4 บริษัทลีสซิ่ง คาเธ่ย์ลีสแพลน-กรุ๊ปลีส-เอเซียเสริมกิจ-ไมด้า ลีสซิ่ง จ่อคิวเข้าตลาดหลักทรัพย์
หวังดูดเงินไอพีโอขยายธุรกิจรองรับการแข่งขันที่ดุเดือด ด้าน บล.ธนชาติยันตลาดหุ้นไอพีโอยังไม่วาย
ชี้ตอนนี้รอแค่ ภาวะตลาดเอื้ออำนวย
แหล่งข่าวจากวงการวาณิชธนกิจ เปิดเผยว่า การที่สภาพเศรษฐกิจของประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น
ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้นทำให้หลายธุรกิจมีทิศทางที่ดีขึ้นตาม รวมถึงธุรกิจลีสซิ่ง
และเช่าซื้อ มีการขยายตัวมากขึ้นและส่งผลทำให้หลายบริษัทมีการระดมทุนเพื่อนำเงินมารองรับการขยายตัวและการแข่งขันซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าบริษัทที่ประกอบธุรกิจดังกล่าว
เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หลายบริษัท เช่น บริษัทฐิติกร จำกัด (มหาชน) (TK)
และบริษัทตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่ทำธุรกิจดังกล่าวและเตรียมจะเข้ามาจดทะเบียนอีกหลายบริษัท
โดยบริษัทที่ยื่นแบบรายการแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) ไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) แล้ว มีจำนวน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท คาเธ่ย์ลีสแพลน ที่จะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป
(IPO) จำนวน 12 ล้านหุ้น โดยแต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
และบริษัทกรุ๊ปลีส ที่มีบริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทยเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
สำหรับบริษัททำธุรกิจลีสซิ่งที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม และคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งพร้อมทั้งขาย
หุ้นได้ภายในปีนี้ เช่น บริษัทเอเซียเสริมกิจ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคารกรุงเทพ
มีบริษัทเซจ แคปปิตอลเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ จำกัด
(มหาชน) เป็นแกนนำการจัด จำหน่าย รวมทั้งบริษัทไมด้า ลีสซิ่ง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไมด้า
แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) (MIDA) ที่ล่าสุดได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า เตรียมจะกระจายหุ้นต่อประชาชนจำนวน
85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีบริษัท หลักทรัพย์อินเทลวิชั่น เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ การเข้ามาระดมทุนของ บริษัทลีสซิ่งดังกล่าวถือเป็นการขยายพอร์ตเพื่อที่จะให้สินเชื่อกับลูกค้าได้มากขึ้น
ซึ่งจะช่วยทำให้ การเติบโตของบริษัทมีทิศทางที่ดีขึ้น
ด้านนางสาวสุนันท์ เลิศศรีทอง ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ธนชาติ
กล่าวว่า ตลาดหุ้นไอพีโอในปัจจุบันยังไม่ถือว่าเป็นช่วงซบเซา แต่การที่หลายบริษัทชะลอแผน
การกระจายหุ้นออกไป เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวยเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกับในอดีตที่ตลาดไอพีโออยู่ในสภาพซบเซาจะเกิดจากบริษัท
มีปัญหาฐานะทางการเงินจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าภาวะตลาดหุ้นในขณะนี้จะค่อนข้างซบเซา แต่ในส่วนของ บล.ธนชาติ
ก็ยังมีลูกค้าที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากบริษัทต้องการระดมเงินเพื่อขยายกิจการ
และยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่ปัจจุบันบริษัท ต่างๆดังกล่าวยังไม่ต้องเร่งรีบที่จะกระจายหุ้นเนื่องจากรัฐบาลได้ขยายมาตรการสิทธิประโยชน์
ทางภาษีออกไป
นางสุนันท์กล่าวว่า สำหรับบริษัทที่มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และแต่งตั้ง
บล.ธนชาติเป็นที่ปรึกษาทางการเงินมีหลายบริษัท เช่น นิตยสารจีเอ็ม ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาด
หลักทรัพย์ใหม่ ระดมทุนเพื่อนำเงินขยายธุรกิจและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยคาดว่าภายในไตรมาส
3/47 จะสามารถกระจายหุ้นได้ นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง
อสังหาริมทรัพย์ ที่สนใจจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน