ศุภาลัยแจงปรับ แผนลงทุนคอนโดมิเนียม เพิ่ม 40-45% จากเดิม 30% ที่เหลือเป็นทาวน์เฮาส์
20% และบ้านเดี่ยว 30-35% จากยอดผลิต 2,000 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท
ในปี 47 พร้อมเพิ่มการลงทุนร่วม ท้องถิ่นพัฒนาบ้านเดี่ยว ระดับ 1-6 ล้านที่จังหวัดขอนแก่น
คาดยอด จองในงาน เปิดตัว 2 โครงการใหม่ 3 วัน 50 ยูนิต มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า
บริษัทเปิดตัว 2 โครงการคอนโด-มิเนียมใหม่ล่าสุดมูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท คือ โครงการศุภาลัย
โอเรียนทัล เพลส สาทร-สวนพลูและโครงการศุภาลัย พรีเมียร์ เพลส อโศก อย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่
7 พ.ค. ที่ผ่านมา รวมถึงการจัดงาน Supalai's 15th Anniversary Fair เพื่อฉลองครบรอบ
15 ปีของบริษัทด้วย โดยใน 3 วันที่จัดงานเปิดตัว คาดว่ามียอดจองจาก 2 โครงการ ประมาณ
50 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งโครงการที่มียอดจองสูงสุดคือศุภาลัย
พรีเมียร์ เพลส อโศก คิดเป็น 80%ของยอดจองทั้งหมด ทั้ง 2 โครงการใหม่นี้นับเป็น
2 ใน 6 โครงการที่บริษัทวางแผนพัฒนาในปี 2547 มูลค่าโครงการรวมกว่า 6,000 ล้านบาท
แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมในสัดส่วน 40-45% บ้านเดี่ยว 30-35% และทาวน์เฮาส์ 20% โดยปีนี้จะเน้นพัฒนาสินค้าในตลาดคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่พัฒนาในระดับ
30%
"การเพิ่มระดับการพัฒนาสินค้าในกลุ่มคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากผลการสำรวจตลาด
พบว่าแรงซื้อโครงการที่อยู่อาศัยในเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินมีสูง แต่ราคาที่ดินย่านดังกล่าวก็จะมีราคาที่สูงมากขึ้นตามตัว"
นายประทีป กล่าว
ด้านนายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทได้เตรียมลงทุนซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการ ประมาณ 1,500
ล้านบาท อยู่ในทำเลย่านเอกมัย-รามอินทรา, ศรีนครินทร์, อ่อนนุช, พระราม 3, สาทร-สวนพลู
และอโศก นอกเหนือจาก 2 โครงการข้างต้นแล้ว ประมาณไตรมาส 4 ของปี 47 บริษัทจะทำการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมย่านเจริญกรุง-พระราม
3 อีก 1 โครงการ พัฒนาบนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ครึ่ง จำนวน 2 อาคาร สูง 23 และ 24
ชั้นตามลำดับ จำนวน 600 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท
จากแผนงานในปี 47 บริษัทจะพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงรวม 2,000 ยูนิต
โดยตั้งเป้าการขายไว้ที่ 6,000 ล้านบาท และรวมกับโครงการที่มีเหลืออยู่อีก 13 โครงการ
มีมูลค่าขายคงเหลือ ประมาณ 6,500 ล้านบาท มูลค่าประมาณ 6,500 ล้านบาท
"ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทมียอดการ ขายประมาณ 1,000 ล้านบาท คาดว่าตลาดรวมในไตรมาส
2 จะโตกว่า 4 เดือนแรกที่ผ่านมาและจะทำให้ยอดการขายเพิ่มขึ้นอีก 50% เนื่อง จากแรงซื้อจะกลับมาอยู่ในภาวะปกติหลังจากที่มีการชะลอลงบ้าง
ทั้งนี้นอกจากการรุกตลาดคอนโดฯแล้วบริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทาวน์เฮาส์ในระดับราคาที่
1- 3 ล้านกว่าบาท เพราะเห็นว่าความต้องการทาวน์เฮาส์จะกลับมาแทนที่บ้านเดี่ยวบางทำเลที่มีราคาค่อนข้างแพง
ทำให้มีแรงซื้อมากอย่างต่อเนื่อง"
นอกจากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในย่านกรุงเทพฯ แล้ว บริษัทยังได้ร่วมทุนกับกลุ่มนักธุรกิจท้องถิ่นในขอนแก่น
บุกตลาดบ้านเดี่ยวจัดสรร ทำโครงการศุภาลัยอีสานจำนวน 500 ยูนิต ทำเลติดแม่น้ำชี
เพื่อเจาะตลาดกลุ่มกลาง-บน มีระดับราคาเริ่มต้น 1-6 ล้านบาท ในส่วนงบโฆษณาสำหรับ
2 โครงการใหม่ที่เปิดขาย ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท