Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 พฤษภาคม 2547
ATCไม่สนจีนชะลอศก.คาดปีนี้กำไรเกิน5พันล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ กิมเอ็ง

   
search resources

ยูไนเต็ด,บล.
อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย), บมจ.
หลักทรัพย์กิมเอ็ง, บมจ.
อธิคม เติบศิริ
Chemicals and Plastics




บิ๊ก "อะโรเมติกส์" ยืนยันไม่กระทบจากการลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจจีน เนื่องจากจีนยังคงเป็นประเทศนำเข้าปิโตรเคมีอยู่ มั่นใจสิ้นปีนี้ทำกำไรได้ 5-6 พันล้านบาท หลังจากรับรู้รายได้ ส่วนขยายกำลังการผลิตระยะ 2 ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นขยับเพิ่มเป็น 40-50%

นายอธิคม เติบศิริ รองผู้จัดการใหญ่แผนธุรกิจและการเงิน บริษัท อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)(ATC) เปิดเผยว่า บริษัทฯไม่ได้รับผลกระทบจากกรณี ที่จีนลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ โดยราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ยังอยู่ในระดับราคาสูง อาทิ พาราไซลีนตันละ 750 เหรียญสหรัฐ และเบนซิน 600 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ราคาอะโรเมติกส์ในปีที่แล้วเฉลี่ยตันละ 500 เหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ บริษัทฯไม่ได้ส่งออกพาราไซลีนไปยังประเทศจีน คงมีแค่การส่งออกสารเบนซีนไปยังประเทศในแถบเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ คือ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย รวมทั้งบริษัทฯยังมีรายได้ เพิ่มสูงขึ้นจากการขยายกำลังการผลิตระยะ 2 ทำให้ปริมาณพาราไซลีนและเบนซีนเพิ่มขึ้นอีก 30% นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ดังนั้น เป้าหมายปีนี้บริษัทฯจะมีกำไรก่อนหักค่าเสื่อม ภาษี และดอกเบี้ยจ่าย (EBITDA) ประมาณ 7,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิสูงถึง 5,000-6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4,004 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 40-50%

นายอธิคม กล่าวถึงโครงการ ร่วมทุนผลิตสารฟีนอลขนาดกำลังการผลิต 2 แสนตันต่อปี ใช้เงินลงทุน 8,000 ล้านบาท โครงการนี้เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ เบนซีนของบริษัท ซึ่งแหล่งเงินลงทุนที่ใช้จำนวน 800 ล้านบาทตามสัดส่วนการถือหุ้น 20% นั้นจะ มาจากกระแสเงินสดภายในบริษัทเอง

สำหรับผลตอบแทนการลงทุนโครงการฯ ประมาณ 18% และมีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 5 ปี และเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ประมาณไตรมาสที่ 2 ปี 2550

ขณะที่โครงการผลิตไซโคลเฮกเซน (cyclohexane) ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องสายไนลอน เพื่อทดแทนการ นำเข้านั้น ขณะนี้เตรียมเสนอให้บริษัทผู้รับเหมายื่นเข้าประมูลโครงการดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี 2550 ถือว่าเป็นโครงการที่สร้างมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์และสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ

โครงการฯดังกล่าว ใช้เงินลงทุนไม่เกิน 1,200 ล้านบาท มีกำลังการผลิตสารไซโคลเฮกเซน 150,000 ตันต่อปี ใช้สารเบนซีนที่ต้องส่งออก ประมาณ 140,000 ตันต่อปี และใช้ไฮโดรเจนที่ปัจจุบันใช้เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตประมาณ 36,000 ตันต่อปี มีผลตอบแทนการลงทุน (IRR) สูงกว่า 25% โดยประเมินว่าบริษัทฯ จะมีประมาณการกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากโครงการดังกล่าวประมาณ ปีละ 400 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่ากรณีที่จีนลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบไม่มากต่อราคาปิโตรเคมี เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้าสินค้าปิโตรเคมี รายใหญ่สุดในภูมิภาค เพราะประสบกับภาวะขาดแคลนสินค้าปิโตรเคมีอยู่มาก ทำให้ความต้องการใช้สูงกว่ากำลังการผลิต แม้ว่าจะมีการสร้างโรงงานปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการ จนทำให้ต้องนำเข้าต่อไปอีกอย่างน้อย 2-3 ปีเป็นอย่างต่ำ

อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่พุ่งขึ้น ก็เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันให้ราคาปิโตรเคมี สามารถจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อีกครั้งหลังจากความกังวลในเรื่องของจีนจางหายไป โดยกลไกราคาปิโตรเคมีจะอิงกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมากกว่าคำสั่งซื้อจากจีน

เราได้สอบถามทางผู้บริหารของบริษัทในกลุ่มปิโตรเคมีเกี่ยวกับมาตราการของจีน ซึ่งส่วน ใหญ่มีความเห็นว่าเป็นกลยุทธ์ในการชะลอราคา ปิโตรเคมีของจีน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นปกติในกรณีที่ราคาปิโตรเคมีปรับตัวสูงขึ้นมาก เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้าสินค้าปิโตรเคมีรายใหญ่จึงมีอำนาจในการต่อรองค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ในภาวะปัจจุบันที่จีนมีความต้องการสินค้าปิโตรเคมี สูงกว่ากำลังการผลิตมาก ทำให้คาดว่าราคาไม่น่า จะลงมากและที่สุดแล้วราคาปิโตรเคมีจะปรับตัวสูงขึ้น

บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์คาดผลดำเนินงานปีนี้ ATC จะมียอดขายทั้งสิ้น 41,177 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 6,205 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55%เนื่องจากมีมาร์จินเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 124 เหรียญสหรัฐต่อตัน คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลงวดปี 2547 ได้ เพราะบริษัทสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมดภายในปีนี้ รวมทั้งบริษัทฯยังมีโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ด้วยการผลิตไซโคลเฮกเซน และฟีนอล คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 2550 ดังนั้น จึงแนะนำให้ซื้อสะสมหุ้น โดยราคา เหมาะสมที่ 60 บาท

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us