Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 พฤษภาคม 2547
ทศทถกอัยการต้านทรูเชื่อมมือถือรถใต้ดิน             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ซีเมนส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โฮมเพจ กสท โทรคมนาคม
โฮมเพจ แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส - AIS
โฮมเพจ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ซีเมนส์ (ประเทศไทย), บจก.
แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส, บมจ.
กสท โทรคมนาคม, บมจ.
ทศท คอร์ปอเรชั่น
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ช.การช่าง, บมจ.
รถไฟฟ้ากรุงเทพ, บมจ.
ทรู คอร์ปอเรชั่น, บมจ.
เรเดียน คอมมูนิเคชั่น เน็ตเวิร์ค - RCN
สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
Mobile Phone




ทศททำหนังสือหารืออัยการสูงสุด ขอความชัดเจนประเด็นกฎหมายเกี่ยวกับรฟม. ทรูหรือเอไอเอสสร้างโครงข่ายโทรศัพท์มือถือทุกระบบภายในรถไฟฟ้าใต้ดินเชื่อมกับภายนอกเพื่อให้บริการประชาชนจะทำได้หรือไม่ คนในทศทชี้งานนี้ถูกหลักการ แต่ผิดกฎหมาย ยันจัดการปัญหาไม่ดีมีสิทธิ์กระเทือนหมอเลี้ยบ

แหล่งข่าวจากบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมาทศทได้ทำหนังสือหารืออัยการสูงสุดกรณีติดตั้งระบบโครงข่ายในอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน โดยระบุว่าตามที่บริษัท ทีเอ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ทำสัญญาร่วมการงานกับทศท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายเลขหมายโทรศัพท์ในกทม.โดยบริษัทต้องติดตั้งและส่งมอบอุปกรณ์ในระบบโทรศัพท์จำนวน 2.6 ล้านเลขหมายให้ทศทตามเงื่อนไขของสัญญา และต้องขอความเห็นชอบจากทศทก่อนการดำเนินการ

ปรากฏว่าปัจจุบัน บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ (รฟม.) ได้จัดทำระบบสื่อสารโทรคมนาคมภายในอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน โดยระบบดังกล่าวจะให้บริการ เชื่อมต่อโครงข่ายโทรศัพท์มือถือทุกระบบ ระหว่างภายในและภายนอกอุโมงค์ ซึ่งรฟม.เคยทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือให้ทศทเป็นผู้ดำเนินการ แต่ต่อมาขอยกเลิกข้อตกลงดังกล่าวและอาจให้ทรูหรือเอไอเอสเป็นผู้ดำเนินการแทน ทศทจึงขอหารืออัยการสูงสุดในประเด็นกฎหมายที่เกี่ยวกับสัญญาดังนี้

1.รฟม.หรือทรูหรือเอไอเอส สามารถสร้างโครงข่ายระบบสื่อสารภายในอุโมงค์และเชื่อมต่อโครงข่ายดังกล่าวออกสู่ภายนอกอุโมงค์เพื่อให้บริการ ประชาชน จะดำเนินการได้หรือไม่และจะขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม ปี 2544 หรือไม่อย่างไร

2. ทรูหรือเอไอเอส จะเป็นผู้สร้างโครงข่ายภายในอุโมงค์และเชื่อมต่อโครงข่ายออกสู่ภายนอกอุโมงค์เพื่อให้บริการประชาชนทั่วไปได้หรือไม่ จะขัดต่อสัญญาร่วมการงานที่ทำไว้กับทศทหรือไม่อย่างไร และ 3. หากทรูหรือเอไอเอสจะดำเนินการให้บริการเชื่อมต่อโครงข่ายระหว่างภายในและภายนอกอุโมงค์ จะต้องขออนุญาตจากทศทก่อนหรือไม่ ในฐานะเป็นผู้ร่วมการงานกับทศทตามสัญญา และทรัพย์สินดังกล่าวจะต้องโอนให้ ทศท ตามสัญญาหรือไม่

แหล่งข่าวกล่าวว่าประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นผลกระทบโดยตรงกับน.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เนื่องจากในระหว่างยังไม่มีคณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีถือเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ทำหน้าที่กำกับดูแลในช่วงสุญญากาศดังกล่าว ตามพ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม ปี 2544 ดังนั้นหากบริษัท เรเดียนซ์ คอมมูนิเคชั่น เน็ตเวิร์ก ซึ่งมีทรู,ช.การช่างและซีเมนส์ให้บริการเชื่อมโยงสัญญาณระบบสื่อสารโทรคมนาคมกับภายนอกเพื่อให้บริการประชาชนทั่วไป เริ่มให้บริการ หากยังมีความคลุมเครือในข้อกฎหมาย หรือหากผิดกฎหมาย ในประเด็นที่ไม่สามารถให้ใบอนุญาตได้เนื่องจากยังไม่มีกทช. น.พ.สุรพงษ์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นถอดถอน

"ตอนนี้ฝ่ายค้านมีข้อมูลในเรื่องนี้มากพอสมควร หากเรเดียนซ์เริ่มให้บริการเมื่อไหร่ ก็อาจเสนอเรื่องถอดถอนหมอเลี้ยบกับปปช. เพราะถือว่าไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย"

แหล่งข่าวกล่าวว่า ตามที่ทศทส่งเรื่องให้อัยการ ตีความเพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่ารฟม.ไม่สามารถดำเนินการในเรื่องบริการสื่อสารโทรคมนาคมเคลื่อนที่ ที่เชื่อมโยงด้วยระบบวิทยุทุกย่านความถี่ (โทรศัพท์มือถือ) ภายในอุโมงค์กับภายนอกเพื่อให้บริการประชาชนทั่วไปได้ รวมทั้งไม่สามารถอนุญาตให้นิติบุคคลใดมาดำเนินการให้บริการได้เช่นกัน จะมีก็แต่ ทรูหรือเอไอเอส ที่สามารถดำเนินการได้ในลักษณะการเช่าพื้นที่ติดตั้งเสาอากาศได้ตามสัญญาร่วมการงาน แต่หลักปฏิบัติสากลทั่วไป จะใช้วิธีให้มีบริษัทกลางมาดำเนินการแทน แล้วผู้ให้บริการทุกรายมาร่วมใช้ในอัตราที่เหมาะสมและเป็นธรรม แต่บริษัทกลางดังกล่าวก็ต้องได้รับใบอนุญาตจากกทช.ก่อน ซึ่งในช่วงกทช.ยังไม่เกิดจะต้องอาศัยสิทธิตามกฎหมายของทศทหรือบริษัท กสท โทรคมนาคม เพื่อเป็นเจ้าภาพตั้งบริษัทดังกล่าวขึ้นมา

"การตั้งบริษัทเรเดียนซ์ถือว่าถูกหลักการปฏิบัติสากล แต่ผิดกฎหมายและผิดวิธีการ วิธีที่ถูกต้องคือทำตามเอ็มโอยูที่รฟม.ได้ลงนามไว้กับทศทเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2545 ซึ่งกระทรวงไอซีที โดยคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงได้รับทราบเอ็มโอยูดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. 2546 ดังนั้นหากให้เรเดียนซ์ให้บริการก็เท่ากับกระทรวงไอซีทีรู้แต่เพิกเฉยไม่กำกับดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย"

แหล่งข่าวกล่าวว่าขณะนี้เรเดียนซ์ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วยการสร้างข่ายสาย (WIRE WAY COMMUNICATION) ภายในสถานีเสร็จเรียบร้อย ส่วนข่ายสายภายในสถานีที่เชื่อมต่อกับข่ายสายทศท ภายนอกสถานี มีการก่อสร้างท่อร้อยสายเกือบครบทุกสถานีแล้ว ซึ่งทำให้การสร้างข่ายสายโครงการขยายโครงข่ายเพื่อรองรับรถไฟฟ้าใต้ดินเหลือเพียงงานภายนอกสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นงานส่วนน้อย รวมทั้งรฟม.ไม่ให้ทศทเข้าดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการสร้างข่ายสายและไม่แจ้งความต้องการใช้ข่ายสายของทศท ทั้งๆ ที่ทศทได้บริษัท เอ็นทีคอนเข้าดำเนินการ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นทศทก็คงต้องโดนบริษัทดังกล่าวฟ้องร้อง

ด้านน.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า ถึงบริษัท เรเดียนซ์ จะวางระบบเชื่อมโยงเสร็จแล้วก็ตาม ก็ยังไม่สามารถ ให้บริการได้ เพราะต้องรออัยการสูงสุดชี้ขาดประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับสัญญาร่วมการงานดังกล่าวเสียก่อน

"ต้องรอผลจากอัยการสูงสุด หากให้บริการตอนนี้ถือว่าบริษัท ทำผิดกฎหมาย"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us