Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 พฤษภาคม 2547
4ด.TPIอีบิทดาโต111%ประชัยต้านขายหุ้นถูก             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทเงินทุนธนชาติ

   
search resources

ไทยพาณิชย์, บล.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ธนชาต, บลจ.
สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)
อดิศร เสริมชัยวงศ์
กำพล อัศวกุลชัย
Funds




ก.ล.ต.เตรียมออกประกาศกองทุนตราสารทุนระยะยาวภายใน 1-2 สัปดาห์ หลังจากมีการหารือกับก.ล.ต. และสรรพากรอีกครั้ง "อดิศร" นายกสมาคมบลจ.ชี้ทุกบลจ.สนใจจะออก กองทุนคาดว่าจะได้เห็นภายในปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 นี้ ระบุภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง เป็นจังหวะเหมาะที่กองทุนจะเข้าไปลงทุน

วานนี้ (10 พ.ค.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ได้หารือในข้อปฏิบัติและการวางกรอบเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนหุ้นระยะยาวที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีจากมาตรการของรัฐบาล

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน(บลจ.)ไทยพาณิชย์ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า สมาคมได้เข้าหารือกับก.ล.ต.เกี่ยวกับแนวทางการ จัดตั้งกองทุนตราสารทุนระยะยาว (Longtermequity fund) ซึ่งเป็น กองทุนที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี โดยได้หารือเกี่ยวกับกรอบกฎเกณฑ์ ของกองทุน และคาดว่าสำนักงาน ก.ล.ต.จะสามารถออกประกาศกฎเกณฑ์ได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งนี้รูปแบบของกองทุนจะเป็นไปตามที่กำหนดไว้คือจะดำรงการถือหุ้นในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 65% และผู้ถือหน่วยกองทุนจะต้องถือในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี เพื่อที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี แต่ถ้ามีการขายออกมาก่อนกำหนดสิทธิประโยชน์ดังกล่าวก็จะไม่ได้รับ

"นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนตราสาร ทุนระยะยาว ถ้ามีการขายหน่วยลงทุนออกมาก่อนกำหนดระยะเวลา 5 ปีนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าเงินต้นที่เข้ามาลงทุนจะได้รับผลกระทบ เพราะทางการจะไม่ยุ่งเกี่ยว เพียงแต่จะไม่ได้รับสิทธิภาษีที่ให้ไปตั้งแต่เริ่มลงทุน โดยเงินต้นนั้นมูลค่าจะขึ้นหรือลดลงนั้นขึ้นอยู่กับราคาหุ้นที่เข้าไปลงทุนว่าเป็นอย่างไร"

นายอดิศรกล่าวว่า สมาคมบลจ.จะมีการหารือกับสำนักงาน ก.ล.ต.กับสรรพากรอีกครั้ง เพื่อที่จะหารือเกี่ยวกับรายละเอียดปลีกย่อย เช่นการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยว่าจะมีวิธีการแบบใด เป็นต้น นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า ขณะนี้ภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง แต่ก็ถือว่าเป็นจังหวะเหมาะสำหรับกองทุน ตราสารทุนระยะยาวที่จะออก เพื่อที่จะสามารถเข้ามาลงทุนในหุ้นที่ราคาปรับตัวลดลง และจากการที่สภาพเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง และบริษัทจดทะเบียนมีผลประกอบการที่ขยายตัว อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น จึงเชื่อว่าโอกาสที่ภาวะหุ้นจะปรับตัวลงอย่างหนักจึงมีไม่มากนัก ทั้งนี้จากการ สอบถามบลจ.ที่เป็นสมาชิกสมาคมนั้น ปรากฏว่าบลจ.ทุกแห่งจะให้ความสนใจอย่างมากที่จะออก เพราะถือว่าเป็นกองทุนที่ดีเพราะเป็นกองทุนที่ ทางการให้การสนับสนุนและได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี โดยคาดว่าจะมีการออกกองทุนดังกล่าวภายในปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน

"ผลตอบแทนจากกองทุนตราสารทุนระยะยาวนั้น น่าจะอยู่ในระดับที่ดีถ้าพิจารณาจากปัจจัยโดยรอบ ทั้งจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะอยู่ในระดับ 20-30% โดยพี/อี เรโชของตลาดยังอยู่ในระดับเท่าเดิม และคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับ 15-20%Ž"นายอดิศรกล่าว

นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนธนชาติ จำกัด กล่าวว่าได้มีการหารือร่วม กันเกี่ยวกับปัญหาในการปฏิบัติงานของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในการจัดตั้งกองทุนหุ้นระยะยาว ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยมีประเด็นที่ได้หารือ คือ กรณีที่กองทุนหุ้นระยะยาวเปิดโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี

ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนที่เปิดใหม่นี้ผู้ถือหน่วยสามารถโอนหน่วยลงทุนระหว่าง บลจ. ได้ ดังนั้นการควบคุมและการตรวจสอบการขายหน่วยลงทุนของสรรพากรจึงทำได้ยาก เนื่องจากขณะนี้บลจ.ก็ยังไม่มีระบบเพื่อควบคุมปัญหาดังกล่าวด้วย จึงอาจมีนักลงทุนอาศัยช่องว่างเพื่อผลประโยชน์ทางภาษี

นอกจากนี้ ยังมีความแตกต่างของระบบการบันทึกบัญชีของแต่ละ บลจ.เนื่องจากมีความต้องการให้มีรูปแบบการบันทึกการขายคืนหน่วยลงทุนที่เป็นระบบเดียวกันคือระบบ FIFO คือการบันทึกการซื้อขายหน่วยแบบเข้าก่อนออกก่อน แต่ บลจ. ส่วนใหญ่ใช้การบันทึกแบบเฉลี่ยในแต่ละช่วงเวลา

ส่วนความต้องการให้มีการพิจารณาปรับเปลี่ยนเกณฑ์กำหนดกรอบการลงทุนในอัตราไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปี นั้นเป็นเกณฑ์ที่มีการกำหนดจากสรรพากรเพื่อให้เป็นเกณฑ์ที่ใช้ในทางเดียวกันกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF และเพื่อสร้างความสะดวกในการดำเนินงาน ตลอดจนความเข้าใจในการให้ข้อมูลนักลงทุนในทางเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังมีการหารือในประเด็นการกำหนดการจ่ายปันผล ซึ่งได้มีข้อโต้แย้งจาก ผู้จัดการกองทุนว่าจะลดความสนใจในการลงทุนของนักลงทุน เนื่องจากเมื่อจะรับเงินปันผล นักลงทุนจะต้องเสียภาษีเงินปันผลที่ได้รับด้วย โดยทาง ก.ล.ต.ไม่ยินยอมให้มีการทำ ออโต้ รีเด็มชั่น ซึ่งนักลงทุนที่ขายหน่วยลงทุนแล้วได้กำไรจากการขายหน่วยลงทุน (แคปปิตอล เกน) จะไม่ต้อง จ่ายภาษีส่วนนี้

ทั้งนี้ ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ต่างๆในการจัดตั้งกองทุนเปิดที่ลงทุนในหุ้นระยะยาว โดยทางสมาคม บลจ. ร่วมกับ ก.ล.ต. ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาความเป็นไปได้ในการกำหนดเกณฑ์ต่างๆแล้ว และสมาคม บลจ.ก็จะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว อีกครั้งในวันนี้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us