่าวการจะจับมือเป็นพันธมิตรทางการค้าเพื่อร่วมดำเนินธุรกิจไปด้วยกัน ระหว่าง บริษัท อีจีวี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด(มหาชน) (EGV) และบริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จำกัด(มหาชน) (MAJOR) ซึ่งเป็นข่าวออกมาจากวงในว่าผู้บริหารของทั้งสองบริษัทได้มีการพูดคุยกันในเบื้องต้นเพื่อที่จะทำธุรกิจร่วมกัน

นายเสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง ผู้อำนวยการการเงินและบริหาร บริษัท อีจีวี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (EGV) เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะขณะนี้บริษัทต้องเดินหน้าในการขยายงาน การลงทุนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่การหาพันธมิตรในการทำธุรกิจก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เพราะปัจจุบันการมีพันธมิตรที่จะมาเกื้อหนุนในการดำเนินธุรกิจเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจแล้วยิ่งถือว่าจำเป็น แต่ในทางปฏิบัติจะเริ่มต้นได้เมื่อไหร่ก็ต้องดูเวลา จังหวะและโอกาส ซึ่งโอกาสอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อตามความเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม นายเสริมศักดิ์ปฏิเสธอย่างไม่เต็มปากนักกับเรื่องดังกล่าวในขณะนี้ ซึ่งก็ไม่ต่างกับเรื่องก่อนหน้านี้ที่ฮือฮากันมากเกี่ยวกับการเปิดทางให้กลุ่ม ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SHIN) เข้ามาถือหุ้นใน EGV แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบลง ทั้งที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทแล้ว แต่การเงียบลงไม่ได้หมายความว่าดีลนี้จะล้มแต่อย่างใด

นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า การร่วมมือกันเพื่อทำธุรกิจอาจเริ่มต้นใหม่และจบลงเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะอย่างน้อย EGV ต้องการพันธมิตร ซึ่งหากได้พันธมิตรที่มีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง ย่อมส่งผลดีต่อสายป่านทางการเงินที่จะเข้ามาเสริมงานได้ด้วย ซึ่ง EGV ก็เป็นที่จับตาของวงการไม่น้อยว่าการออกหุ้นเพิ่มทุนล็อตดังกล่าวที่ว่าจะออก 115 ล้านหุ้นพร้อมด้วยวอร์แรนต์ฟรีให้กับผู้ถือหุ้นเดิมด้วย

สำหรับไตรมาส 2 ปีนี้ EGV ยังมั่นใจในผลการดำเนินงานว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย เพราะช่วงนี้มีภาพยนตร์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาชนที่จะเข้าฉาย และเป็นช่วงที่นักเรียนปิดภาคการศึกษา จึงจะมีลูกค้าเข้าชมภาพยนตร์มากขึ้นกว่าปกติ

ขณะที่การขยายงานปีนี้ คงต้องล่าช้าไป และการเปิดสาขาโรงภาพยนตร์เพิ่มอีก 3 แห่งปีนี้คงต้องล่าช้าออกไปด้วย จากเดิมที่จะเปิดต้นปีนี้ก็ต้องเลื่อนไปเป็นต้นปีหน้า ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเหตุที่ต้องเลื่อนออกไป เพราะโปรเจกต์ไม่พร้อม ขณะเดียวกันเงินที่จะเป็นทุนในการลงทุนถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาด้วย

อย่างไรก็ตาม EGV ยังยืนยันว่าปีนี้เป้าหมายรายได้ของบริษัทยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้และไม่กระทบกันระหว่างการสร้างรายได้ปีนี้ กับแผนการลงทุนของบริษัท โดยก่อนหน้านี้ EGV ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปีนี้ไว้ที่ 15% พร้อมกับการเตรียมหาสถานที่ที่เหมาะสม ในการเปิดศูนย์บันเทิงแห่งใหม่ แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากปลายปี 46 ที่บริษัทเปิดสาขาเพิ่มใหม่คือ อีจีวี สาขาเมโทรโปรลิสที่ราชดำริ และเป็นสาขาที่บริษัทมั่นใจมากว่าจะทำเงินเข้ากระเป๋าไม่น้อยในแต่ละปี ทำให้บริษัทปรับเป้าหมายของการเติบโตเพิ่มจากเดิมเป็น 30% เพราะคาดว่ารายได้จากสาขาเมโทรโปรลิสจะทำเงินเข้ามาในบริษัทอย่างมาก

โดยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยงวดไตรมาส 1 ของปี 47 (1 ม.ค. 47 - 31 มี.ค. 47) มีกำไรสุทธิ 19.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 83 หรือ 8.71 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1 ของปี 46 (1 ม.ค. 46 - 31 มี.ค. 46) ที่บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 10.48 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 3 ของปี 47 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 318.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.16 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 22 จากงวดไตรมาส 3 ของปี 46 สาเหตุที่รายได้รวมเติบโตในระดับสูง เป็นผลจากรายได้ธุรกิจโฆษณาที่เติบโตสูงมากถึงร้อยละ 190 จาก 30.65 ล้านบาท เป็น 88.86 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามภาวะอุตสาหกรรมโฆษณาผ่านสื่อโรงภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ประกอบกับบริษัทได้พันธมิตรทางการค้าเพิ่มหลายราย

นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีรายได้ค่าเช่าและบริการที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 619 จาก 3.96 ล้านบาทในไตรมาส 3 ของปี 46 เป็น 28.48 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับรายได้ค่าเช่าห้องคาราโอเกะเพิ่มมากขึ้นและขยายพื้นที่ให้เช่าในสาขาใหม่

ผลจากการขยายธุรกิจ ทำให้ค่าใช้จ่ายรวมเติบโตในทิศทางเดียวกับรายได้โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 เป็น 285.39 ล้านบาท จาก 233.63 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 46 โดยต้นทุนขายพุ่งขึ้นร้อยละ 20 เป็น 241.58 ล้านบาท ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารก็โตร้อยละ 35 เป็น 43.63 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการเปิดให้บริการสาขาแห่งใหม่คือ เมโทโปรลิส เมื่อปลายปี 46 ที่ผ่านมา อีกทั้งการเพิ่มงบโฆษณาประชาสัมพันธ์และการจ้างพนักงานตามส่วนงานเพิ่มเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายลดลงจากภาวะของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us