การนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับความสามารถของผู้จัดการกองทุนที่ MFC นำมาใช้
ถือเป็นกลยุทธ์หนึ่ง ซึ่งสามารถทำให้การบริหารกองทุนในแต่ละวันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัด ความรู้ความสามารถของผู้จัดการกองทุน เปรียบเสมือนกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
(Fundamental Analysis) ที่ใช้ในการคัดเลือกหุ้นที่จะซื้อเข้ามาไว้ในกองทุน
ส่วนเทคโนโลยีก็เปรียบเหมือนการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)
ที่ใช้เพื่อ บ่งบอกการตัดสินใจว่าในสถานการณ์ขณะนั้น ผู้จัดการกองทุนควรจะซื้อ
หรือขายหุ้นออกไป เพื่อปรับพอร์ต
และเทคโนโลยีนี้ก็มิได้ตายตัว กองทุนแต่ละกองทุนในความดูแลของ MFC ได้ถูกเขียนโปรแกรมสำหรับการบริหารไว้โดยเฉพาะ
"เอ็มเอฟซีสินทรัพย์มั่นคง" ถือเป็น กองทุนแรกที่ MFC นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้
โดยกองทุนนี้มีเงื่อนไขสำคัญคือ จะต้องบริหารให้ NAV ไม่ตกลงมาต่ำกว่า 10
บาท เพื่อเป็นการคุ้มครองเงินต้นตามคอนเซ็ปต์
เมื่อผู้จัดการกองทุนสามารถเลือกหุ้นจำนวนหนึ่ง ที่ต้องการซื้อเข้ามาไว้ในพอร์ตได้แล้ว
โปรแกรมที่ถูกเขียนเอาไว้ จะเริ่มทำงาน โดยดูการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นเหล่านั้นในแต่ละวัน
เมื่อราคาหุ้นมีสัญญาณว่ากำลังจะลดลงต่ำจน NAV ใกล้จะถึง 10 บาท โปรแกรมจะเตือนให้ผู้จัดการกองทุนต้องขายหุ้นในพอร์ตออกมา
แล้วถือไว้เป็นเงินสด
เมื่อแนวโน้มของราคาหุ้นเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น โปรแกรมก็ส่งสัญญาณเตือนเช่นกัน
ให้ผู้จัดการกองทุนเริ่มนำเงินสดที่ถือไว้เข้าไปซื้อหุ้น เพื่อเพิ่มผลตอบแทนหรือเพิ่มมูลค่าให้กับ
NAV
"MFC Set 50" ซึ่งมีเงื่อนไขว่า NAV ไม่ควรมีความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่าง
ไปจากความเคลื่อนไหวของดัชนี Set 50 มากนัก หรือควรจะเคลื่อนไหวที่เหนือกว่า
กองทุนนี้จึงมีโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมาช่วยจัดการถึง 2 ชั้น
ชั้นแรก เป็นการหารูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมที่สุด โดยก่อนเริ่มลงทุน ผู้จัดการกองทุนจะคัดเลือกหุ้นจำนวนหนึ่ง
ที่อยู่ใน Set 50 ใส่เข้าไปไว้ในพอร์ตจำลอง โปรแกรมที่ถูกเขียนจะ run โดยอิงกับความ
เคลื่อนไหวของราคาย้อนหลังประมาณ 1 ปี เพื่อคัดเลือกหุ้น และจำนวนหุ้นที่มีความเปลี่ยนแปลงเบี่ยงเบนไปจากความเคลื่อน
ไหวของดัชนี Set 50 น้อยที่สุด เมื่อได้ list ของหุ้นดังกล่าวแล้วผู้จัดการกองทุนก็เริ่มนำเงินไปซื้อตามที่โปรแกรมกำหนด
ชั้นที่ 2 เมื่อเริ่มนำเงินเข้าไปลงทุนจริงแล้ว โปรแกรมจะติดตามความเคลื่อน
ไหวของราคาหุ้นในพอร์ต เพื่อดูว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จะทำให้ NAV
ของ กองทุนเริ่มเบี่ยงเบนไปจากดัชนี Set 50 มากน้อยเพียงใด หากเริ่มเบี่ยงเบนมาก
โปรแกรมจะเตือนให้ผู้จัดการกองทุนต้องปรับพอร์ต เพื่อให้ NAV ต้องเกาะไปกับดัชนี
Set 50
ส่วน "เอ็มเอฟซีตราสารหนี้คืนกำไร" ก็เช่นกัน จะมีโปรแกรมเขียนไว้สำหรับการบริหารกองทุน
ที่ต้องทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถหาผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยได้ทุกเดือน
ตลอดอายุกองทุน 3 ปี
การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารกองทุนนี้ ถือเป็นยุทธศาสตร์หลักของ
MFC ที่ใช้เป็นจุดขาย ให้สมกับความ หมายของการเป็น Innovative Asset Management