SATTEL เตรียมเพิ่มทุน 250 ล้านหุ้น ขายให้นักลงทุนทั่วไป เพื่อนำเงินไปใช้ในการลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ภาคพื้นดินโครงการไอพีสตาร์ พร้อมขอผู้ถือหุ้นพิจารณาการจ่ายปันผลด้วย เผย SHIN ลดสัด ส่วนการลงทุนเพราะต้องการกระจายการลงทุนไปในธุรกิจอื่นที่ให้ผลตอบแทนดี
ดร.ดำรง เกษมเศรษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) (SATTEL)
เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 เมษายนนี้ จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2547 เพื่อพิจารณาวาระการออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่จำนวน
250 ล้านหุ้นให้แก่นักลงทุนทั่วไป (PO) ซึ่งการออกหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้จะนำเงินไปใช้ในการลงทุนในธุรกิจอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม
หรือไอพีสตาร์ (iPSTAR) เกี่ยวกับการติดตั้งอุปกรณ์ภาคพื้นดิน(เกตเวย์)
โดยหากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว จะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)
เป็นขั้นตอนสุดท้าย พร้อมกับจะมีวาระการพิจารณาการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นด้วย
ส่วนกรณีที่บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SHIN) ซึ่งเป็น ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท
มีนโยบายที่จะลดสัดส่วนการลงทุนเพราะเห็นว่าสถานการณ์ของบริษัท ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับ
SHIN ได้นั้น
ดร.ดำรงกล่าวว่า ด้วยนโยบายของชินคอร์ปพยายามที่จะมุ่งเน้นการลงทุนไปยังธุรกิจอื่นๆ
นอกเหนือจากธุรกิจด้านสื่อสาร โทรคมนาคมเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะธุรกิจด้านบริการซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างสูงมาก
ที่ผ่านมาชินคอร์ปก็เข้าไปลงทุนด้านการเงิน โดยซื้อหุ้นในบริษัท แคปปิตอล โอเค
จำกัด และการขนส่ง ทางอากาศ คือ บริษัท ไทย แอร์เอเชีย จำกัด และกำลังขยายไปยังธุรกิจใหม่ๆ
เพิ่มขึ้นอีก
"ต่อไปชินคอร์ปจะลงทุนแค่ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมไม่ได้แล้ว เพราะจะต้องปรับตัวเป็นเซอร์วิส
คอมปานีซึ่งมีช่องทางธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น เพราะฉะนั้นจะหวังพึ่งแต่บริษัทแม่คงเป็นไปไม่ได้
และไม่จำเป็นที่บริษัทแม่จะต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เกิน 51% ตลอดไป หากทำเช่นนั้น
ก็จะไม่มีกำลังที่จะไปเปิดธุรกิจใหม่ได้มากขึ้น อีกทั้งนโยบายของบริษัทแม่ ก็ต้องการที่จะเห็นบริษัทลูกมีโอกาสเติบโตและสามารถบริหารธุรกิจของตนเองได้อย่างแข็งแกร่ง"
ดร.ดำรงกล่าว
ดร.ดำรงกล่าวต่อว่า ในส่วนของ บริษัทชิน แซทเทลไลท์ ก็มีศักยภาพที่จะเลี้ยงตัวเองได้
ไม่ใช่จะพึ่งแต่บริษัทแม่เพียงอย่างเดียว เพราะแนวโน้มอนาคตธุรกิจของบริษัท จะสร้างรายได้ให้เติบโตแบบก้าวกระโดดภาย
ในปี 48 ได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ คาดว่า รายได้ส่วนใหญ่ 90% จะมาจากอุปกรณ์ภาคพื้นดิน
และอีก 10% มาจากค่าเช่าช่องสัญญาณ
สำหรับความคืบหน้าโครงการไอพีสตาร์นั้น กำหนดการยิงดาวเทียม ยังอยู่ในช่วงไตรมาส
2 และ 3 ของปีนี้ ส่วนพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาค(Whole sale Distributor)
ขณะนี้ได้เจรจากับประเทศอินเดีย จีน ออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย ในขั้นตอนสุดท้าย
และคาดว่าจะลงนาม ในสัญญาได้เร็วๆ นี้
บทวิเคราะห์ บล.พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) (CNS) เปิดเผยว่า SATTEL เป็นหุ้นที่น่าซื้อ
เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการเข้าจดทะเบียนของ CSL โดยการเปลี่ยน แปลงราคาของ
CSL ทุก 1 บาท จะมีผลต่อมูลค่าของ SATTEL ให้เพิ่มขึ้นหรือลดลง 0.46 บาท หรือประมาณ
1% ในราคาหุ้นปัจจุบันยังคงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ 48.20 บาท แนะนำ "ซื้อ"