บิ๊กทอท.แย้มผลประกอบการปีนี้โตขึ้นจากปีก่อน เหตุปีก่อนได้รับผลกระทบจากสงครามอิรัก-สหรัฐฯ
รวมถึงไข้หวัดซาร์สทำให้ยอดผู้โดยสารลดลงประมาณ 20% เล็งดันโรงแรมสุวรรณภูมิเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายบัญชา ปัตตนาภรณ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด
(มหาชน) หรือทอท.เปิดเผยว่า ผลประกอบการภายในปี 2547 นี้จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างมาก
เนื่องจากในปี 2546 ได้รับผลกระทบจากสงครามสหรัฐฯกับอิรัก รวมถึงการแพร่ระบาดของไข้หวัดซาร์ส
จึงทำให้ยอดผู้โดยสารลดลงประมาณ 20% ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรแล้วประมาณ 4,300
ล้านบาท ซึ่งถ้าหักบริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) จะมีกำไรประมาณ
4,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ผลประกอบการของในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมาของทอท.มีการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจำนวนผู้โดยสารจะเป็นอย่างไร ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและเป็นปัจจัยที่ทำให้หุ้นของบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี
ดังนั้น จึงทำให้นักลงทุนต่างประเทศสนใจ ที่จะเข้ามาถือหุ้นโดยที่ผ่านมากองทุนเทมาเซ็คจากสิงคโปร์ก็ติดต่อที่จะขอเข้ามาถือหุ้นแต่บริษัทไม่สามารถจัดสรรให้ได้ซึ่งถ้าสนใจก็จะต้องเข้าไปซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
โดยปัจจุบัน นี้นักลงทุนต่างประเทศถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 40%
นายบัญชา กล่าวว่าหุ้นทอท.ถือได้ว่าเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจะเห็นได้จากราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างมากโดยสูงกว่าราคาจองที่กำหนดไว้หุ้นละ
42 บาทถึงแม้ว่าภาวะตลาดหุ้นในช่วง 2-3 วันจะปรับตัวลดลง แต่ราคาหุ้นก็ยังสูงกว่าราคาจองที่กำหนดไว้ประมาณ
11 บาทเศษ โดยในช่วงที่กระจายหุ้นนั้นได้มีการสำรวจความต้องการของนักลงทุนต่างประเทศพบว่านักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจจองซื้อหุ้น
ถึง 21 เท่า
ซึ่งไม่เคยมีบริษัทของไทยรายใดที่ไปเสนอขายหุ้นต่างประเทศจะได้รับความสนใจเท่านี้ในขณะที่นักลงทุนในประเทศให้ความสนใจประมาณ
10-11 เท่าสาเหตุที่น้อยกว่าต่างประเทศ เพราะได้มีการปิดจองเสียก่อน
"หุ้นทอท.ที่เข้ามาซื้อขาย ไม่ได้ทำให้นักลงทุนผิดหวังโดยราคาปิดล่าสุดเมื่อวันที่
23 เม.ย. ที่ผ่านมายืนอยู่ที่ระดับ 53.50 บาทขณะที่ราคา จองกำหนดไว้หุ้นละ 42 บาทดังนั้นจึงยังสูงกว่าราคาจอง
11.50 บาทหรือคิดเป็นเกือบ 30%" นายบัญชากล่าว
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาหุ้นที่กระจายส่วนหนึ่งได้จัดสรรให้แก่ผู้มีอุปการคุณในจำนวน
21.988 ล้านหุ้น โดยเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับผู้มีอุปการคุณได้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์โดยตรงต่อทอท.,บริษัทคู่สัญญาที่มีธุรกิจกับทอท.,อดีตผู้บริหารระดับสูงของทอท.และอดีตบุคคล
หรือผู้บริหารนั้นๆและหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องตามเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) กำหนดไว้
รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่าทอท.ยังมีแผนที่จะนำบริษัทในเครือคือโรงแรมสุวรรณภูมิเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตซึ่งโรงแรมดังกล่าวจะเริ่มเปิดให้บริการ
ในวันที่ 29 กันยายน 2548 โดยเป็นโรงแรมระดับ 4 ถึง 5 ดาวโดยมีจำนวนห้องทั้งสิ้น
600 ห้องใช้งบในการก่อสร้างประมาณ 2,700 ล้านบาทซึ่งทอท.เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน
60% บริษัทการบินไทยถือหุ้น 30% และธนาคารกรุงไทยถือหุ้น 10%