Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2547








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2547
เมื่อคนหนุ่มสาว KBANK ตบเท้ารวมพลังต้อนรับ MD ใหม่             
โดย ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกสิกรไทย

   
search resources

ธนาคารกสิกรไทย, บมจ.
บัณฑูร ล่ำซำ
ประสาร ไตรรัตน์วรกุล
สาระ ล่ำซำ
Banking




เมื่อเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกสิกรไทย มีกรรมการผู้จัดการคนใหม่ ที่ไม่ใช้นามสกุล "ล่ำซำ" ความจำเป็นในการเรียกระดม เพื่อตรวจสอบกำลังพลจึงเกิดขึ้น

ดูเหมือนจะเป็นเหตุบังเอิญที่ในวันที่ 2 เมษายน 2547 ซึ่งเป็นวันที่ "ผู้จัดการ" ได้ไปสัมภาษณ์สาระ ล่ำซำ ในฐานะที่เข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต ซึ่งสาระได้เน้นย้ำถึง 2 ครั้งในการสัมภาษณ์ว่ากลุ่มล่ำซำยังคง Involve อยู่ในองค์กรที่มีอายุ 54 ปีแห่งนี้

ในวันเดียวกันนั้น ที่ธนาคารกสิกรไทย มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวกรรมการผู้จัดการคนใหม่ และคำพูดเด็ดที่หลุดออกจากปากของ บัณฑูร ล่ำซำ คือ "วันนี้เป็นวันแรกในประวัติ ศาสตร์ 59 ปี ของธนาคารกสิกรไทย ที่มีกรรมการผู้จัดการที่ไม่ได้ใช้นามสกุลล่ำซำ"

วันศุกร์ที่ 2 เมษายน 2547 ตามปฏิทินจีน ซึ่งจัดทำโดยน่ำเอี้ยงโหราศาสตร์ กำหนดให้เป็นวันธงชัย "เป็นวันที่เลือกเฟ้นฤกษ์ที่ดีแล้ว เหมาะสำหรับเปิดกิจการ เข้าบ้านใหม่ ฯลฯ" และเป็นวันที่บัณฑูร ล่ำซำ เลือกใช้เป็นวันประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ประจำปี 2547

วาระในการประชุมในวันนั้น นอกจากการขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นเพื่อเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 6,500 ล้านบาทแล้ว ยังขออนุมัติตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และแต่งตั้ง ประสาร ไตรรัตน์วรกุล เข้ามาเป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่

การประชุมเริ่มต้นในช่วงบ่าย และดำเนินต่อไปจนกระทั่งถึงเวลา 17.00 น. จึงสิ้นสุด หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งบัณฑูร และประสาร ก็เดินคู่กันมาเพื่อเปิดแถลงข่าว

เนื้อหาในการแถลงมีไม่มากนัก เพราะส่วนใหญ่เขาได้พูดไปแล้วในวันเปิดตัวประสารครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ดังนั้นการแถลงจึงใช้เวลาเพียงสั้นๆ ไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็เสร็จ

แต่สิ่งหนึ่งที่บัณฑูรยืนยันกับผู้สื่อข่าว คือเขายังคงทำงานอยู่ในธนาคารกสิกรไทย ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) พร้อมทั้งปฏิเสธกระแสข่าว ที่ออกมาก่อนหน้าว่าเขาจะลงไปเล่นการ เมืองว่าไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง

เสร็จสิ้นจากการแถลงข่าว ผู้สื่อข่าว ทุกคนถูกเชิญลงมาจากชั้น 8 เพื่อมาที่ลานริมน้ำ เพื่อร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่ใช้ชื่อว่า "ร้อยใจกสิกรไทยเป็นหนึ่งเดียว"

ภายในงานมีการบรรเลงดนตรีที่ผสมผสานกันระหว่างวงปี่พาทย์กับวง K-Band ที่ใช้เครื่องดนตรีสมัยใหม่

บัณฑูรบอกวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้บนเวทีว่า "ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ จัดเพราะอยากจัด แล้วอีกอย่าง เห็นว่าเมื่อช่วงปีใหม่ ธนาคารก็ไม่ได้มีการจัดงานสังสรรค์ และเป็นการแนะนำกรรมการผู้จัดการคนใหม่ให้กับผู้บริหารได้รู้จัก"

คำว่า "ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ" ดูเหมือนจะตรงข้ามกับการเตรียมจัดงาน เพราะพยายามทำให้เป็นระบบ กำหนดแขกรับเชิญไว้อย่างชัดเจน

ผู้ที่มาร่วมงานในส่วนของธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้บริหารระดับตั้งแต่ผู้อำนวย การฝ่ายขึ้นไปจนถึงผู้ช่วยและรองกรรมการ ผู้จัดการ ซึ่งมีจำนวนประมาณ 70 คนเศษ

ในจำนวนนี้กว่าครึ่ง ล้วนอยู่ในวัยหนุ่มสาว อายุระหว่าง 35-45 ปี

ส่วนผู้ร่วมงานในส่วนของสื่อมวลชน นอกจากผู้สื่อข่าวที่ไปฟังการแถลงข่าวในช่วงเย็นแล้ว ยังมีการเชิญผู้บริหาร ระดับบรรณาธิการของทั้งหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และสถานีโทรทัศน์ ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน การธนาคาร ไปร่วมงานด้วยเป็นการเฉพาะ

ลานริมน้ำหลังอาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารกสิกรไทยในวันนั้น จึงแน่นขนัดไปด้วยผู้คน

จุดเด่นของงาน นอกจากการที่บัณฑูรได้ขึ้นเวทีเดี่ยวซอสามสายในเพลง "คำหวาน" โดยให้เหตุผลว่านับจากนี้ไป จะมีแต่การพูดคำหวานระหว่างกันแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประสาร ได้พบปะ กับพนักงานระดับบริหาร รวมทั้งสื่อมวลชน ระดับบรรณาธิการอย่างใกล้ชิด

เป็นการจัดงานที่ "ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ" แต่แฝงไว้ด้วยวัตถุประสงค์ ที่ต้องตีความกันพอสมควร

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us