Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 เมษายน 2547
ไซรัสเตรียมระดมทุนในตลท. ขายIPO60ล้านหุ้นปลายปีนี้             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ - MAI
หลักทรัพย์ ไซรัส, บล.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
อนุชา สิหนาทกถากุล
Financing




ไซรัสเตรียมระดมทุนประมาณ 1 พันล้านบาท โดยนำ 60 ล้านหุ้นขายให้ประชาชนทั่วไป ที่ราคาพาร์ 2 บาท เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจและเป็นทุนหมุนเวียน คาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปลายปีนี้ เล็งเข้าถือหุ้นใน บลจ. รุกทำธุรกิจกองทุนรวม แต่ไม่ทิ้งธุรกิจตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ เร่งเพิ่มฐานลูกค้า

นายอนุชา สิหนาทกถากุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภายในปีนี้บริษัทมีแผนจะเข้าลงทุนในธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน โดยจะเข้าถือหุ้นใน บลจ.ประมาณ 5-10% เพื่อรุกธุรกิจด้านกองทุนรวมที่ได้รับผลดีหลายประการจากนโยบายรัฐที่เอื้อต่อการลงทุน

"ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเซ็นสัญญากับบริษัทที่จะเข้าร่วมลงทุน เพื่อเป็นสตาทิจิก พาร์ตเนอร์ โดยบริษัทจะเข้าไปช่วยดูแลในส่วนของบทวิเคราะห์และข้อมูลในการลงทุนตลอดจนการแนะนำลูกค้าในการลงทุนผ่านกองทุน" นายอนุชากล่าว

นอกจากนี้ บริษัทได้รับการติดต่อจากบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งเพื่อให้ควบรวมกิจการกัน แต่ขณะนี้บริษัทมีส่วนทุนที่ค่อนข้างสูงและไม่มีหนี้สิน จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องควบรวมกิจการกับบริษัทหลักทรัพย์ใด

ส่วนความคืบหน้าในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลัก ทรัพย์ภายในต้นเดือนหน้า บริษัทจะทำการยื่นแบบแสดงการกระจายหุ้น (ยื่นไฟลิ่ง) โดยจะสามารถกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้

โดยบริษัทมีแผนจะเพิ่มทุนจาก 350 ล้านเป็น 470 ล้านบาท หรือเพิ่มทุนใหม่ 120 ล้านบาท และออกหุ้นใหม่ 60 ล้านหุ้น ที่ราคาพาร์ 2 บาท คาดระดมเงินได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังไม่มีการกำหนด ราคาเสนอขายที่ชัดเจน โดยการกำหนดราคาจะต้องพิจารณาภาวะตลาดและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในขณะนั้นด้วย

สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจโดยเฉพาะการขยายสาขาเพิ่มอีก 2 สาขาที่ภูเก็ต และปิ่นเกล้าภายในเดือนมิถุนายนนี้ และส่วนหนึ่งจะนำมาเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

สำหรับงานด้านวาณิชธนกิจนั้นบริษัทรับเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดฯปีนี้ทั้งสิ้นจำนวน 8 บริษัท โดยจะเป็นธุรกิจที่อยู่ในหมวดบรรจุภัณฑ์ มีเดีย โรงพยาบาล และหมวดรับเหมาก่อสร้าง โดยจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ รวมเป็นเม็ดเงินที่จะเข้าระดมทุนประมาณ 800-1,000 ล้านบาท

และในไตรมาสที่สองนี้จะยื่นแบบแสดงการกระจายหุ้น(ยื่นไฟลิ่ง)จำนวน 2 บริษัท และคาดว่าจะสามารถกระจายหุ้นได้ในไตรมาสที่สาม ปีนี้ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทได้ยื่นแบบแสดงการกระจายหุ้นของบริษัทโฟกัส เอนจิเนียริ่ง ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แล้ว

สำหรับแผนงานในการบริหารนั้น บริษัทมีแผนจะเพิ่มจำนวนนักวิเคราะห์ขึ้นอีก 1 คน โดยขณะนี้บริษัทมีนักวิเคราะห์จำนวน 9 คน ที่สามารถทำบทวิเคราะห์ได้ครอบคลุมหุ้น 70% ของมูลค่าตลาดรวมแล้ว นอกจากนี้ยังมีแผนจะเพิ่มจำนวนมาร์เกตติ้ง อีก 20-30 คน จากเดิมประมาณ 90 คนเป็นประมาณ 120 คน

ทั้งนี้สัดส่วนลูกค้าที่เป็นนักลงทุนรายย่อยปัจจุบันอยู่ที่ 80% และนักลงทุนสถาบัน 16-17 % และนักลงทุนต่างชาติมีเพียง 3-4% เท่านั้น โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนจำนวนนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศให้เพิ่มเป็น 30% ของสัดส่วนลูกค้าของบริษัท

นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดสำนักงานแลนด์มาร์คซึ่งเป็นสาขาที่สองของบริษัท ซึ่งใช้งบลงทุนประมาณ 20 ล้านบาทโดยการเปิดสาขาเพิ่มนี้นอกเหนือจากเป็นการเพิ่มคุณภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าเดิมแล้ว บริษัทยังมีวัตถุประสงค์ที่จะขยายฐานลูกค้าเพิ่มเพื่อให้เป็นไปตามแผนการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทจากเดิมอยู่ที่ประมาณ 2% ให้เพิ่มเป็น 3% ภายในปี 47 นี้ โดยปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ลดลงตามมูลค่าการซื้อขายที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก นอกจากนี้จะขยายฐานลูกค้าสถาบันทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการส่งคำสั่งซื้อขาย โดยเป็นการดำเนินการเพื่อให้บริษัทกว้างขึ้นไปเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของประเทศต่อไป

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us