มีเดีย ออฟ มีเดียส์ เปิดแผนก้าวสู่ปีที่ 21 รุกสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 2 ช่อง
ไทย แชนแนล และเฮลธ์ ทีวี ออกอากาศผ่านช่องบีทีวีและยูบีซี ชี้เทรนด์ผู้ชมทีวีทั่วโลกเปลี่ยน
หันชม ช่องเคเบิลทีวีมากขึ้น คาด 3-5 ปีไทยเปลี่ยนตาม พร้อมปรับตัวสู่ "ดิจิตอล
มีเดีย" วางตัวเป็นนอนมิวสิก คอนเทนต์ โพรวายเดอร์
นางยุวดี บุญครอง กรรมการผู้จัดการ บริษัทมีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่าหลังจากใช้เวลาศึกษาการทำสถานีโทรทัศน์ ดาวเทียม (Free to Air) มาระยะหนึ่ง
บริษัทมีความพร้อมที่จะเปิดตัวการทำสถานีทีวีดาวเทียมในอีก 2 เดือนต่อจากนี้ ถือเป็นนโยบาย
การขยายธุรกิจบันเทิงครบวงจรในการก้าวสู่ปีที่ 21 ของมีเดียส์ รูปแบบ การทำสถานีทีวีดาวเทียมของบริษัท
จะส่งสัญญาณออกอากาศผ่านดาว เทียมไทยคม 3 และออกอากาศทางช่องสัญญาณจากสถานีโทรทัศน์
บีทีวี ที่ได้รับไลเซนส์จากกรมประชาสัมพันธ์ และเคเบิลทีวี ยูบีซี ทางช่อง 79 และ
80
สำหรับสถานีทีวีดาวเทียม 2 ช่อง คือ ช่องไทย แชนแนล รูปแบบรายการจะเป็นศิลปวัฒนธรรมไทยทุกแขนง
ซึ่งจะเป็นคอนเทนต์ ที่ผลิตและออกอากาศในไทย และจะนำไปขายในต่างประเทศด้วย อีก
ช่องคือ เฮลธ์ ทีวี ช่องทีวีเพื่อสุขภาพ ทั้ง 2 ช่องจะออกอากาศ 24 ชั่วโมง โดยจะผลิตรายการ
8 ชั่วโมง และออกอากาศซ้ำ 3 รอบ
ผู้ชมที่ต้องการชมรายการของช่องไทย แชนแนล และเฮลธ์ ทีวี เพียงแค่ติดตั้งเสาอากาศ
หรือจานรับสัญญาณของสถานีโทรทัศน์ บีทีวี หรือเป็นสมาชิกเคเบิลทีวี ยูบีซี ก็สามารถรับชมได้ทันที
ซึ่งการลงทุนของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม จะใช้งบลงทุนไม่สูง แตกต่างจากการลงทุน ฟรี
ทีวีในอดีตที่ต้องใช้งบลงทุนเป็นพันล้านบาท ส่วนรายได้ก็จะมาจากการขายเวลาโฆษณา
ซึ่งมีกลุ่ม ผู้ชมเป้าหมายชัดเจนกว่าช่อง ฟรี ทีวี ที่มีผู้ชมหลากหลาย
นายทรงวิทย์ จิรโศภิน รองกรรมการผู้จัดการ สายการผลิตและสร้างสรรค์ 1 บริษัทมีเดีย
ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เทรนด์ผู้ชมทีวีทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศขนาดใหญ่
ธุรกิจเคเบิลทีวีจะครองส่วนแบ่งการตลาด ผู้ชมสูงกว่า ฟรี ทีวี เพราะผู้ชมสามารถเลือกรับชมรายการที่สนใจได้ตลอดทั้งวัน
ต่างจาก ฟรี ทีวี ที่ถูกบังคับชมรายการตามที่กำหนดเอาไว้ ดูได้จากฟรี ทีวี ในไทย
ที่กำหนดเวลาไว้ว่า 19.00-20.00 น. จะต้องชมรายการข่าว 20.00 น.รายการละคร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากสถานีโทรทัศน์ไทยก้าวเข้าสู่ยุค ดิจิตอล ทีวีแล้ว ฟรี ทีวี
1 สถานี จะมีช่องรายการได้จำนวนมาก ก็จะเข้าสู่ยุคการ แบ่งเซกเมนต์ผู้ชม ช่องทีวี
1 ช่อง จะผลิตรายได้จับกลุ่มผู้ชมเฉพาะกลุ่มได้ การขยายตัวของ โทรทัศน์ดาวเทียม
จะผลักดันให้การรับชมราย การของคนไทยแบ่งเป็นกลุ่มๆ ซึ่งจะเป็นเทรนด์เดียวกับการรับชมรายการผ่านเคเบิลทีวีของคนทั่วโลก
คาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 3-5 ปีต่อจากนี้
สำหรับแผนการขยายธุรกิจของมีเดียส์ ในปีที่ 21 ได้วางทิศทางเป็น ดิจิตอล มีเดีย
ที่เป็นนอนมิวสิก คอนเทนต์ โปรวายเดอร์ โดยมุ่งขยายธุรกิจ 3 กลุ่ม คือ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม
ทำคอนเทนต์ป้อนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และคอนเทนต์ ระบบออดิโอเท็กซ์
ผ่านเลขหมาย 1900-xxx-xx ซึ่งใน 2 ธุรกิจหลังจะเข้าไปร่วมมือกับพันธมิตรเจ้าของเทคโนโลยี
โดยทั้ง 3 ธุรกิจเป็นการขยายตัวที่ยังอิงอยู่กับการทำธุรกิจหลักของมีเดียส์ที่เป็นผู้ผลิตรายการป้อนสถานีโทรทัศน์
คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้
นอกจากนี้ในไตรมาส 4 มีเดียส์จะเข้าสู่ธุรกิจสิ่งพิมพ์อีก 1 ประเภท ด้วยการเปิดตัวพ็อกเก็ตบุ๊ก
จากนักเขียนไทย หนังสือแปล และหนังสือการ์ตูน ที่มีเดียส์เป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นเอง
ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นผู้ประกอบธุรกิจบันเทิงครบวงจร ครอบคลุมสื่อวิทยุ
โฮม เอนเตอร์เทนเมนต์ สิ่งพิมพ์ และสื่อที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมัลติมีเดีย
"สิ้นปี 2547 บิลลิ่งของมีเดียส์ จะกลับสู่ระดับพันล้านบาท เหมือนช่วงก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี
2540 อีกครั้ง โดยเป็นผู้ผลิตรายการ ทีวี ที่มีแอร์ไทม์ ติด 1 ใน 3 ของประเทศไทย"
นายทรงวิทย์ กล่าว
นางยุวดี กล่าวต่อว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจของมีเดียส์ ปีนี้จะบริหารธุรกิจ
เพื่อให้หุ้นของมีเดียส์ เป็นหุ้นบลูชิปของนักลงทุน ให้ผลตอบแทนสูงสุดกับผู้ถือหุ้น
เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ในอดีตที่มีเดียส์เคยทำให้เสียหายจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยวางตัวเป็นผู้ผลิตรายการที่พร้อม
จะผลิตรายการทีวีป้อน ฟรี ทีวี ทุกช่อง หากสถานี ทีวีต่างๆ ให้โอกาส เพราะถึงแม้ว่ามีเดียส์จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นสถานีทีวี
ช่อง 7 แต่ก็พร้อมจะผลิตรายการให้ทุกช่อง