Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 พฤษภาคม 2547
KPNทุ่ม600ล.รุกอสังหาฯผุดโปรเจกต์จับลูกค้าไฮโซ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

เคพีเอ็น กรุ๊ป, บจก.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เคพีเอ็น ออโตโมทีฟ, บมจ.
กฤษณ์ ณรงค์เดช
Real Estate




กลุ่ม "เคพีเอ็น" ผุดโครงการใหม่ออกมาเป็นล็อต โดยเฉพาะโปรเจกต์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ครั้งแรกในไทยแถบหัวหิน มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท มุ่งเจาะกลุ่มเศรษฐีไทยแบบไม่หวั่นสภาวะชะลอตัวของตลาด พร้อมเดินหน้าปรับโครง สร้างกลุ่มธุรกิจยานยนต์รวมเข้าด้วยกัน ดันเข้าระดมทุนในตลท. ช่วงไตรมาสสามเพื่อขยายธุรกิจ และกว้านซื้อกิจการเกี่ยวเนื่อง มั่นใจสิ้นปีมีรายได้รวมโตทะลุ 25% จากปีที่แล้วทำได้กว่า 6,300 ล้านบาท

นายกฤษณ์ ณรงค์เดช ซีอีโอ เคพีเอ็น กรุ๊ป เปิดเผยถึงทิศทางและนโยบายของกลุ่มเคพีเอ็น กับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ กลุ่มเคพีเอ็นได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มใหม่ โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 13 บริษัท แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจยานยนต์, กลุ่มธุรกิจการค้า, กลุ่มธุรกิจขนส่ง, กลุ่มธุรกิจดนตรี และกลุ่มธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ โดยในปีที่ผ่านมามีรายได้รวมกว่า 6,300 ล้านบาท

"สำหรับทิศทางการลงทุนในปีนี้ อสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจหนึ่งที่เคพีเอ็นให้สนใจอย่างมาก โดยประมาณช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ กลุ่มเคพีเอ็นจะมีการ เปิดตัวโครงการใหม่แถบหัวหิน มูลค่าโครงการกว่า 600 ล้านบาท ไม่รวมราคาที่ดิน ซึ่งเป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ครั้งแรกในไทย ที่เชื่อว่าจะสร้างความฮือฮาเช่นเดียวกับคอนโดมิเนียม หรูที่สุขุมวิทอีกครั้ง" นายกฤษณ์กล่าว

ส่วนการที่กลุ่มเคพีเอ็นกล้าลงทุน พัฒนาอสัง-หาริมทรัพย์อย่างเต็มรูปแบบ แม้ช่วงนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ในสภาวะลดความร้อนแรงลงมาก เมื่อเทียบกับช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้พัฒนาธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์หลายรายชะลอการลงทุนเพิ่ม แต่จากนโยบายของเคพีเอ็นที่จับกลุ่มเป้าหมายลูกค้าระดับ A+ ซึ่งการตัดสินใจซื้อขึ้นอยู่กับความพอใจเป็นหลัก จึงเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดี พิสูจน์ได้จากการที่แม้จะยังไม่เปิดโครงการ แต่มีผู้สนใจจองบ้านในโครงการนี้แล้วหลายยูนิต

ประกอบกับความสำเร็จจากโครงการ "The Cadogan" บูติกคอนโดมีเนียมหรูกลางใจเมือง ซอยสุขุมวิท 39 บนพื้นที่ 400 ตารางวา มูลค่าโครงการ 320 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 12-31 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาต่อตารางเมตรในพื้นที่เดียวกัน กลับปรากฏว่าได้รับการตอบรับสูงมาก ขายหมดภายใน 7 สัปดาห์ แสดงให้เห็นถึงความ เชื่อมั่นของลูกค้า และทำให้เคพีเอ็นกล้าที่จะลงทุนในโครงการใหม่ต่อเนื่อง

นายกฤษณ์กล่าวต่อว่า ในส่วนของธุรกิจอื่นๆ ของกลุ่มเคพีเอ็น ต่างก็มีแนวโน้มในการขยายตัวที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ที่มีทิศทางการเติบโตตามสภาพของตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าธุรกิจยานยนต์ของกลุ่มเคพีเอ็นปีนี้ จะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากสัดส่วนรายได้ทั้งหมดของกลุ่มกว่า 30%

"เหตุนี้เคพีเอ็นจึงได้มีการปรับโครงสร้างในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ ด้วยการรวมบริษัทที่เกี่ยวเนื่อง กัน 2-3 บริษัท มาอยู่ภายใต้บริษัท เคพีเอ็น ออโตโมทีฟ จำกัด เพื่อเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งคาดว่าจะเปิดขายแก่ประชาชนทั่วไปได้ ในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้" นาย กฤษณ์กล่าว

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เคพีเอ็นต้องเข้าตลท. ส่วนหนึ่งนอกจากรองรับการขยายธุรกิจที่มีอยู่แล้ว ยังสน ใจที่จะนำเงินจากการระดมทุนครั้งนี้ ไปซื้อกิจการบริษัทชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีแนวโน้มที่ดี ทั้งในรูปแบบ ของการร่วมทุน หรือเทกโอเวอร์ ซึ่งจะเป็นการขยาย ธุรกิจอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของกลุ่มเคพีเอ็น อีกวิธีหนึ่ง

ขณะที่กลุ่มธุรกิจขนส่งก็มีการเติบโตสูงตามสภาวะเศรษฐกิจ และการปรับตัวของธุรกิจในยุคใหม่ที่หันมาใช้บริการขนส่งมากขึ้น โดยในกลุ่มนี้กำลังเตรียมจะมีการขยายธุรกิจออกไปอีกในเร็วๆ นี้เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจดนตรีที่จะมีโปรเจกต์ใหม่ออก มา ด้วยการไปจับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ ซึ่งขอ ปิดไว้ก่อนแต่เมื่อเปิดเผยออกมาแล้วจะทำให้วงการฮือฮาเช่นกัน

นายกฤษณ์กล่าวว่า ส่วน "เคพีเอ็น พลัส" ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายอะไหล่รถจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ ในระบบแฟรนไชส์รูปแบบใหม่ครั้งแรกในไทย หลังจากเพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่กี่เดือน ขณะนี้มีการเซ็นสัญญาไปแล้วกว่า 60 ราย ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าไว้ประมาณ 100 ราย หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท โดยคาดว่าในปี 2006 เมื่อดำเนินการเปิดร้านได้เต็มรูปแบบ จะมีรายได้มากถึง 1,000 ล้านบาท

"ผลจากการรุกธุรกิจมากขึ้น ทำให้คาดว่าปีนี้กลุ่มเคพีเอ็นจะมีผลประกอบการเป็นกำไรต่อเนื่อง หรือมีรายได้รวมเติบโต 20-25% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งทำได้ทั้งสิ้นกว่า 6,300 ล้านบาท โดยสัดส่วนราย ได้มากที่สุดมาจากกลุ่มธุรกิจยานยนต์ประมาณ 30-40% รองลงมาจะเป็นกลุ่มธุรกิจการค้าและธุรกิจขน ส่ง อย่างละประมาณ 20% ที่เหลือจะมาจากกลุ่มธุรกิจ ดนตรีและอสังหาริมทรัพย์" นายกฤษณ์กล่าว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us