Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน23 เมษายน 2547
บง.ธนชาติยกฐานะเป็นโฮลดิ้งเล็งลดหุ้นธนาคารเหลือแค่50%             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย
โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โฮมเพจ บริษัทเงินทุนธนชาติ

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ธนชาต, บล.
ธนาคารธนชาต, บมจ.
กระทรวงการคลัง
บันเทิง ตันติวิท
ศุภเดช พูนพิพัฒน์
Banking
ธนชาติ, บง.




กลุ่มธนชาติ วางแผนลดสัดส่วนถือหุ้นในแบงก์ธนชาต เหลือ 50% จากที่ถือกว่า 98% พร้อมเปิดทางให้พันธมิตรต่างชาติเข้าถือหุ้นเสริมความแข็งแกร่งโดยเฉพาะพันธมิตรต่างชาติ ระบุเตรียมประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 29 เม.ย.ขอเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 7 พันล้านบาท เป็น 1.5 หมื่นล้านบาท ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมราคาพาร์ ยันคงบริษัทธนชาติ โฮลดิ้งที่เป็นบริษัทแม่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนแบงก์เสนอทางเลือก 3 ทาง ตั้งเป้า 3 ปีเพิ่มสาขา 180 สาขา ชิงมาร์เกตแชร์ 5% ของระบบ

นายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ บริษัทเงินทุน (บง.) ธนชาติ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ากลุ่มธนชาติได้มีการปรับโครง สร้างใหญ่ทั้งหมดเพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บท ทางการเงิน หลังจากกระทรวงการคลังได้อนุมัติให้ธนาคารธนชาต เปิดดำเนินธุรกิจเพิ่มอีก 2 ประเภท คือ เปิดบัญชีเงินฝากประเภทกระแสรายวัน และทำธุรกรรมต่างประเทศ ทำให้ธนาคาร มีขอบเขตการบริการทางการเงินเหมือนกับธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง

สำหรับโครงสร้างใหม่นั้น บง.ธนชาติ ที่ถือ หุ้นธนาคารธนชาต จะดำเนินธุรกิจเป็นเพียงบริษัทแม่ในกลุ่มธนชาติ (Holding Company) ถือหุ้นใหญ่ในกลุ่มธุรกิจอื่นของธนชาติ และคืนใบอนุญาตเงินทุน (บง.) ให้กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ภายใน 1 ปี โดยในส่วนของธุรกิจเช่าซื้อที่เป็นสัญญาเดิมยังคงดำเนินต่อ ไปจนกระทั่งหมดอายุสัญญา ขณะที่สัญญาเช่าซื้อ ใหม่จะต้องขอสินเชื่อจากธนาคารแห่งใหม่เท่านั้น

ส่วนบทบาทของบริษัท ธนชาติ จำกัด (มหาชน) บริษัทโฮลดิ้งคอมปานี ที่จะเกิดขึ้นใหม่ นั้น มีนโยบายที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ เพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถการแข่งขันภายใต้กรอบของแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (Financial Master Plan) ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนที่จะปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารลงเหลือประมาณ 50% จากปัจจุบันที่ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 98% "การลดสัดส่วนการถือหุ้นธนาคารธนชาต มีจุดประสงค์เพื่อดึงพันธมิตรเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง และศักยภาพในการแข่งขัน โดยจะเปิดกว้างให้ทั้งพันธมิตรในประเทศและต่างประเทศ แต่ผมมองว่าพันธมิตรต่างประเทศน่าจะเหมาะสมมากกว่า"

พร้อมกันนี้ ธนาคารยังมีการปรับโครงสร้าง ให้สอดคล้องกับภาวะปัจจุบัน เพื่อให้การดำเนิน ธุรกิจธนาคารพาณิชย์มีความแข็งแกร่ง จึงเตรียม แผนที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกจำนวน 7,000 ล้านบาท โดยจะเสนอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น พิจารณาอนุมัติในวันที่ 28 เมษายนนี้ หลังจากผ่านขั้นตอนการอนุมัติแล้วจะทำให้ธนาคารมีทุน จดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 ล้านบาท และมีสัดส่วนกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) อยู่ประมาณ 12-15% โดยเป็นกองทุนขั้นที่ 1 ทั้งจำนวน

สำหรับสถานะการดำรงสภาพการเป็นบริษัทจดทะเบียนหลังจากการปรับโครงสร้างใหม่แล้ว บริษัทโฮลดิ้งใหม่จะยังคงดำรงฐานะบริษัทจดทะเบียนใตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขณะที่ธนาคารธนชาตในเบื้องต้นจะยังดำรงฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียนต่อไป แต่ในอนาคตอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยมีแนวทางอยู่ 3 แนวทาง คือ ขอเพิกถอนออกจาก ตลาดหลักทรัพย์ฯ การกระจายหุ้นเพิ่ม หรือดำรง สถานะบริษัทจดทะเบียนเช่นเดิม

นายบันเทิง กล่าวเพิ่มเติมถึง แผนการเพิ่ม ทุนจดทะเบียน ว่า ธนาคารจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนในราคาตามมูลค่าที่กำหนดไว้ (ราคาพาร์) 10 บาท ซึ่งบริษัทแม่ยืนยันว่าจะเข้าซื้อหุ้นเต็มสัดส่วนเดิมที่ถืออยู่ รวมถึงสัดส่วนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยขอ สละสิทธิในการจองซื้อด้วย โดยจะนำเงินจากบริษัทแม่ที่ไม่จำเป็นต้องมีการตั้งสำรอง BIS ตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าซื้อ หุ้น และยืนยันว่าบริษัทแม่จะไม่ต้องเพิ่มทุนอีกภายใน 3 ปี

ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอล นั้นกลุ่มธนชาติมีหนี้เอ็นพีแอลรวมทั้งสิ้นประมาณ 9,000-10,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 9-10% ของจำนวนสินเชื่อรวม ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ใน บริษัทบริหารสินทรัพย์ และซื้อหนี้มาจากสถาบัน การเงินแห่งอื่น ขณะที่ในส่วนของธนาคารมียอด เอ็นพีแอลจำนวน 1,400 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่ส่วน ที่จะเกิดปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น

สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้านั้น นายบันเทิง กล่าวว่าธนาคารมีแผนที่ จะขยายสินเชื่อประเภทเช่าซื้อเป็นหลัก โดยตั้งเป้า จะมีรายได้จากสินเชื่อเช่าซื้อไว้ประมาณ 50% ของรายได้รวมทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีก 50% แบ่งเป็น สินเชื่อรายย่อย 25% และสินเชื่อรายใหญ่ อีก 25% จากปัจจุบันธนาคารมีสัดส่วนสินเชื่อรายใหญ่ประมาณ 70% และสินเชื่อรายย่อยประมาณ 30%

นอกจากนี้ ธนาคารเร่งเปิดสาขาให้ได้ประมาณ 100 สาขา ในปลายปี 2548 ซึ่งต้องการ จำนวนพนักงานประมาณ 500 คน โดยที่งบลงทุน ต่อสาขาสำหรับสาขาย่อยอยู่ที่ 5 ล้านบาท และสาขาที่ให้บริการครบวงจรประมาณ 40 ล้านบาท และธนาคารตั้งเป้าที่จะขยายสาขาให้เป็น 180 สาขาภายในอีก 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับฐานลูกค้าที่จะเพิ่มจาก 270,000 ราย หรือยอดเงินฝากจำนวน 134,000 ล้านบาท เป็น 500,000 ราย หรือยอดเงินฝากจำนวน 250,000 ล้านบาท ในปี 2549

นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บง.ธนชาติ กล่าวว่า ผลประกอบการ กลุ่มธนชาติ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2547 มีสินทรัพย์ รวม 171,697 ล้านบาท เงินฝาก 137,184 ล้านบาท สินเชื่อ 113,829 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 590 ล้านบาท และตั้งเป้าอีก 3 ปีข้างหน้าหลังจากโอนธุรกิจสถาบันการเงินให้กับธนาคารทั้งหมดแล้วจะทำให้ธนาคารมีสินทรัพย์รวมกว่า 3 แสนล้านบาท และมีเงินฝากประมาณ 2.5 แสนล้านบาท

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us