ก.ล.ต.เผย 4 เดือนแรกปี 47 บริษัทหลักทรัพย์เปิด ห้องค้า 16 แห่งแบ่งเป็นกรุงเทพฯ7
แห่ง ต่างจังหวัด 9 แห่ง "บล.โกลเบล็ก-แอ๊ดคินซัน" เปิดห้องค้า มากสุดที่ละ
3 แห่ง
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้เปิดเผยถึงสำนักงานสาขาบริการค้าหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์แต่ละแห่งทั่วประเทศ
พบว่านับตั้งแต่ปลายปี 2546 จนถึงเดือนเมษายน 2547 บริษัทหลักทรัพย์เปิดสำนักงาน
สาขาบริการค้าหลักทรัพย์เพิ่ม 16 แห่ง โดยแบ่งเป็นในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ปลายปี
2546 มีจำนวน 144 แห่งภายในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นเป็น 151 แห่งโดยเพิ่มขึ้น 7 แห่ง
โดยบริษัทหลักทรัพย์ที่เปิดเพิ่มได้แก่ บล.กิมเอ็ง, บล.โกลเบล็ก,บล.ซิกโก้,บล.ไซรัส,บล.
ธนชาติเปิด 2 แห่ง และบล.ฟินันซ่า
ในส่วนของต่างจังหวัดนั้นบริษัทหลักทรัพย์เปิดสำนักงานสาขา บริการค้าหลักทรัพย์เพิ่ม
9 แห่งโดยเพิ่มในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเดิมมี 8 แห่งเพิ่มเป็น 9 แห่งโดยมีบล.ไทย
พาณิชย์เปิดเพิ่ม,จังหวัดชลบุรี จาก 17 แห่งเพิ่มเป็น 18 แห่งโดยมีบล. โกลเบล็กเปิดเพิ่ม,จังหวัดเชียงราย
จาก 4 แห่งเพิ่มเป็น 5 แห่งโดยมีบล. แอ๊ดคินซันเปิดเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง ทำให้ บล.แอ๊ดคินซันมี
2 แห่งในจังหวัดนี้
จังหวัดนครสวรรค์จาก 4 แห่ง เพิ่มเป็น 5 แห่ง โดยมีบล.แอ๊ดคินซัน เปิดเพิ่ม,
จังหวัดนนทบุรี จาก 6 แห่ง เพิ่มเป็น 7 แห่งโดยมีบล.โกลเบล็กเปิดเพิ่ม, จังหวัดภูเก็ตจาก
4 แห่ง เพิ่มเป็น 5 แห่ง โดยมีบล.แอ๊ดคินซัน เปิดเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งทำให้มี 2
แห่ง ในจังหวัดดังกล่าว,จังหวัดยะลาจาก 2 แห่งเพิ่มเป็น 3 แห่งโดยมีบล. กิมเอ็ง
(ประเทศไทย)เปิดเพิ่มและจังหวัดสงขลาจาก 20 แห่งเพิ่มเป็น 22 แห่งโดยมีบล.ซิกโก้เปิดเพิ่มอีก
1 แห่งทำให้มี 2 แห่งในจังหวัดนี้และมีบล.ไซรัสเปิดอีก 1 แห่ง
ทั้งนี้เมื่อรวมทั้งหมดปรากฏว่า ในรอบ 4 เดือนนี้บริษัทหลักทรัพย์ที่ เปิดสำนักงานสาขาบริการค้าหลักทรัพย์
มากสุดได้แก่ บล.แอ๊คคินซันและ บล.โกลเบล็ก ที่เปิดจำนวน 3 แห่งเท่าๆ กัน
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า สาเหตุที่บริษัทหลักทรัพย์ส่วน ใหญ่ยังเปิดสาขาบริการค้าหลักทรัพย์
ไม่มาก เนื่องจากในช่วงไตรมาสแรก ยังไม่มีความชัดเจนว่าสำนักงาน ก.ล.ต. จะยอมยืดเวลาการใช้ค่าคอมมิชชันเสรีออกไปหรือไม่
ซึ่งมีความชัดเจนเมื่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กลับดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
การคลังอีกครั้ง ซึ่งยอมให้ยืดเวลาออกไปอีก 2 ปีแล้วค่อยกลับมา ทบทวนใหม่ ดังนั้นในช่วงที่ยังไม่มีความชัดเจนบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งจึงชะลอการขยายธุรกิจออกไปก่อน
นอกจากนี้บริษัทหลักทรัพย์ส่วนใหญ่พยายามที่จะควบคุมต้นทุน ค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก
ดังนั้นสำนักงานสาขาที่เปิดใหม่ ส่วนใหญ่จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก และใช้เจ้าหน้าที่จำนวนน้อย
อย่างไรก็ตาม จากการที่แนวโน้ม ตลาดหุ้นไทยยังดีอยู่ ตามสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
ดังนั้นจึงคาดว่าบริษัทหลัก ทรัพย์ส่วนใหญ่มีแผนที่จะเปิดสำนักงานสาขาเพิ่มในครึ่งปีหลังหลายแห่ง
เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้ามากขึ้น
โดยเฉพาะในต่างจังหวัด เพียง แต่ขณะนี้รอจังหวะที่เหมาะสม โดยบริษัทหลักทรัพย์บางแห่งกำลังรอดูสภาพตลาดหุ้นว่าเป็นอย่างไร เช่นบล.เกียรตินาคิน และบล.เอเพ็กซ์ หรือบล.ไอบีเดิมที่มีแผนจะเปิดสำนักงานสาขาเพิ่มในครึ่งปีหลังนี้