ความพยายามสร้างสินค้าให้เชื่อมโยงกับความคิดในเชิงอุดมคติทางสังคม มักจะเกิดขึ้นโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
ภายใต้การส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะผ่านกระบวนการโฆษณาสินค้า และจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
ภาพที่ขัดแย้งในเรื่องนี้อย่างน่าสนใจได้เกิดขึ้น
โดยเฉพาะสินค้าโทรศัพท์ไร้สาย และธุรกิจบริการบัตรเครดิตอย่างมาก
โดยมีบริษัทแอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส (ADVANC) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า
AIS และบริษัทบัตรกรุงไทย หรือ KTC เป็นตัวแทนในฐานะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ที่เติบโตต่อเนื่อง
บริษัทแรกหาดูรายละเอียดได้จาก "ผู้จัดการ 100" KTC แม้ไม่อยู่ใน "ผู้จัดการ
100" แต่ผลประกอบการก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดมาก ทั้งสองบริษัทเป็นภาพสะท้อนของการเติบโตของชีวิตสมัยใหม่ของไทย
เป็นภาพสะท้อนของระบบเศรษฐกิจไทยที่เติบโตด้วย
บางทีการต่อสู้ในสนามธุรกิจที่ดุเดือด และชิงไหวชิงพริบกันมาก อาจจะทำให้นักการตลาดบางคนมองเห็นภาพที่ชัดในเชิงโครงสร้างธุรกิจระดับสังคมไม่ออก
บ่อยครั้งเกมต่อสู้ที่เป็นกระแสฉาบฉวยก็มักจะไหลลื่นไปจนเกินความพอดี
ผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องเก่าๆ ของ Kevin Costner เรื่อง The Postman จะให้ความคิดเชิงอุดมคติของการสื่อสารในสังคมได้อย่างดี
และผมก็เชื่อว่าพลังของความคิดทำนองนี้ คือแรงบันดาลใจสำคัญทางธุรกิจสื่อสารในโลกยุคนี้ด้วย
ความเป็นจริงก็คือสินค้าชนิดนี้กำลังสร้างภาพเชิงอุดมคติให้กับสังคม ที่ว่าด้วยการบริโภคอย่างฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นพื้นฐานของสังคม
แม้ว่าจะดูเป็นแนวทางการตลาดสมัยใหม่ที่อ้างกันว่าเป็นสินค้าที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ก็ตาม
หลักการข้อหนึ่งที่สำคัญมากคือระบบสื่อสารจะช่วยลดช่องว่างทางสังคม ลดความเสียเปรียบระหว่างเมืองกับชนบทได้ด้วย
ผมเคยเขียนเรื่องนี้มาถึง 10 ปีแล้วว่า ต้นทุนโอกาสของชนบทมีสูงกว่าคนเมืองหลวงในเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง
คือต้นทุนของการสื่อสาร โอกาสที่ว่ามีในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา ไปจนถึงธุรกิจบนพื้นฐานความจริงที่กรุงเทพฯ
คือศูนย์กลางของสังคมไทยที่ชนบทเป็นเพียงบริวารเท่านั้น
หลักการที่ตอบสนองข้างต้นได้ มีความหมายถึงความเติบโตของระบบสื่อสารในมิติของการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า
และนี่ก็คือความเชื่อมโยงที่มีคุณค่าในเชิงอุดมคติและธุรกิจเข้าด้วยกัน
เช่นเดียวกับบัตรเครดิตที่มุ่งตอบสนองความสะดวกสบายในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ
การบริหารเงิน ไปจนถึงทำให้การหมุนเวียนกระแสเงินในระบบเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แต่แล้วในโมเมนตัมในการแข่งขันธุรกิจเหล่านี้ มุ่งส่งเสริมให้คนบริโภคมากขึ้น
ฟุ่มเฟือยมากขึ้น
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคสินค้าจากต่างประเทศมากขึ้น ในกรณีการสื่อสารไร้สาย
และการจ่ายค่าธรรมเนียมกับบริษัทต่างชาติมากขึ้น ในกรณีบัตรเครดิตที่อยู่ภายใต้เครือข่ายของ
VISA และ Master Card
ดังนั้น เมื่อสัญญาณของความไม่แน่นอนของสถานการณ์ต่างๆ ที่กระทบต่อระบบเศรษฐกิจมากขึ้นในเวลานี้
ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน ตลาดหุ้น หรือการก่อการร้าย ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเบื้องแรก
เชื่อแน่ว่าทั้งสองบริษัทก็ต้องเผชิญการปรับความคิด ปรับตัวกับภาวะที่ผู้บริโภคมีความเฉื่อยเนือยต่อการกระตุ้นของเทคนิคทางการตลาดมากขึ้น
ดูเหมือนสัญญาณการปรับตัวจะเริ่มขึ้นแล้ว