ผู้นำที่แท้จริง
Bill George ผู้แต่งซึ่งเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จชี้ว่า เมื่อผู้นำอุทิศตัวอย่างแน่วแน่ที่จะรับใช้ผู้อื่น
และเป็น "ผู้นำที่แท้จริง" พวกเขาจะสามารถสร้างองค์กรที่อยู่ยงคงกระพัน ซึ่งจะสร้างประโยชน์มหาศาลให้แก่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง
ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ลูกจ้างหรือผู้ถือหุ้น รวมทั้งสร้างความหมายอันยิ่งใหญ่ต่อโลกได้
โดยรางวัลที่ผู้นำที่แท้จริงจะได้รับ คือความพึงพอใจที่สามารถสร้างความแตกต่างขึ้นในชีวิตของลูกค้า
สร้างโอกาสให้แก่ลูกจ้าง และสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น
แต่อุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางไม่ให้ผู้นำกลายเป็นผู้นำที่แท้จริงคือความโลภ
ที่สามารถล่อลวงผู้นำมากมาย ให้สละอนาคตขององค์กร และคนที่อยู่ใต้การนำของเขาทิ้งไปได้ดังกรณีการล่มสลายของบริษัท
Enron ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคดีล้มละลายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
และ Arthur Andersen บริษัทบัญชียักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ทรยศต่อวิชาชีพของตน
ซึ่งทำให้โลกถึงกับตกตะลึง และเพิ่งรับรู้ความจริงที่ว่า ธุรกิจทุกวันนี้มุ่งหน้าสู่การทำลายตัวเอง
ซึ่งลำพังการแก้ไขกฎหมายเพื่ออุดช่องโหว่นั้นไม่เพียงพอ แต่จะแก้ไขได้ก็ด้วย
การมีผู้นำที่แท้จริง ที่มีความซื่อสัตย์ มีความอุทิศตัวที่จะรับใช้ผู้อื่น
และมีบรรษัทภิบาลสร้างบริษัทที่อยู่ยั้งยืนยง
ผู้นำที่แท้จริงคือผู้นำที่มุ่งมั่นจะสร้างองค์กรที่คงอยู่ตลอดไป กล้าที่จะสร้างบริษัทที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
และตระหนักถึงความสำคัญของการรับใช้สังคม โดยมีความปรารถนาอย่างแท้จริงที่จะรับใช้ผู้อื่น
ผ่านการเป็นผู้นำของตน มากกว่าการคำนึงถึงการแสวงหาอำนาจ เงินตราหรือเกียรติยศให้แก่ตนเอง
พวกเขามีทั้งความรักความเมตตาพร้อมกับมีเหตุมีผล
George สรุปว่า คุณสมบัติของผู้นำที่แท้จริงมี 5 ประการคือ
1. เข้าใจจุดประสงค์ของตนอย่างชัดเจน
2. ยึดมั่นในคุณค่าที่ดีอย่างเหนียวแน่น
3. เป็นผู้นำด้วยหัวใจ
4. สร้างสัมพันธภาพที่ยั่งยืน
5. มีวินัยในตัวเองสูง
ผู้แต่งชี้ว่า บริษัทที่จะอยู่ยงคงกระพันก็เช่นเดียวกับผู้นำที่แท้จริง
กล่าวคือจะต้องมีวิสัยทัศน์และภารกิจเป้าหมาย และยึดถือคุณค่าที่ดีอย่างเหนียวแน่น
รวมทั้งทำให้พนักงานมีพลังที่จะรับใช้ลูกค้า ด้วยนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และการบริการที่ดีเยี่ยม
และมีวินัยพอที่จะสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัท ทั้งหมดนี้จะทำให้บริษัทสามารถแข่งขันได้ดีขึ้นในตลาด
และอยู่ยั้งยืนยงตลอดไป
ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
การสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน คือกระบวนการที่ผู้นำและองค์กรมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันและเติบโตขึ้นจากการมีปฏิสัมพันธ์นั้น
กล่าวคือผู้นำจะเป็นผู้นำได้ดีขึ้น ในขณะที่องค์กรก็สามารถตอบสนองต่อการนำของผู้นำได้ดีขึ้นเช่นกัน
ผู้แต่งย้ำในตอนท้ายว่า บริษัทที่จะอยู่ยงตลอดไปหลายๆ สิบปี จำเป็นจะต้องมีบรรษัทภิบาล
และสร้างระบบสืบทอดตำแหน่งผู้นำอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ส่วนผู้นำที่แท้จริงก็จะต้องไม่ลืมบทบาทที่มีต่อสังคม
ด้วยการสนใจที่จะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาสังคมที่มีอยู่
