Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 พฤษภาคม 2547
"เครดิตบูโร"พร้อมรวมกิจการเซทเทเลมชี้ลดภาระหนี้เกินตัว             
 


   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลัง
ข้อมูลเครดิตกลาง - Central Credit Information Services : CCIS
ข้อมูลเครดิตไทย (TCB)
เซทเทเลม (ประเทศไทย), บจก.
เปโดร โรดิเกส
สัมมา คีตสิน
Credit Card




"ข้อมูลเครดิตไทย" เห็นพ้องกระทรวงการคลังรวมเครดิตบูโร ยืนยันพร้อมควบรวมตลอดเวลา แต่ต้องเกิดประโยชน์ต่อลูกค้าและผู้บริโภค ด้านผู้ประกอบการ "เซทเทเลม" เผยยอดปฏิเสธสินเชื่อลูกค้าที่ยื่นขอพุ่งถึง 19.82% หลังผ่าน การตรวจข้อมูลเครดิต มั่นใจเกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคลดภาระหนี้สินเกินตัว ส่วนเกณฑ์ควบคุมบัตรเครดิต แบงก์ชาติไม่กระทบธุรกิจ

นายสัมมา คีตสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัทข้อมูลเครดิตไทย จำกัด หรือ Thai Credit Bureau (TCB) เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมและเห็นด้วยที่ทางกระทรวงการคลังมีแนวคิดที่จะรวมกิจการของบริษัทข้อมูลเครดิตทั้ง 2 แห่ง คือ บริษัทข้อมูลเครดิตไทย และบริษัทข้อมูลเครดิตกลาง(CCIS)ให้เหลือเพียงแห่งเดียว ทั้งนี้ บริษัทได้ยื่นข้อเสนอรายละเอียดของบริษัทเพื่อให้กระทรวง การคลังพิจารณาแล้ว

การที่จะให้มีการรวมกิจการถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคมาก เพราะหากมีเจ้าภาพในการรวบรวมข้อมูลเครดิตและมีฐานข้อมูลที่ละเอียด ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ การอนุมัติสินเชื่อและพิจารณาข้อมูลเครดิตก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ รวมถึงค่าบริการที่จะลดลงในอนาคตและเกิดความยุติธรรมแก่ลูกค้าของบริษัท

"โดยสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันทีซีบีสามารถดำเนินกิจการได้ด้วยตนเองและมีผลกำไรทุกเดือน ปริมาณการของตรวจสอบข้อมูลของทีซีบีมีถึง 85% จากยอดการตรวจสอบทั้งระบบ ซึ่งหากมองจากปริมาณประชากรกว่า 60 ล้านคน ครึ่งหนึ่งมีสิทธิในการของ สินเชื่อและอีก 15 ล้านคนมีรายชื่อในระบบการเงิน โดยอยู่ในบัญชีของทีซีบีกว่า 8 ล้านคน หรือกว่า 50% ของระบบ ดังนั้น หากมีการรวมกิจการเครดิตบูโรเกิดขึ้นจริงก็อยากให้มีคุณภาพออกมาดีและมีประโยชน์สูงสุด ทั้งต่อสามาชิก ผู้บริโภค และระบบเศรษฐกิจของประเทศ" นายสัมมากล่าว

ทั้งนี้ ในปัจจุบันทีซีบีมีสมาชิกกว่า 50 ราย หรือคิดเป็น 15 ล้านบัญชี โดยที่สมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการที่ปล่อยสินเชื่อแก่ผู้บริโภค มีมาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพและชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ และการให้บริการของทีซีบีถือว่ามีความทันสมัยและใช้มาตรฐานเดียวกับทั่วโลก โดยบริการใหม่ที่ทีซีบีนำมาให้บริการคือ CPU-to-CPU connection เพื่อตรวจสอบข้อมูลเครดิต แบบ Real Time และเน้นปริมาณที่มาก ซึ่งให้ความสะดวกกว่าระบบเดิม ที่ใช้และไม่ได้คิดค่าบริการเพิ่มจากสมาชิกแต่อย่างใด

นายเปโดร โรดริเกส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซทเทเลม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจาก ที่บริษัทได้ใช้บริการตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทข้อมูลเครดิตทั้ง 2 แห่ง ยอดการปฏิเสธการขอสินเชื่อของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 11.87% ในเดือนมีนาคม 2547 เป็น 19.82% ในเดือนเมษายน 2547 ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนั้นในเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าคนไทยมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น

การที่เซทเทเลมปฏิเสธการขอสินเชื่อในปริมาณมากโดยหลักเพราะลูกค้ามีหนี้สินล้นพ้นตัวบริษัทเห็นว่าคงไม่สามารถชำระหนี้ได้และลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อรายนั้นเป็นบุคคลที่สถาบันการเงินแห่งอื่นตัดรายชื่อเป็นหนี้เสียเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น จึงสามารถประเมินได้ว่าการใช้ข้อมูลเครดิตถือเป็นปัจจัยชี้วัดว่าควรจะอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้ารายนั้นหรือไม่

"หากผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคไม่ใช้ข้อมูลเครดิตจากเครดิตบูโรแห่งใดเลยก็เปรียบเสมือนคนตาบอดที่เข้ามาสู่ธุรกิจนี้ ที่ประเทศ เกาหลีใต้ประสบวิกฤตด้านสินเชื่อผู้บริโภคก็เพราะไม่มีเครดิตบูโรที่มีประสิทธิภาพ แสดงผลเฉพาะหนี้เสียที่เกิดขึ้นไม่มีข้อมูลหนี้ดีปรากฏ อยากให้ผู้ประกอบการปล่อยสินเชื่อทุกราย มาเป็นสมาชิกของข้อมูลเครดิต และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เพื่อการพัฒนา ระบบสถาบันการเงินของประเทศ" นายเปโดร กล่าว

นายเปโดรกล่าวว่า เกณฑ์การ ควบคุมบัตรเครดิตที่ทางธนาคารแห่ง ประเทศไทย(ธปท.)ประกาศใช้ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานั้น ถือว่าไม่มีผลกระทบการทำธุรกิจของเซทเทเลมแต่อย่างใด เพราะหลักเกณฑ์ต่างๆ นั้นสอดคล้องกับการประกอบธุรกิจของเซทเทเลมอยู่แล้วจึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่เซทเทเลมต้องปรับแผนธุรกิจและเป้าหมายในการดำเนินงาน

ส่วนตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ของเซทเทเลมที่มีอยู่สูงถึง 8-9% นั้น เนื่องจากเซทเทเลมเริ่มตัดหนี้เป็นหนี้เสียหลังจากครบรอบการชำระเงินในใบแจ้งหนี้ครั้ง แรก ทั้งนี้ เซทเทเลมได้ใช้มาตรฐานเดียวกันในการให้บริการทั่วโลกและผู้ ประกอบการชั้นนำในยุโรปก็ใช้มาตรฐาน นี้เช่นเดียวกัน

"ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างของเซทเทเลมในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับสิ้นปี 2546 และคาดว่าในปี 2547 ยอดสินเชื่อก็น่าจะอยู่ใกล้เคียงกับระดับนี้ ทั้งนี้สาเหตุที่สินเชื่อขยายตัวอยู่ในระดับต่ำเช่นนี้ เนื่องจากเซทเทเลมเน้นการอนุมัติสินเชื่อที่มีคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณการปล่อยสินเชื่อในจำนวนที่มากแล้วกลายเป็นเอ็นพีแอลในที่สุด" นายเปโดรกล่าว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us