Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 เมษายน 2547
ตระกูล "โสภณพนิช" แชมป์ ตลาดผันผวนมูลค่าหุ้นวูบ             
 


   
search resources

ธนินท์ เจียรวนนท์
ประวิทย์ มาลีนนท์
อนันต์ อัศวโภคิน
ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
ชาตรี โสภณพนิช




ตรวจสอบสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยจากต้นปีถึงช่วงพักหยุดยาว พบดัชนีตลาดหุ้นไทยรูดเกือบ 100 จุด ขณะที่มูลค่าตลาดรวมหายไปกว่า 4.6 แสนล้านบาท มูลค่าหุ้นตระกูลดังลดวูบนำทีมโดย โสภณพนิช ตามด้วย ชินวัตร, มาลีนนท์, เจียรวนนท์ และอัศวโภคิน

จากความผันผวนของตลาดหุ้นไทยที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยความไม่สงบในภาคใต้ ไข้หวัดนก และปัจจัยต่างประเทศในไตรมาสที่ 1 "ผู้จัดการรายวัน" สำรวจสถานการณ์ตลาดหุ้น ไทยสิ้นสุดไตรมาสแรกปี 47 (ม.ค.-มี.ค.) จนถึง ณ วันที่ 9 เม.ย. พบว่าดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลง ทั้งสิ้น 99.54 จุด โดยดัชนีแกว่งตัวผันผวนในทิศทางลดลงจากเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 47 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 790.93 จุดลงมาอย่างต่อเนื่องและหลุด 700 จุดลงมาปิดที่ 647.30 จุดในวันที่ 31 มี.ค.47 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของไตรมาสแรกก่อนที่สถานการณ์จะดีขึ้น เมื่อเข้าสู่ไตรมาสสองปี 47 (1-9 เม.ย.) จากแรงซื้อของกองทุนวายุภักษ์ และนักลงทุนต่าง ชาติที่กลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้ง ทำให้ดัชนีได้ปรับ ตัวดีดกลับขึ้นมาแตะเหนือระดับ 700 จุดอีกครั้งแต่ก็ไม่สามารถยืนอยู่ได้ปรับตัวลดลงปิดที่ 691.39 จุด (9 เม.ย.) โดยหากพิจารณาถึงการเปลี่ยน แปลงที่เกิดขึ้นวัดความมั่งคั่งของตลาดพบว่า มูลค่าตลาด (มาร์เกตแคป) หายไปกว่า 4.65 แสนล้านบาท

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่าการหายไปของมูลค่าตลาดรวมได้ทำให้มูลค่าหุ้นที่อยู่ในมือของตระกูลดังลดลงไปเป็นจำนวนมาก โดย ณ วันที่ 9 เม.ย.เมื่อเทียบกับต้นปี 47 พบว่า

1) ตระกูลชินวัตรที่ถือหุ้นอยู่ในหุ้นกลุ่มชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) ลด ลง 14,379.08 ล้านบาท, แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส ADVANC เพิ่มขึ้น 1,599.59 ล้านบาท, ชินแซทเทลไลท์ SATTEL ลดลง 3,707.34 ล้านบาท, เอสซีแอสเสทฯ SC ลดลง 3,611.25 ล้านบาท และไอทีวี ITV ลดลง 14,160 ล้านบาท

2) ตระกูลเจียรวนนท์ ของนายธนินทร์ เจียรวนนท์ เจริญโภคภัณฑ์อาหาร CPF ลดลง 3,625.43 ล้านบาท, เทเลคอมเอเชีย TA เพิ่มขึ้น 1,796.91 ล้านบาท, ยูบีซี UBC ลดลง 6,225.88 ล้านบาท, ซี.พี.เซเว่น-อีเลฟเวน CP7-11 เพิ่มขึ้น 1,980 ล้านบาท

3) ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ เครือญาติคนดัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป NMG มาร์เกต แคป 2,627.6 ล้านบาท ลดลง 378.37 ล้านบาท

4) ตระกูลโสภณพนิช ของนายแบงก์รุ่นใหญ่-ชาตรี โสภณพนิช ธนาคารกรุงเทพ BBL ลดลง 10,053.43 ล้านบาท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ BH ลดลง 857.56 ล้านบาท, อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัล TPI ลดลง 36,889.88 ล้านบาท, บง.สินเอเชีย ACL ลดลง 228.36 ล้านบาท , บล.เอบีเอ็นแอมโร เอเชีย AST ลดลง 1,438.54 ล้านบาท และบล.แอสเสทพลัส ASSET เพิ่มขึ้น 570 ล้านบาท

5) ตระกูลอัศวโภคิน ของนายอนันต์ อัศวโภคิน หากรวมหุ้น ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดักส์ Q-CON ณ วันที่ 9 เม.ย. ซึ่งมีมาร์เกตแคป 7,040 ล้านบาท จะทำให้มีมาร์เกตแคปรวมทั้งหมด 104,568 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2,565.48 ล้านบาท, แต่ลงรายตัวพบว่า แลนด์แอนด์เฮ้าส์ LH ลดลง 3,595.81 ล้านบาท, ควอลิตี้เฮ้าส์ QH ลดลง 984.13 ล้านบาท, โฮมโปร HMPRO เพิ่มขึ้น 105.42 ล้านบาท อย่างไรก็ดี หากนับรวมหุ้น Q-CON จะทำให้มาร์เกตแคปหุ้นมีทั้งสิ้น 97,528.53 ล้านบาท ลดลงจากต้นปี 4,474.52 ล้านบาท

6) ตระกูลมาลีนนท์ นำโดยบอสใหญ่นายประวิทย์ มาลีนนท์ บีอีซีเวิลด์ BEC มาร์เกตแคป ปรับลดลง 9,400 ล้านบาท และ 7) ตระกูลดำรงชัยธรรมของ "อากู๋-นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม" จีเอ็มเอ็มมีเดีย GMMM มาร์เกตแคป ปรับลดลง 1,200 ล้านบาท, แกรมมี่ GRAMMY มาร์เกตแคปปรับลดลง 2,100 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณารายกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่ากลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร มูลค่าอยู่ที่ 107,582.42 ล้านบาท ลดลง 15,526.5 ล้านบาท, กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค 50,135.23 ล้านบาท ลดลง 5,417.95 ล้านบาท, กลุ่มธุรกิจการเงิน 910,066.29 ล้านบาท ลดลง 99,779.93 ล้านบาท,

กลุ่มวัตถุดิบ และสินค้าอุตสาหกรรม 268,881.07 ล้านบาท ลดลง 56,237.72 ล้านบาท, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 855,920.18 ล้านบาท ลดลง 38,963.73 ล้านบาท,กลุ่มทรัพยากร 763,505.29 ล้านบาท ลดลง 134,336.36 ล้านบาท, กลุ่มบริการ 546,859.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41,735.67 ล้านบาท, กลุ่มเทคโนโลยี 607,822.96 ล้านบาท ลดลง 12,888.31 ล้านบาท และกลุ่มรีแฮปโก้ 129,565.25 ล้านบาท ลดลง 114,972.93 ล้านบาท

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us