นับเป็นครั้งที่ 2 ของการจัดงานแถลงข่าว สายการบิน "นกแอร์" สายการบินประเภท
low cost airline
แม้ว่ารูปแบบของการจัดงานแถลงข่าวครั้งนี้จะเน้นความเรียบง่าย สถานที่จัดงานก็เป็นห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมโฟร์ซีซั่น
(รีเจ้นท์ กรุงเทพฯ) ผิดไปจากเมื่อครั้งเปิดตัว "แบรนด์" นกแอร์ ที่ต้องมีคอนเซ็ปต์ตั้งแต่การ์ดเชิญไปจนกระทั่งรูปแบบการจัดงาน
แต่ "เนื้อหา" ของการแถลงข่าวครั้งนี้กลับไม่ธรรมดา เพราะเป็นความพยายามสร้างแบรนด์
"นกแอร์" ผ่านรูปแบบการตลาดที่เน้นความแปลกใหม่ ประเภทที่ไม่มีสายการบินไหนเคยทำมาก่อน
เพื่อสร้างความจดจำ ก่อนสายการบินเที่ยวบินแรกของนกแอร์จะเปิดให้บริการจริงในเดือนมิถุนายน
แทนที่จะเปิดรับสมัคร "แอร์โฮสเตท" ด้วยขั้นตอนแบบปกติธรรมดา แต่นกแอร์จับมือยูบีซี
อินไซด์ (ยูบีซีช่อง 35) ร่วมกันผลิตรายการมีชื่อว่า "นกฮันท์" คัดเลือกพนักงานนกแอร์
โดยให้บริษัททรี พีเพิล เป็นผู้ผลิตรายการ
รายการนกฮันท์ ที่เป็นรายการประเภทถ่ายสด "reality" ไม่มีสคริปต์หรือการท่องบท
และเปิดให้ผู้ชมได้เข้ามีส่วนในการคัดเลือกจะถูกนำเสนอในช่องยูบีซี อินไซด์
ซึ่งเป็นรายการบันเทิง ทั้งหมด 6 ตอน
ระหว่างที่คู่แข่งของเราอย่างไทยแอร์เอเชีย และวันทูโก พูดเรื่องของรายการ
แต่เราต้องการสร้างมุมมองแตกต่าง เมื่อคู่แข่งของเราสอนผู้โดยสารให้เรียนรู้เกี่ยวกับ
low cost airline แต่เราจะสอนผู้โดยสารเรียนรู้วัฒนธรรมความสนุกสนาน ด้วยกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ไม่เหมือนใคร"
พาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของนกแอร์ ที่ขึ้นเวทีแถลงข่าวด้วยเสื้อยืดคอกลมติดตราสัญลักษณ์
"นกแอร์" พร้อมกับผู้บริหารของยูบีซี และทรี พีเพิล
ทางด้านยูบีซี อินไซด์ มองว่า การร่วมมือในครั้งนี้ยูบีซีจะได้รับประโยชน์จากเนื้อหารายการประเภท
"reality show" ที่ ถ่ายทำกันโดยไม่มีสคริปต์ ซึ่งเป็นรายการที่ยูบีซีไม่เคยมีมาก่อน
"รายการประเภทนี้กำลังเป็น trend ทั่วโลก เพราะคนดูเริ่มเบื่อรายการที่มีสคริปต์บอกบท
และดูเหมือนว่ารายการลักษณะนี้ไปได้ดีกับการจัดกิจกรรมนอกสถานที่ ซึ่งก็เหมาะกับที่นกแอร์ทำ"
ศรัณย์ จันทพลาบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายโฆษณาและสปอนเซอร์ บริษัทซีนีเพล็กซ์ในเครือยูบีซี
บอก "และนี่ก็คือครั้งแรกของยูบีซี ที่จะมีรายการประเภทนี้"
รายการ "นกฮันท์" ที่มีทั้งหมด 6 ตอน นั้นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับขั้นตอนการคัดเลือกแอร์โฮสเตทของนกแอร์
โดยผู้สมัคร จำนวน 20 คน ที่คัดเลือกมาจากผู้สมัคร 500 คน ในจำนวนนี้จะถูกคัดเหลือเพียง
10 คน นอกจากจะเปลี่ยนไปใช้ชื่อ "นก" แล้ว ยังต้องมีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับ
"วัฒนธรรม" ของนกแอร์ คือ ความเฉลียวฉลาด ร่าเริง สนุกสนาน
ทั้งหมดนี้จะเป็นเนื้อหาของรายการ ที่แบ่งออกเป็น 6 ตอน เริ่มออกอากาศวันที่
6 เมษายน จนถึง 11 พฤษภาคม
ความเคลื่อนไหวของ "นกแอร์" ครั้งนี้จึงเป็น 1 ในกลยุทธ์ การตลาดที่มุ่งเน้นเรื่องการสร้าง
"brand" นกแอร์ เพื่อเรียกกระแสความสนใจจากผู้คน ก่อนเปิดให้บริการจริงในเดือนมิถุนายน
ซึ่งถือเป็นงานถนัดของ "ซีอีโอ" พาที สารสิน ที่พื้นฐาน มาจากเอเยนซี่ โฆษณา
ที่เคยสร้างแบรนด์ให้กับสินค้ามานักต่อนักแล้ว
ครั้งนี้ก็เช่นกัน นอกจากจะแปรเปลี่ยนกระบวนการคัดเลือก คนให้ "เนื้อหา"
รายการในเคเบิลทีวีแล้ว ผู้สมัครแอร์โฮสเตททั้ง 20 คน ก็เปรียบได้กับการเป็น
"ดารา" ที่จะอยู่ในใจของผู้ชม เพราะจะให้ผู้ชมติดตามรายการ ด้วยการลงคะแนนเสียงให้ผู้เข้า
ร่วมแข่งขันเลือกคนโปรดในใจ
เมื่อแอร์โฮสเตทเป็นเสมือนดารา "ใครที่อยากดูดาราก็ต้องไปดูที่สายการบินนกแอร์"