Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 เมษายน 2547
ก.ล.ต.แฉบจ.ไซฟ่อนสั่งเบรก5ราย3พันล้าน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
Standard & Poors (S&P)
ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
Stock Exchange




Q1 ปี 47 ก.ล.ต.สั่งระงับพฤติกรรมของบริษัทจด ทะเบียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในลักษณะฟอกเงิน 5 รายมูลค่า 3,000 ล้านบาท เผยถ้าเตือนแล้วไม่ฟังพร้อมเรียกผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนมาชี้แจงต่อคณะทำงานวินัยกรรมการด้วยตัวเอง แจงกรณี Standard & Poor's เป็นเพียงการสำรวจไม่ใช่ประเมิน พร้อมเตรียมทบทวนนำข้อมูลบางส่วนใน 56-1 ที่เกี่ยวกับบรรษัทภิบาลไปลงในรายงานประจำปีด้วย

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรม การกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานได้มีนโยบายติดตามพฤติกรรมของบริษัทจดทะเบียน ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เป็นลักษณะของการฟอกเงิน หรือการเอื้อ ประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่พบว่า ไตรมาสแรกปีนี้ได้ดำเนินการระงับการกระทำที่ไม่เหมาะสมแล้ว 5 รายโดยมีมูลค่ารายการรวมทั้งสิ้นประมาณ 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต.ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 ชุดประกอบ ด้วยคณะทำงานเพื่อทำการวิเคราะห์เจาะลึกรายการที่ไม่เหมาะสม ในงบการเงินและสั่งแก้ไข รวมถึงรายการที่เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นราย ใหญ่ และคณะทำงานที่สองเพื่อสร้างวินัยกรรมการของบริษัทจดทะเบียน ถ้าสำนักงาน ก.ล.ต.เตือนแล้ว และบริษัทจดทะเบียนยังไม่เชื่อ โดยยังดำเนินการต่อไป

สำนักงานก.ล.ต.ก็อาจจะเรียกผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อคณะทำงานวินัยกรรมการด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงขอเตือนให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในกรณีที่มีรายการที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นใหญ่

สำหรับ 5 บริษัทจดทะเบียนที่ถูกสำนักงาน ก.ล.ต.ระงับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนั้นมีลักษณะการดำเนินการคือ บริษัทมีโครงการจะนำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อให้กู้ยืมแก่บริษัท ที่เกี่ยวข้องกัน แต่ไม่ระบุรายชื่อบริษัทให้ชัดเจน และมูลค่าการให้กู้ยืมดังกล่าวมีจำนวนสูง ซึ่งบริษัทก็ไม่ได้จัดให้มีที่ปรึกษาทางการเงินให้ความเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของรายการภายหลังสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.ทักท้วงบริษัทได้ตัดสินใจยกเลิกโครงการดังกล่าว

นอกจากนี้กรณีบริษัทมีโครงการจะนำเสนอ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อให้กู้ยืมแก่ Holding Company ซึ่งมิได้มีความสัมพันธ์ใดๆ ทางการค้าประจำวันกับบริษัท และมีเงินกู้คงค้างกับบริษัทอยู่แล้วจำนวนมาก ภายหลังจากสำนักงาน ก.ล.ต. ทักท้วงบริษัทได้ตัดสินใจยกเลิกโครงการดังกล่าว กรณีบริษัทที่ 3 จากข้อมูลในงบการเงินพบว่าบริษัทได้ทยอยให้กู้เงินแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นใหญ่เพื่อใช้ในโครงการสนามกอล์ฟ ซึ่งมิใช่โครงการของบริษัท

โดยรายการดังกล่าวเป็นรายการที่เกี่ยวโยง ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ แต่ไม่ได้ขอความ เห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ภายหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ทักท้วงบริษัทได้ตัดสินใจเรียกหนี้ทั้งหมด คืนบริษัทที่ 4 คือบริษัทมีโครงการจะนำสินทรัพย์ ของบริษัทไปค้ำประกันวงเงินกู้ที่ผู้ถือหุ้นใหญ่จะกู้ยืมจากสถาบันการเงินทั้งที่บริษัทเองก็ยังอยู่ในระหว่างฟื้นฟูกิจการภายหลังจากสำนักงาน ก.ล.ต.ทักท้วง บริษัทได้ยกเลิกการค้ำประกันดังกล่าว

ส่วนบริษัทที่ 5 นั้นบริษัทมีโครงการจะซื้อโรงงานผลิตวัตถุดิบจากผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งที่บริษัท มีความต้องการใช้วัตถุดิบดังกล่าวไม่มากนัก และในขณะเดียวกันผู้ถือหุ้นใหญ่รายดังกล่าวก็ยังทำ ธุรกิจผลิตวัตถุดิบนั้นอยู่ซึ่งเป็นการแข่งขันกับบริษัทโดยตรงภายหลังจากที่สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ทักท้วง บริษัทได้ยกเลิกโครงการดังกล่าว

นายธีระชัยกล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า Standard & Poor's ที่ระบุว่าบริษัทจดทะเบียนไทยยังมีการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ดี หรือไม่มีบรรษัทภิบาลที่ดีนั้น โดยรายงานดังกล่าวมิได้เป็นการประเมินคุณภาพการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน แต่เป็นเพียงการสำรวจว่าบริษัทจดทะเบียนได้กล่าวถึงการปฏิบัติตามหลักบรรษัทภิบาลไว้ในรายงานประจำปีหรือไม่ เพียงใด

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯได้เคยทำ รายงานผลการประเมินการปฏิบัติตามหลักบรรษัทภิบาลของบริษัทจดทะเบียนพบว่าบริษัทจดทะเบียนส่วนมากปฏิบัติตามหลักบรรษัทภิบาล 15 ข้อของตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว เพียงแต่บาง บริษัทไม่ได้นำมาเปิดเผยไว้ในรายงานประจำปีของบริษัท แต่นำไปเปิดเผยไว้ในรายงานอื่น เช่นในแบบรายการ 56-1 เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สำนักงานจะทบทวนการเปิด เผยข้อมูล โดยจะนำข้อมูลบางส่วนในแบบรายการ 56-1 ที่เกี่ยวข้องกับบรรษัทภิบาลมาไว้ในรายงานประจำปีของบริษัทจดทะเบียนด้วย เพื่อเป็นการเน้นให้ผู้ลงทุนได้รับรู้ถึงพัฒนาของการปฎิบัติตามหลักบรรษัทภิบาลของแต่ละบริษัท ซึ่งสำนักงานก.ล.ต.จะยกร่างข้อเสนอเพื่อหารือกับตลาดหลักทรัพย์และสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทยต่อไป

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us