Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 พฤษภาคม 2547
ซิโนไทยกำไรหดเจอพิษเหล็กแพงเร่งหางานเพิ่ม             
 


   
www resources

โฮมเพจ กิมเอ็ง
โฮมเพจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

   
search resources

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
หลักทรัพย์กิมเอ็ง, บมจ.
ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น - STECON
ออโต้เครป แอเรทเต็ด คอนกรีต โปรดัก
อนุทิน ชาญวีรกูล
Construction




บิ๊กซิโน-ไทย ระบุปีนี้โอกาสทำกำไรลดลง 62 ล้านบาท หลังเจอพิษเหล็กแพงขึ้น ผลตอบแทนต่อ 1 โครงการลดจาก 12% เหลือ 8% เร่งหางานในมือเฉลี่ยต้องให้ได้ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน เพื่อยอดรวมทั้งปี 12,000 ล้านบาทตามศักยภาพของบริษัทฯ ฟุ้ง D/E ต่ำแค่ 0.2% ก่อหนี้ได้อีก 5,000 ล้านบาท

นายอนุทิน ชาญวีรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) STECON เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ราคาเหล็กที่แพงขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการก่อสร้างโครงการต่างๆ ที่บริษัทดำเนินการอยู่ ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจของประเทศจีนมีการขยายตัวสูง ทำให้ประเทศจีนมีความต้องการวัตถุดิบเพื่อใช้ในการ ก่อสร้างโครงการต่างๆ ซึ่งผลกระทบดังกล่าวจะทำให้ผลตอบแทน จากโครงการมีอัตรากำไรลดลง จากเดิมที่อัตรากำไรเฉลี่ยต่อ 1 โครงการจะอยู่ที่ 12% แต่การที่ราคาเหล็กแพงขึ้น ทำให้บริษัทมีต้นทุนเพิ่มขึ้นส่งผลให้อัตรากำไรลดลงเหลือ 8% ต่อโครงการ จากที่เคยทำได้ 12% ต่อโครงการ และคาดว่าตลอดทั้งปีบริษัทมีโอกาสที่จะทำกำไรลดลงอยู่ที่ระดับ 7% ซึ่งทั้งปี 2546 บริษัทมีกำไรสุทธิ 604 ล้านบาท

ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2547 เป็นที่แน่นอนแล้วกำไรจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2546 ที่มีกำไร 122 ล้านบาท แม้จะมีผลประกอบการลดลง แต่ยังไม่ต่ำกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้

"ถ้าเหล็กไม่แพงมากขณะนี้บริษัทมีโอกาส ที่จะทำกำไรแล้ว 1,000 ล้านบาท แต่เราโชคไม่ดีที่เจอเหล็กแพง ขณะที่เรามุ่งโครงการรัฐและแต่ละโครงการต้องใช้งบประมาณของรัฐซึ่งจะมีการพิจารณามาปีก่อนแล้ว อีกทั้งไม่ใช่เหล็กที่ขึ้น ปูนซีเมนต์ก็ขึ้น ผลทำให้ต้นทุนเฉลี่ยทั้งปีเพิ่มขึ้น 300-400 ล้านบาท การเคลื่อนไหวของราคาเหล็ก ขึ้นและลง 1 บาทจะมีผลต่อต้นทุนถึง 100 ล้านบาท แต่ทั้งนี้เราหวังว่าเศรษฐกิจจีนจะหยุดขยายตัวอย่างร้อนแรง ซึ่งต้องรอดูไตรมาส 3 ว่าเศรษฐกิจจีนชะลอจริงหรือไม่ เพราะนี่พึ่งผ่านมาได้แค่ 3-5 เดือน" นายอนุทินกล่าว

สำหรับความคืบหน้าในการรับงานก่อสร้าง นายอนุทินกล่าวว่าในช่วง 5 เดือน(ม.ค.-พ.ค.47) บริษัทมีงานในมือที่ชนะราคาแล้วมีมูลค่าถึง 5,000 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วในแต่ละเดือนบริษัทต้องชนะการประมูล เพื่อให้ได้งานเฉลี่ย 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งถ้าเป็นไปตามเป้าคาดว่าทั้งปีบริษัทจะมีงานในมือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่เพียงพอในการบริหารธุรกิจในแต่ละปี

นอกจากนี้ บริษัทยังสนใจที่จะเข้าไปประมูลงานก่อสร้างของภาครัฐ และรวมถึงโครงการที่กรุงเทพฯกำลังดำเนินการ เช่น ส่วนต่อขยายของโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส, โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำต่างๆ, ทางหลวงและรวมถึงระบบชลประทาน ทั้งนี้ในปี 2547 รัฐบาลมีแผนลงทุนเพื่อพัฒนาระบบสาธารณูปโภคถึง 6 แสนล้านบาท แต่มีโครงการที่บริษัทให้ความสนใจเข้าไปประมูลประมาณ 36,000 ล้านบาท และจากสถิติในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถชนะการประมูลในโครงการของรัฐบาลได้ 1 ใน 3 หรือคิดเป็นมูลค่าที่มีงานในมือคิดเป็นมูลค่า 12,000 ล้านบาทซึ่งเป็นระดับที่เพียงพอกับธุรกิจ และขนาดของบุคลากรที่มีอยู่

นายอนุทิน ล่าวว่าปัจจุบันบริษัทมีโครงการ ที่อยู่ในมือ 20,000 ล้านบาท โดยในปี 2547 จะมีการส่งมอบงานคิดเป็นมูลค่า 12,000 ล้านบาท ทำให้เหลืองานในมือที่ต้องดำเนินการต่อ 8,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้จะมีการส่งมอบงานในปี 2548

ตามข้อมูลของบริษัทระบุว่าในช่วงปี 2546 มีงานในมือคิดเป็นมูลค่า 16,539 ล้านบาท และหากนับรวมงานที่เสนอราคาต่ำสุดอีกประมาณ 5,500 ล้านบาท จะมีงานในมือรวมประมาณ 22,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นงานของภาครัฐคิดเป็นสัดส่วนถึง 85% ของงานในมือทั้งหมด โดยในการประมูลงานพบว่าในปี 2545 บริษัทชนะการประมูล 27% และเพิ่มขึ้นเป็น 34% ในปี 2546 ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ว่าในปี 2547 บริษัทจะชนะการประมูลประมาณ 25% ของงานที่ยื่นประมูลในปีนี้ หรือคิดเป็นมูลค่า 9,000 ล้านบาท

ล่าสุดบริษัทฯได้เซ็นสัญญากับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หลังจากที่คณะกรรมททท.ได้จัดจ้างบริษัท ซิโน-ไทยฯเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างอาคารกรีฑาในร่ม ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 1 ในปี 2548 มูลค่าการก่อสร้างจำนวน 472,500,000 บาท ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 450 วัน มีระยะเวลาในการก่อสร้าง 15 งวดงาน คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือนกรกฎาคม 2548 ซึ่งสามารถ บรรจุที่นั่งได้ถึง 4,000 ที่

นายอนุทิน กล่าวถึงฐานะการเงินว่า ปัจจุบันบริษัทมีหนี้ต่อทุน ( D/E )ประมาณ 0.2 เท่า และบริษัทยังมีความสามารถในการก่อหนี้ได้อีก 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้หนี้สินต่อทุนปรับขึ้นมาอยู่ระดับ 1 เท่า ซึ่งหนี้ส่วนใหญ่ของบริษัทฯจะเป็นหุ้นกู้ที่ออกเมื่อปีที่แล้วประมาณ 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเพียง 4% ต่อปี และมีกำหนดชำระคืนเงินต้นภายใน 4 ปีตั้งแต่ปี 2548 ขณะที่บริษัทมีกระแสเงินสดมากกว่าหนี้สินอยู่ถึง 820 ล้านบาท

ส่วนการถอนการร่วมทุนในบริษัท ออโตเครป แอเรทเต็ด คอนกรีต โปรดัก จำกัด หรือ AACP นายอนุทินกล่าวว่า "เราตัดสินใจแล้วส่วนนี้ไม่ใช่ธุรกิจหลักของเรา และมองว่าการเป็นผู้ซื้อจะดีกว่าการเป็นหุ้นส่วน"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us