ไซรัสเตรียมระดมทุนประมาณ 1 พันล้านบาท โดยนำ 60 ล้านหุ้นขายให้ประชาชนทั่วไป
ที่ราคาพาร์ 2 บาท เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจและเป็นทุนหมุนเวียน คาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ได้ปลายปีนี้ เล็งเข้าถือหุ้นใน บลจ. รุกทำธุรกิจกองทุนรวม แต่ไม่ทิ้งธุรกิจตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์
เร่งเพิ่มฐานลูกค้า
นายอนุชา สิหนาทกถากุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่าภายในปีนี้บริษัทมีแผนจะเข้าลงทุนในธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
โดยจะเข้าถือหุ้นใน บลจ.ประมาณ 5-10% เพื่อรุกธุรกิจด้านกองทุนรวมที่ได้รับผลดีหลายประการจากนโยบายรัฐที่เอื้อต่อการลงทุน
"ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเซ็นสัญญากับบริษัทที่จะเข้าร่วมลงทุน
เพื่อเป็นสตาทิจิก พาร์ตเนอร์ โดยบริษัทจะเข้าไปช่วยดูแลในส่วนของบทวิเคราะห์และข้อมูลในการลงทุนตลอดจนการแนะนำลูกค้าในการลงทุนผ่านกองทุน"
นายอนุชากล่าว
นอกจากนี้ บริษัทได้รับการติดต่อจากบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งเพื่อให้ควบรวมกิจการกัน
แต่ขณะนี้บริษัทมีส่วนทุนที่ค่อนข้างสูงและไม่มีหนี้สิน จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องควบรวมกิจการกับบริษัทหลักทรัพย์ใด
ส่วนความคืบหน้าในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลัก ทรัพย์ภายในต้นเดือนหน้า
บริษัทจะทำการยื่นแบบแสดงการกระจายหุ้น (ยื่นไฟลิ่ง) โดยจะสามารถกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้
โดยบริษัทมีแผนจะเพิ่มทุนจาก 350 ล้านเป็น 470 ล้านบาท หรือเพิ่มทุนใหม่ 120
ล้านบาท และออกหุ้นใหม่ 60 ล้านหุ้น ที่ราคาพาร์ 2 บาท คาดระดมเงินได้ประมาณ 1,000
ล้านบาท ทั้งนี้ ยังไม่มีการกำหนด ราคาเสนอขายที่ชัดเจน โดยการกำหนดราคาจะต้องพิจารณาภาวะตลาดและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในขณะนั้นด้วย
สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจโดยเฉพาะการขยายสาขาเพิ่มอีก
2 สาขาที่ภูเก็ต และปิ่นเกล้าภายในเดือนมิถุนายนนี้ และส่วนหนึ่งจะนำมาเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
สำหรับงานด้านวาณิชธนกิจนั้นบริษัทรับเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดฯปีนี้ทั้งสิ้นจำนวน
8 บริษัท โดยจะเป็นธุรกิจที่อยู่ในหมวดบรรจุภัณฑ์ มีเดีย โรงพยาบาล และหมวดรับเหมาก่อสร้าง
โดยจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ รวมเป็นเม็ดเงินที่จะเข้าระดมทุนประมาณ
800-1,000 ล้านบาท
และในไตรมาสที่สองนี้จะยื่นแบบแสดงการกระจายหุ้น(ยื่นไฟลิ่ง)จำนวน 2 บริษัท และคาดว่าจะสามารถกระจายหุ้นได้ในไตรมาสที่สาม
ปีนี้ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทได้ยื่นแบบแสดงการกระจายหุ้นของบริษัทโฟกัส เอนจิเนียริ่ง
ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แล้ว
สำหรับแผนงานในการบริหารนั้น บริษัทมีแผนจะเพิ่มจำนวนนักวิเคราะห์ขึ้นอีก 1 คน
โดยขณะนี้บริษัทมีนักวิเคราะห์จำนวน 9 คน ที่สามารถทำบทวิเคราะห์ได้ครอบคลุมหุ้น
70% ของมูลค่าตลาดรวมแล้ว นอกจากนี้ยังมีแผนจะเพิ่มจำนวนมาร์เกตติ้ง อีก 20-30
คน จากเดิมประมาณ 90 คนเป็นประมาณ 120 คน
ทั้งนี้สัดส่วนลูกค้าที่เป็นนักลงทุนรายย่อยปัจจุบันอยู่ที่ 80% และนักลงทุนสถาบัน
16-17 % และนักลงทุนต่างชาติมีเพียง 3-4% เท่านั้น โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนจำนวนนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศให้เพิ่มเป็น
30% ของสัดส่วนลูกค้าของบริษัท
นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดสำนักงานแลนด์มาร์คซึ่งเป็นสาขาที่สองของบริษัท ซึ่งใช้งบลงทุนประมาณ
20 ล้านบาทโดยการเปิดสาขาเพิ่มนี้นอกเหนือจากเป็นการเพิ่มคุณภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าเดิมแล้ว
บริษัทยังมีวัตถุประสงค์ที่จะขยายฐานลูกค้าเพิ่มเพื่อให้เป็นไปตามแผนการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทจากเดิมอยู่ที่ประมาณ
2% ให้เพิ่มเป็น 3% ภายในปี 47 นี้ โดยปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ลดลงตามมูลค่าการซื้อขายที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก
นอกจากนี้จะขยายฐานลูกค้าสถาบันทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการส่งคำสั่งซื้อขาย
โดยเป็นการดำเนินการเพื่อให้บริษัทกว้างขึ้นไปเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของประเทศต่อไป