ก.ล.ต.เตรียมออกประกาศกองทุนตราสารทุนระยะยาวภายใน 1-2 สัปดาห์ หลังจากมีการหารือกับก.ล.ต.
และสรรพากรอีกครั้ง "อดิศร" นายกสมาคมบลจ.ชี้ทุกบลจ.สนใจจะออก กองทุนคาดว่าจะได้เห็นภายในปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 นี้ ระบุภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง เป็นจังหวะเหมาะที่กองทุนจะเข้าไปลงทุน
วานนี้ (10 พ.ค.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ได้หารือในข้อปฏิบัติและการวางกรอบเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนหุ้นระยะยาวที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีจากมาตรการของรัฐบาล
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน(บลจ.)ไทยพาณิชย์ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า สมาคมได้เข้าหารือกับก.ล.ต.เกี่ยวกับแนวทางการ จัดตั้งกองทุนตราสารทุนระยะยาว
(Longtermequity fund) ซึ่งเป็น กองทุนที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี
โดยได้หารือเกี่ยวกับกรอบกฎเกณฑ์ ของกองทุน และคาดว่าสำนักงาน ก.ล.ต.จะสามารถออกประกาศกฎเกณฑ์ได้ภายใน
1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งนี้รูปแบบของกองทุนจะเป็นไปตามที่กำหนดไว้คือจะดำรงการถือหุ้นในสัดส่วนไม่น้อยกว่า
65% และผู้ถือหน่วยกองทุนจะต้องถือในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี เพื่อที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี
แต่ถ้ามีการขายออกมาก่อนกำหนดสิทธิประโยชน์ดังกล่าวก็จะไม่ได้รับ
"นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนตราสาร ทุนระยะยาว ถ้ามีการขายหน่วยลงทุนออกมาก่อนกำหนดระยะเวลา
5 ปีนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าเงินต้นที่เข้ามาลงทุนจะได้รับผลกระทบ เพราะทางการจะไม่ยุ่งเกี่ยว
เพียงแต่จะไม่ได้รับสิทธิภาษีที่ให้ไปตั้งแต่เริ่มลงทุน โดยเงินต้นนั้นมูลค่าจะขึ้นหรือลดลงนั้นขึ้นอยู่กับราคาหุ้นที่เข้าไปลงทุนว่าเป็นอย่างไร"
นายอดิศรกล่าวว่า สมาคมบลจ.จะมีการหารือกับสำนักงาน ก.ล.ต.กับสรรพากรอีกครั้ง
เพื่อที่จะหารือเกี่ยวกับรายละเอียดปลีกย่อย เช่นการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยว่าจะมีวิธีการแบบใด
เป็นต้น นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า ขณะนี้ภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง
แต่ก็ถือว่าเป็นจังหวะเหมาะสำหรับกองทุน ตราสารทุนระยะยาวที่จะออก เพื่อที่จะสามารถเข้ามาลงทุนในหุ้นที่ราคาปรับตัวลดลง และจากการที่สภาพเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง และบริษัทจดทะเบียนมีผลประกอบการที่ขยายตัว
อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น จึงเชื่อว่าโอกาสที่ภาวะหุ้นจะปรับตัวลงอย่างหนักจึงมีไม่มากนัก ทั้งนี้จากการ
สอบถามบลจ.ที่เป็นสมาชิกสมาคมนั้น ปรากฏว่าบลจ.ทุกแห่งจะให้ความสนใจอย่างมากที่จะออก
เพราะถือว่าเป็นกองทุนที่ดีเพราะเป็นกองทุนที่ ทางการให้การสนับสนุนและได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี
โดยคาดว่าจะมีการออกกองทุนดังกล่าวภายในปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
"ผลตอบแทนจากกองทุนตราสารทุนระยะยาวนั้น น่าจะอยู่ในระดับที่ดีถ้าพิจารณาจากปัจจัยโดยรอบ
ทั้งจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะอยู่ในระดับ 20-30% โดยพี/อี เรโชของตลาดยังอยู่ในระดับเท่าเดิม
และคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับ 15-20%"นายอดิศรกล่าว
นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนธนชาติ
จำกัด กล่าวว่าได้มีการหารือร่วม กันเกี่ยวกับปัญหาในการปฏิบัติงานของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในการจัดตั้งกองทุนหุ้นระยะยาว ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยมีประเด็นที่ได้หารือ คือ กรณีที่กองทุนหุ้นระยะยาวเปิดโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี
ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนที่เปิดใหม่นี้ผู้ถือหน่วยสามารถโอนหน่วยลงทุนระหว่าง บลจ. ได้ ดังนั้นการควบคุมและการตรวจสอบการขายหน่วยลงทุนของสรรพากรจึงทำได้ยาก เนื่องจากขณะนี้บลจ.ก็ยังไม่มีระบบเพื่อควบคุมปัญหาดังกล่าวด้วย จึงอาจมีนักลงทุนอาศัยช่องว่างเพื่อผลประโยชน์ทางภาษี
นอกจากนี้ ยังมีความแตกต่างของระบบการบันทึกบัญชีของแต่ละ บลจ.เนื่องจากมีความต้องการให้มีรูปแบบการบันทึกการขายคืนหน่วยลงทุนที่เป็นระบบเดียวกันคือระบบ FIFO คือการบันทึกการซื้อขายหน่วยแบบเข้าก่อนออกก่อน แต่ บลจ. ส่วนใหญ่ใช้การบันทึกแบบเฉลี่ยในแต่ละช่วงเวลา
ส่วนความต้องการให้มีการพิจารณาปรับเปลี่ยนเกณฑ์กำหนดกรอบการลงทุนในอัตราไม่เกิน
15% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปี นั้นเป็นเกณฑ์ที่มีการกำหนดจากสรรพากรเพื่อให้เป็นเกณฑ์ที่ใช้ในทางเดียวกันกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF และเพื่อสร้างความสะดวกในการดำเนินงาน
ตลอดจนความเข้าใจในการให้ข้อมูลนักลงทุนในทางเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังมีการหารือในประเด็นการกำหนดการจ่ายปันผล ซึ่งได้มีข้อโต้แย้งจาก
ผู้จัดการกองทุนว่าจะลดความสนใจในการลงทุนของนักลงทุน เนื่องจากเมื่อจะรับเงินปันผล
นักลงทุนจะต้องเสียภาษีเงินปันผลที่ได้รับด้วย โดยทาง ก.ล.ต.ไม่ยินยอมให้มีการทำ
ออโต้ รีเด็มชั่น ซึ่งนักลงทุนที่ขายหน่วยลงทุนแล้วได้กำไรจากการขายหน่วยลงทุน
(แคปปิตอล เกน) จะไม่ต้อง จ่ายภาษีส่วนนี้
ทั้งนี้ ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ต่างๆในการจัดตั้งกองทุนเปิดที่ลงทุนในหุ้นระยะยาว
โดยทางสมาคม บลจ. ร่วมกับ ก.ล.ต. ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาความเป็นไปได้ในการกำหนดเกณฑ์ต่างๆแล้ว
และสมาคม บลจ.ก็จะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว อีกครั้งในวันนี้