ศิลปะตกแต่งแนว eclectic style นิยมกันแพร่หลายเป็นครั้งแรกตามบ้านสมัย
Victoria เพราะเป็นยุคที่ผู้คนสามารถเข้าถึงและหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งงานประดิษฐ์ได้จากทั่วทุกมุมโลก
แต่เดิมการตกแต่งแนวนี้เป็นการผสมผสานสไตล์ Renaissance และ Gothic ของยุคกลางเข้ากับ
French Rococo ซึ่งเป็นแนวโรแมนติก ผลที่ออกมาจึงแลดูยุ่งเหยิง บางครั้งก็กระจุกตัวเป็นกลุ่มๆ
ผิดกับการตกแต่ง eclectic style สมัยใหม่ซึ่งมีความนุ่มนวลและละเอียดอ่อนกว่ามาก
เพราะเน้นการใช้ความกลมกลืนของสีและสิ่งสะสมหรือเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ใน theme
เดียวกันมาสรรค์สร้างรูปแบบที่แลดูแล้วให้ความรู้สึกผ่อนคลายมากกว่า แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราเหมือนเดิม
นิตยสาร Homes & Gardens ฉบับเดือนมีนาคม 2004 จึงให้ข้อเสนอแนะง่ายๆ
เป็นแนวทางดังนี้
1. เชื่อมสไตล์หลากหลายเข้าด้วยกัน
การแต่งบ้านแนว eclectic style ที่ใช้หลักนี้เป็นการผสมผสานความหลากหลายของลวดลายและสีสันของเฟอร์นิเจอร์
และสิ่งประดับตกแต่งที่อยู่ด้วยกันให้แลดูกลมกลืน ที่เห็นในภาพประกอบเป็นการใช้ผ้าต่างลายต่างสีมาเย็บปลอกหมอนอิงและเบาะรองนั่ง
แต่ดูแล้วกลมกลืนเข้ากันดี เพราะต่างก็มีสีของผ้าบุเก้าอี้นวมหรือโซฟาเป็นสีร่วม
และทำหน้าที่เชื่อมความหลากหลายนั่นเอง
2. เลือก theme
eclectic style เป็นเรื่องของการนำของสะสมหรือเครื่องตกแต่งที่เป็นของรักของหวงของผู้เป็นเจ้าของ
อาทิ ภาพเขียน เครื่องกระเบื้อง หรืองานประติมากรรมออกมาโชว์โดยไม่ทำให้เกิดความรู้สึกว่า
บริเวณนั้นเป็นที่กองหรือสุมสิ่งของดังกล่าว
ทริกง่ายๆ ในการทำให้เกิดความรู้สึกกลมกลืนแก่ผู้พบเห็นก็คือ กำหนด theme
ขึ้นมาเพียง 2 หรือ 3 themes เท่านั้น อย่าให้มากกว่านี้เป็นอันขาด ตัวอย่างในภาพคือ
การนำเครื่องตกแต่งจากแอฟริกาและผ้าของอินเดียมาตกแต่ง ให้ผสมผสานกับเครื่องแต่งบ้านสไตล์คันทรี่ของอังกฤษ
เพื่อสร้างบรรยากาศของบ้านยุคอาณานิคม จากนั้นเพิ่มความเก๋ไก๋ที่ทำให้รู้สึกถึงแบบฉบับเฉพาะตัวของเจ้าของบ้าน
ด้วยการนำเอาของที่ระลึกจากชายหาดมาวางคู่กับเครื่องเซรามิก
3. การใช้สี
การผสมผสานสีสันสดใสเข้าด้วยกันถือเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของ eclectic style
เลยทีเดียว ในภาพเป็นการเลือกใช้โทนสีเข้มของแดงตัดกับน้ำเงินแก่ ผลที่ออกมาคือความกลมกลืน
เพราะใช้หลักที่ว่า พื้นที่ของโทนสีที่นำมาตัดกันต้องไม่เกิน 75 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่รวม
จากนั้นตัดด้วยสีขาวเพื่อดึงดูดความสนใจและทำให้มุมนั้นสดใสขึ้นทันที
4. การผสมผสานลวดลาย
eclectic style ไม่เพียงแต่จะเป็นเรื่องของการผสมผสานสไตล์เท่านั้น หากยังรวมถึงลวดลายด้วย
ในกรณีนี้คือ การเลือกใช้ผ้าพิมพ์ลายดอกสไตล์คลาสสิกของอังกฤษ ซึ่งแลดูคล้ายๆ
กันมาเชื่อมโยงเข้ากับเครื่องตกแต่งของจีน มีหมอนข้างที่ใช้ผ้าลวดลายเกี่ยวกับน้ำ
ซึ่งให้ความรู้สึกอ่อนโยนและอ่อนนุ่ม รวมทั้งผ้าปูที่นอนสีเบจทำหน้าที่ช่วยเสริมให้สีดำของผ้าม่านและลิ้นชักแลดูเด่นขึ้น
