Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 พฤษภาคม 2547
บิ๊กบลจ.ทหารไทยยอมรับควบแบงก์ทำธุรกิจชะลอ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารทหารไทย
โฮมเพจ ธนาคารดีบีเอสไทยทนุ

   
search resources

ธนาคารดีบีเอสไทยทนุ
ธนาคารทหารไทย
ทหารไทย, บลจ.
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย - IFCT
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
โชติกา สวนานนท์
Funds




บิ๊กบลจ.ทหารไทย ยอมรับ ควบ TMB-DTDB-IFCT ส่งแผนขยายธุรกิจบลจ.ทหารไทยชะลอตัวเล็กน้อย แต่มั่นใจ ปีนี้ NAV เติบโตตามเป้า 20% เหตุหลังรวมเสร็จได้สาขาและฐานลูกค้าเพิ่มจากดีบีเอสไทยทนุ นอกจากนั้น ปรับกลยุทธ์การบริหารใหม่ เตรียมออกกองทุนหลากหลายเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้า ด้านภาพรวมเศรษฐกิจยังมีมุมมองเป็นบวก แม้เกิดวิกฤตน้ำมัน-ดอกเบี้ย เชื่อธุรกิจไทยเพิ่งเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้น

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ของบลจ.ทหารไทยจะโตประมาณ 20% จากสิ้น ปี 2546 ที่มี NAV 50,000 ล้านบาท แม้ขณะนี้มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารและมูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหน่วยลงทุนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากต้นปีมากนัก

ทั้งนี้ นอกจากความผันผวนของการลงทุนในตลาดการเงิน ทั้งตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้นที่เป็นปัจจัยขัดขวางให้บริษัทไม่สามารถขยายตัวตามเป้าได้เร็วแล้ว ปัจจัยหนึ่งที่มีผลกระทบอย่างมากคือการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทย ที่เป็นบริษัทแม่คือธนาคารทหารไทย (TMB) กับธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ (DTDB) และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IFCT) ที่ยังไม่เรียบร้อยทำให้การขยายงานด้านการขายกองทุนรวมไม่สามารถดำเนินงานได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยปัจจุบันบริษัทกระจายการขายหน่วยลงทุนผ่านธนาคารทหารไทยอยู่ 80%

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการควบรวมกิจการเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะได้ประโยชน์จากการที่มีช่องทางการขายเพิ่มมากขึ้นจากสาขาของธนาคาร ดีบีเอส ไทยทนุ อีกประมาน 60 สาขา ที่เมื่อรวมกับสาขาของธนาคารทหารไทยเดิมที่มีอยู่ประมาณ 400 สาขา จะทำให้บริษัทมีสาขาเพิ่มเป็นเกือบ 500 สาขา ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าและจำนวน เม็ดเงินในการลงทุนผ่านกองทุนรวมของบริษัทให้เพิ่มมากขึ้นตามเป้าหมายในปลายปีได้ นอกจากนี้ยังอาจจะได้ผลประโยชน์จากการปรับโครงสร้างการบริหารองค์กรใหม่ ที่จะทำให้สินค้าของบริษัทสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น

นางโชติมา กล่าวต่อว่า บริษัทได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การบริหารกองทุนใหม่ด้วยการเตรียมออกกองทุนที่มีลักษณะการลงทุนที่หลากหลายให้นักลงทุนเลือกลงทุนในปีนี้อีก 6-7 กองทุน หากการลงทุนในตลาดหุ้นมีทิศทางการลงทุนที่ดีขึ้น คาดว่าบริษัทจะสามารถเพิ่มขนาดสินทรัพย์ได้ตามเป้าหมาย โดยปัจจุบันบลจ.ทหารไทยมีมาร์เกตแชร์อยู่ที่ระดับ 8.89% ซึ่งถือเป็นอันดับ 3 ในธุรกิจกองทุนรวม

ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับกลยุทธ์สำหรับกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ โดยได้มีการกำหนดอายุการลงทุนที่ชัดเจนขึ้นเพื่อให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามความต้องการ เช่น กองทุน 7/49 เป็น กองทุนปิดที่มีอายุกองทุนประมาน 2 ปีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยประมาน 2.75% ต่อปี สามารถระดมเงินลงทุนได้ประมาน 1 พันล้านบาท กองทุน 1/51 เป็นกองทุนปิดที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ตลอดแต่ไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ก่อนครบกำหนดอายุกองทุน ที่ 3.5 ปี ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนสูง ซึ่งจะทำการเสนอขายต่อนักลงทุนระหว่างวันที่ 7-10 มิ.ย.นี้ และกองทุน 9/49 เป็นกองทุนปิดที่มีอายุโครงการประ-มาณ 2 ปี อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 2.75% ต่อปี อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตลาดตราสารหนี้ยังมีข้อจำกัดจากความไม่สมดุลของตลาดรอง แม้จะมีสินค้าในตลาดแรกแต่ในตลาดรองกลับขาดสภาพคล่อง นอกจากนั้น บริษัทยังมีกองทุน SET 50 ปันผล เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักลงทุนสถาบัน ที่ต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี

นางโชติมา กล่าวถึงแผนการออกกองทุนคุ้มครองเงินต้นว่า กองทุนนี้จะมีนโยบายการลงทุนแบบผสมระหว่างตราสารหนี้กับตราสารทุน โดยจะนำผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้มาลงทุนในตราสารอนุพันธ์ประเภทออปชัน ซึ่งจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้นหากราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น และเมื่อครบอายุไถ่ถอนก็อาจจะได้ประโยชน์จากการถือหุ้นดังกล่าวได้ โดยกองทุนนี้เดิมจะสามารถออกเสนอขายได้ในปีนี้ และมีอายุการลงทุนประมาน 3 ปี แต่ต้องเลื่อนออกไปก่อนเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.มีประกาศให้การดำเนินการซื้อขายในตราสารทุนประเภทออปชัน จะต้องมีใบอนุญาตที่เฉพาะเจาะจงในตราสารดังกล่าวก่อน นอกจากนี้ตลาดหุ้นเองก็ยังผันผวนมาก ทำให้มูลค่าออปชันสูงเกินไปด้วย จึงจะต้องศึกษารายละเอียดการลงทุนในกองทุนดังกล่าวอย่างรอบคอบอีกครั้ง รวมถึงศึกษาความต้องการลงทุนในกองทุนดังกล่าวของนักลงทุนก่อนด้วย

ส่วนกองทุนหุ้นระยะยาวที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีนั้นได้รับความสนใจจากนักลงทุน ค่อนข้างมาก แต่คาดว่าการเติบโตของกองทุนนี้จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับการเติบโตของกองทุน RMF และเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนมีการบริหารการลงทุนที่ดีขึ้นด้วย

นางโชติกา กล่าวต่อว่า บลจ.ทหารไทยยังคงมีมุมมองที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ เนื่องจากเชื่อว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นได้ไม่มากไปกว่านี้ ส่วนการที่จีนประกาศชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจนั้นก็เป็นเพียงการเติบโตในอัตราที่ลดลงเท่านั้น ไม่น่าจะมีผลกระทบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยมากนัก

อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวยังคงมีความกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นแต่ในระยะสั้นนี้ยังไม่น่ากังวลเท่าใดนัก เนื่องจากเชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำได้ในกรอบที่จำกัดมาก และเศรษฐกิจสหรัฐฯก็เพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นานนัก นอกจากนี้ จากการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยก็ยังอยู่ในระยะต้นของวัฏจักรธุรกิจ เชื่อว่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับความผันผวนต่างๆ ได้

ทั้งนี้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นภายใต้การบริหารของบริษัทก็ยังไม่มีการขายตัดขาดทุนแต่อย่างใด

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us