นายชัยรัตน์ แสงอรุณ ทนายความของภาคประชาชน ในการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เพื่อเพิกถอนคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลการ
กรณีไอทีวี เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ภาคประชาชน ได้ร้องขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งชั่วคราว
ให้คู่กรณีงดดำเนินการใดๆ ในระหว่างที่ศาลปกครองพิจารณาว่า จะเพิกถอนคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการ
หรื่อไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ไอทีวี ปรับผังรายการ ตั้งแต่วันที่1เม.ย.ที่ผ่านมา
ขณะนี้ศาลปกครอง ได้มีความเห็นออกมาแล้วว่า ศาลจะดำเนินการพิจารณาคดีไปตามปกติ
โดยไม่ออกคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินแต่อย่างใด โดยความเห็นของศาลนั้น ไม่ได้แสดงเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมจึงวินิจฉัยเช่นนี้
“เราเห็นว่า ในเมื่ออยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลนั้นต้องมีการดูแลความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเฉพาะหน้า
เพราะการปรับผังรายการของไอทีวีนั้น กระทบต่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยขณะนี้ทั้งสองฝ่าย
ต้องรักษาสัญญาที่ทำขึ้นมา แต่ไอทีวี ก็ปรับผังโดยไม่เคารพสัญญา ผมก็เห็นว่า ไอทีวี
กำลังทำสัญญาไปเรื่อยๆ และการปล่อยให้ปรับผังได้นั้น จะเกิดปัญหาตามมามากมายแน่นอน
เพราะจะมีผลประโยชน์อีกหลายอย่างจะตามมา ทั้งสปอนเซอร์ โฆษณาต่างๆ ทำให้เรื่องมันซับซ้อน
ซึ่งถ้าคำวินิจฉัยออกมาแล้วต้องมีการเรียกร้องค่าเสียหาย จะมีปัญหาว่า ใครจะมีอำนาจเรียกร้อง
แต่เมื่อศาลมีคำสั่งแบบนี้เราก็ต้องยอมรับปล่อยให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไป” นายชัยรัตน์
กล่าว
ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวเรียกร้องไปยังศาลปกครอง
ให้แถลงถึงดุลพินิจในการไม่ออกคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินชั่วคราว ว่า มีเหตุผลอะไร
และทำไมถึงมีดุลพินิจว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องฉุกเฉิน ทั้งๆ ที่การปรับผังรายการใหม่ของไอทีวี
โดยเฉพาะการย้ายข่าวออกจากช่วงเวลาไพรมไทม์เดิม และใส่รายการบันเทิงเข้าไปแทนนั้น
ถือเป็นการกระทำที่อาจละเมิดสัญญาและส่งผลเสียหายต่อผู้บริโภคหรือประชาชน
ทั้งนี้แม้จะยังไม่มีคำพิพากษาชัดเจนว่า การปรับผังรายการใหม่ของไอทีวีผิดสัญญา
หรือไม่ก็ตาม แต่ไอทีวี ก็ควรชะลอการปรับผังรายการไว้ก่อน ไม่ควรฉวยโอกาสโดยอ้างคำวินิจฉัยอนุญาโตตุลาการ
“คำสั่งศาลปกครองที่ออกมาเช่นนี้ จะทำให้ไอทีวีได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาล ในระหว่างที่รอคำพิพากษาจากศาลปกครอง
ซึ่งอาจใช้เวลาเป็นปีก็ได้ โดยคาดการณ์ไอทีวี จะมีกำไรในช่วงเวลาระหว่างรอคำพิพากษาอย่างต่ำๆ
ก็ 500 ล้านบาท และ สปน.ก็เปิดช่องไว้อีกว่า แม้ในอนาคตศาลจะมีคำพิพากษาอย่างไร
ก็จะไม่มีผลย้อนหลังกับที่ไอทีวีได้ปรับผังรายการไปแล้ว เมื่อดูกระบวนการแก้ปัญหา
เรื่องนี้ทั้งระบบ” เลขาธิการ ครป.กล่าว
นายสุริยะใส ยังทวงถามสัญญาจาก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่า เมื่อไร
จะดำเนินการยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลปกครอง เพราะเรื่องนี้ก็ล่วงเลยมานานแล้ว ซึ่งนายวิษณุ
เคยพูดไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังจากการเจรจารอมชอมกับไอทีวี
จนอนุญาตให้ไอทีวี ปรับผังรายการใหม่นั้น นายวิษณุ ยืนยันว่า ภายในวัน หรือสองวัน
ก็จะยื่นฟ้องศาลปกครองได้ แต่จนป่านนี้ยังไม่เห็นความคืบหน้าใด และอยากเตือนไปยังนายวิษณุ
และ สปน. เรื่องนี้สังคมจับตาดูอยู่ แม้จะมีความพยายามทำให้เรื่องเงียบหายไปก็ตาม
และหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ถ้า สปน.ยังไม่ดำเนินการฟ้องร้องเรื่องนี้ทางภาคประชาชนก็จะมีการหารือกัน
เพื่อฟ้องเอาผิด สปน.และผู้เกี่ยวข้องข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกำหมายอาญา
มาตรา 175 ต่อไป