ดีคอนโปรดักส์เข้าตลาดหลัก ทรัพย์เตรียมกระจาย 40 ล้านหุ้น คาดเสนอขายภายในเดือนสิงหาคมนี้
บล.กิมเอ็งที่ปรึกษาการเงินมั่นใจหุ้นได้รับการตอบรับดี เหตุในช่วงที่ผ่าน มาจ่ายเงินปันผลที่ดี
ขณะที่ยูนิค ไมนิ่งเลื่อนแผนขายหุ้น รอให้ภาวะตลาดหุ้นนิ่งก่อน
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2547 ที่ผ่านมาสำนักงานได้เริ่มนับหนึ่งแบบรายการแสดงข้อมูล
(ไฟลิ่ง)ในหุ้นบริษัทดีคอนโปรดักส์ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์
กิมเอ็ง(ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทดีคอนโปรดักส์ ได้เพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 160 ล้านบาทเป็น 200 ล้านบาท โดยจะเสนอ
ขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปจำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น
20% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว โดยบริษัทมีโครงการในอนาคตเกี่ยวกับธุรกิจแผ่นพื้นและเสาเข็มคอนกรีต
อัดแรง คือขยายพื้นที่โรงงานแผ่นพื้นและเสาเข็ม เพื่อทำลาน Stock ให้สามารถเก็บผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปได้นานขึ้นก่อนส่งมอบ
เพื่อผลในด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น เพิ่มรถบรรทุกแผ่นพื้น และเสาเข็มเพื่อรองรับปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น
และปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิตเพื่อให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
ส่วนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือสร้างโรงงานสำเร็จรูปในโครงการอรดาแฟคตอรี่แลนด์
เพิ่มอีกประมาณ 30 ยูนิตภายใน 3 ปีข้างหน้า, สร้างอพาร์ตเม้นต์ใกล้แหล่งโรงงานและ/หรือสถาบันการศึกษาเพื่อขายหรือให้เช่า
และสร้างบ้านเดี่ยวเพื่อรองรับกับชุมชนที่ขยายตัวในพื้นที่ใกล้กับโครงการอรดาแฟคตอรี่แลนด์
ทั้งนี้ บริษัทดีคอนโปรดักส์ดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายแผ่นพื้นและเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง
และมีบริษัทย่อย คือบริษัทอรดา ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 99.99% ทั้งนี้
ในปี 2546 บริษัทมีรายได้หลักจากการขายแผ่นพื้นและเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง คิดเป็น
98% ของรายได้รวม
นอกจากนี้ยังมีแผนขยายธุรกิจในบริษัทย่อยไปสู่การสร้างอพาร์ตเมนต์เพื่อขายหรือให้เช่า
และบ้านเดี่ยวเพื่อขาย
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2545 และ 2546 บริษัทมีกำไรสุทธิ 62.23 ล้านบาท
และ 70.92 ล้านบาทตามลำดับ โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทจะประกอบด้วยกลุ่มนายวิทวัส
พรกุล ถือหุ้น 77% ภายหลังการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปสัดส่วนจะลดลงเหลือ 61.60%
นายชนะ โตวัน ถือหุ้น 19.25% ภายหลังจะลดลงเหลือ 15.40% บริษัทดีคอนโปรดักส์ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า
50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการ
เงิน เปิดเผยว่า คาดว่าหุ้นบริษัทดีคอนโปรดักส์จะสามารถเสนอขายได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้
ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจ เพราะธุรกิจของบริษัทเกี่ยวกับธุรกิจก่อสร้างซึ่งจะเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจโดยรวม
และปัจจัยที่สำคัญคือ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัท ได้มีการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงและตลอดมา
โดยหุ้นที่กระจายทั้งหมด 40 ล้านหุ้นนั้นคาดว่าจะเสนอขายให้แก่นักลงทุนรายย่อยเกือบทั้งหมด
นายเจษฎาวัฒน์ เพรียบจริยวัฒน์ ผู้อำนวย การฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์
เคจีไอ จำกัด(มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินหุ้นบริษัทยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส
เปิดเผยว่า บริษัทได้เลื่อนการเสนอขายหุ้นออกไปก่อน จากเดิมที่คาดว่าจะเสนอขายภายในกลางเดือนพฤษภาคมนี้
เนื่องจากสภาพตลาดหุ้นที่มีความผันผวน ดังนั้นจึงต้องการรอให้ภาวะตลาดหุ้นมีเสถียรภาพเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม การเลื่อนขาย หุ้นคงจะไม่เลื่อนนานมากนัก และเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อแผนการขยายกิจการของบริษัทแต่อย่างใด
ทั้งนี้ บริษัทยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปจำนวน
20 ล้าน หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทโดยกำหนดช่วงราคาที่ 6.75-8.25 บาท ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่(MAI)ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้สร้างคลังเก็บสินค้าแห่งใหม่
2 แห่ง ซื้อรถบรรทุกเพิ่มเพื่อใช้ในกิจการ ส่วนที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียน