Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2542








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2542
จุลกร สิงห์โกวินท์ มืออาชีพตัวจริง             
 

   
related stories

ธนาคารเอเชีย-เอบีเอ็น แอมโร ลงตัวมากกว่าที่คิด
เอบีเอ็น แอมโร Dutch Colonizers

   
search resources

ธนาคารเอเชีย, บมจ.
จุลกร สิงหโกวินท์




มืออาชีพตัวจริง ายหนุ่มผู้วางตัวเหมือนนายธนาคารยุโรปอย่างจุลกร สิงหโกวินท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารเอเชีย (BOA) กำลังได้รับการกล่าวขวัญอย่างสูงคนหนึ่งในฐานะผู้บริหารธนาคารมืออาชีพที่ผ่านมาหลายยุคหลายสมัย คล้ายๆ ชีวิตของ แม่พลอย นิยายเรื่อง สี่แผ่นดินของม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความเฮงด้วยŽ เขาพูดทีเล่นทีจริง ในการอธิบายความเป็นมาของเขาเอง

จุลกร เป็นเด็กบ้านนอก เกิดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2493 ที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช บุตรชายคน เดียวของครอบครัว ที่บิดารับราชการ ส่วนมารดาทำธุรกิจทางด้านเหมืองแร่ และดีบุก และทำสวนยางพารา จึงมีฐานะที่เขาได้รับการสนับสนุนด้านการศึกษาอย่างดีมากคนหนึ่ง

จุลกร เติบโตและเรียนหนังสือชั้นประถมที่บ้านเกิดตัวเอง แต่เมื่อจะเรียนระดับชั้นมัธยมเขามุ่งหน้าลงใต้เพื่อเข้าศึกษาต่อในประเทศมาเลเซีย ยังไม่ทันสำเร็จการศึกษาระดับดังกล่าวถูกส่งไปเป็นนักเรียนประจำที่ประเทศอังกฤษ จากนั้นสอบเข้าเรียนระดับปริญญาตรี ที่ London School of Economics and Political Sciences และสำเร็จได้เกียรตินิยมสาขาเศรษฐศาสตร์

ชีวิตการทำงานของจุลกรเริ่มต้นที่ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เมื่อปี 2517 เป็นจังหวะเหมาะเจาะทีเดียวที่ BBL กำลังปรับตัวครั้งสำคัญในการจัดโครงสร้างองค์กรให้ทันสมัย และการพัฒนาบุคลากรที่จะเข้ามาดูแลลูกค้า ที่กำลังขยายตัวไปต่างประเทศ โดยเฉพาะลูกค้าที่ทำให้ธนาคารแห่งนี้ยิ่งใหญ่ในเอเชีย คือบรรดา Overseas Chinese ที่เติบโต มาจากธุรกิจพืชไร่ ดังนั้น ความจำเป็นหาลูกคนจีนที่พูดภาษาอังกฤษได้เพื่อประกบติดลูกค้าสายดังกล่าว ไม่เว้นแม้แต่จุลกรนักเรียนนอกที่ไร้ประสบการณ์ในขณะนั้น

พนักงานฝ่ายอำนวยการสินเชื่อภายในประเทศ เป็นหน้าที่แรกของจุลกร ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ ปิติ สิทธิอำนวย และเป็นผู้ให้โอกาสเขาในการเข้ามาทำงาน แต่อยู่ได้เพียง 2 ปี จุลกรถูกส่งตัวไปทำงานที่สาขาฮ่องกงในตำแหน่งเดิม ความจริงแล้วเขาถูกเลือกให้เป็นผู้ช่วย โชติ โสภณพนิช ขณะนั้นดำรงดำรงตำแหน่งผู้จัดการภาคพื้นเอเชีย

ทำงานอยู่กับโชติ โสภณพนิช ได้ประมาณ 3 ปี จุลกรตัดสินใจเดินทางไปเรียนต่อระดับปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจที่ Wharton School of Finance มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย อเมริกา ในช่วงที่ศึกษาอยู่จุลกรยังเป็นพนักงานและรับเงินเดือนจาก BBL อยู่ ถือว่าได้รับการสนับสนุนจาก โชติ โสภณพนิช อย่างดี

หลังจากจบปริญญาโท จุลกรทำงานที่ BBL สาขานิวยอร์ก ขณะเดียว กันได้เข้าไปฝึกวิทยายุทธ์ที่วอลล์สตรีท อีกด้วย ต่อมาในปี 2522 กลับมาสำนัก งานใหญ่เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าส่วน ฝ่าย วางแผนและควบคุมสาขาต่างประเทศ แต่อยู่ได้ไม่กี่เดือนถูกส่งไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการสาขาลอนดอน ปี 2524 กลับเข้ามารับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายพัฒนา ธุรกิจการต่างประเทศ

