Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2547








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2547
ปลดพันธนาการ             
 

   
related stories

Allianz เดินตรงทางอีกครั้ง
ผลงานของ Diekmann

   
www resources

Allianz AG Homepage

   
search resources

Allianz AG
Financing




ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นยุคที่ Allianz เฟื่องฟูสุดขีดในเยอรมนีนั้น สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่แห่งนี้ได้ทุ่มซื้อหุ้นของบริษัทระดับ bluechip มากมายในดัชนี DAX 30 ของเยอรมนี ทั้ง BMW ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ KarstadtQuelle บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ และ Linde ยักษ์ใหญ่ด้านเคมี

แต่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2001 เป็นต้นมา Allianz ได้เริ่มขายหุ้นของบริษัทต่างๆ ที่ถืออยู่ออกไปเป็นมูลค่ารวมถึง 3 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงหุ้นของบริษัทสาธารณูปโภค RWE และ E.ON และยักษ์ใหญ่เคมีภัณฑ์อย่าง BASF รวมทั้งหุ้นในบริษัทเครื่องสำอางชื่อดังอย่าง Beiersdorf เจ้าของผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Nivea ซึ่งการลดการถือครองหุ้นใน Beiersdorf ลงจาก 47% เหลือ 3.6% (ก่อนจะซื้อกลับมาเป็น 7%) ทำให้ Allianz ได้เงินสดกลับมาถึง 5.4 พันล้านดอลลาร์ และไม่เว้นแม้แต่หุ้นในบริษัท Munich Re Group ซึ่งเป็นพันธมิตรและเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการประกันภัยด้วยกัน ที่ Allianz ได้ลดการถือครองหุ้นลงจาก 33% เหลือ 9%

การปลดพันธนาการจากบริษัทอื่นๆ ทำให้ Allianz นำเงินสดที่ได้มาลงทุนใหม่ในธุรกิจหลัก และสามารถเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินได้ เนื่องจากเท่ากับ Allianz ได้ลดความเสี่ยงในการถือทรัพย์สินที่มีความผันผวนสูงอย่างหุ้นลงไปได้ โดยในขณะนี้ ทรัพย์สินที่อยู่ในรูปหุ้นในบริษัทต่างๆ ของ Allianz มีสัดส่วนเพียง 16% ของบัญชีทรัพย์สินทั้งหมดของ Allianz เท่านั้น เทียบกับที่เคยมีสัดส่วนถึง 36% ในปี 2000

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us