เขาเติบโตในสายปฏิบัติการ 11 ปีของจุลกรคลุกคลีอยู่กับงานด้านสินเชื่อทั้งในและต่างประเทศ ตำแหน่งสุดท้าย คือ รองผู้จัดการสายกิจการต่างประเทศ (ภาคพื้นเอเชียและเอเชียตะวันออก) ผนวกกับพื้นฐานการศึกษาดีเพียงพอที่ยศ เอื้อชูเกียรติ กรรม การผู้จัดการใหญ่ธนาคารเอเชียในขณะนั้น จะต้องชักนำให้เข้ามาเริ่มต้นกับธนาคารเอเชียในปี 2528 ในตำแหน่งผู้อำนวยการสายการเงินและธุรกิจ

การเดินออกจากธนาคารขนาดใหญ่มายังธนาคารขนาดเล็กของจุลกร เป็นการลาจากด้วยดีไม่ได้มีปัญหากับใคร แต่เขามีเจตนาดีที่อยากเรียนรู้งาน ให้เร็ว เนื่องจากที่ BBL เป็นเวทีขนาด ใหญ่ การทำงานจึงเป็นไปในลักษณะ specialize ถ้าจะเรียนรู้ทั้งหมดแน่นอนว่า จุลกรต้องใช้เวลานานทีเดียว ขณะที่การเรียนรู้ในธนาคารที่เล็กลงมาน่าจะคล่องตัวมากกว่า ประกอบกับความต้องการอยากทำงานในเมืองไทย จุลกรจึงตัดสินใจมาสู่อ้อมอกธนาคารเอเชีย และเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด เพราะถ้าเขายังอยู่ที่ BBL คงจะไม่ได้ขึ้นถึงตำแหน่งสูงสุดเหมือนที่ธนาคาร เอเชียให้เขาในปัจจุบัน

จุลกรพิสูจน์ฝีมืออยู่ได้ 4 ปี ได้โปรโมตขึ้นเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการตลาด ในปี 2532 และขึ้นเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ในปี 2534 จากนั้นภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี ได้รับเลือก เป็นกรรมการบริหารธนาคารในตำแหน่ง กรรมการรองผู้จัดการใหญ่

ที่รวดเร็วไปกว่านั้นเห็นจะได้ แก่การที่คณะกรรมการบริหารต่างเห็นพ้องต้องกันตามข้อเสนอของ ยศ เอื้อ-ชูเกียรติ ที่จะให้จุลกรขึ้นดำรงตำแหน่งแทนเขา ซึ่งจะไปรับตำแหน่งรองประ-ธานกรรมการในกลางปี 2535 ท่ามกลาง ความขัดแย้งระหว่างตระกูลเอื้อชูเกียรติ และภัทรประสิทธิ์ รุนแรงมากขึ้น

แม้ว่าจุลกรจะเป็นคนที่ยศนำเข้ามา แต่เขาแสดงความเป็นมืออาชีพ ที่ยืนอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นได้อย่างดี และนี่คือบุคลิกสำคัญของเขาที่ผลักดันให้เขาก้าวขึ้นอย่างรวดเร็ว

จุลกรสามารถอยู่ท่ามกลางความ ขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นได้ดีนั้น มาจากทีมงานที่เป็นปึกแผ่นของเขา

ต่อหน้าคนภายนอก เขาวางท่ามาดนายธนาคารมากทีเดียว แต่กับเพื่อนร่วมงานเขาสามารถเข้ากันได้กลม กลืน ไม่มีระบบขุนนางเช่นธนาคารอื่น อย่างหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว

ว่ากันว่าเขาเป็นนักประชาธิปไตย ในการบริหารมากคนหนึ่ง ซึ่งหายากในระบบธนาคารไทย


ลูกน้องเขาบางคนจะพยายามยกย่องความดีเด่นอย่างมาก แต่ในความเป็นจริงเกิดจากโครงการบริหารธนาคารที่ดีของธนาคารเอเชีย ที่สร้างมาตั้งแต่สมัย ยศ เอื้อชูเกียรติ นั่นเอง

ทีมบริหารของธนาคารเอเชีย เป็นคนรุ่นเดียวกันในทางความรู้และประสบการณ์ พวกเขามาสู่ธนาคารใหม่ในระยะใกล้เคียงกัน ความเป็นเพื่อนŽ การเคารพความคิดซึ่งกันและกัน ย่อม ทำให้โครงสร้างการบริหารดำเนินด้วยการถกเถียง แสดงความเห็น ความรู้กันอย่างมาก ซึ่งถือเป็นกระบวนทางธรรมชาติที่ว่า Knowledge Management ขององค์กรธุรกิจยุคใหม่ที่พูดกัน

จุลกรมีบทบาทผู้นำในการสรุปความคิดและตกผลึก กลั่นกรองความ คิดอย่างหลากหลายที่ถกเถียงกันอย่างมาก มาเป็นแนวทางการบริหารที่มีประสิทธิภาพต่อๆ ไป

จุลกรจึงกลายเป็นมืออาชีพที่ไม่ได้ก่อขึ้นจากตัวเขาเองล้วนๆ แต่เป็นอุบัติเหตุของการผสมผสานความรู้จากทีมงานของเขานั่นเอง

นี่คือ ความเฮงŽ แท้จริงที่เขากล่าวถึงความสำเร็จของเขา แม้ว่าผู้คนทั่วไปจะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us