Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 เมษายน 2547
แบงก์ชฎามั่นใจกำไรพุ่งปรับจ่ายปันผลทุกครึ่งปี             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย
โฮมเพจ ธนาคารนครหลวงไทย

   
search resources

อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย, บมจ.
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารนครหลวงไทย, บมจ.
อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์
Banking




แบงก์นครหลวงไทย ประกาศจ่ายปันผลจากผล งานงวดปี 2546 ในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท พร้อมตั้งเป้าจ่ายเงิน ปันผลทุก 6 เดือนในอัตราไม่ต่ำกว่า 40-50 % ของกำไรสุทธิ หลังจากมั่นใจแนวโน้มกำไรสุทธิโตแบบก้าวกระโดด จากผลตอบแทน เอเอ็มซีโน้ตที่โตเพิ่มขึ้นจากการปล่อยกู้ปีละ 4.4 หมื่นล้านบาท ด้าน "อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์" ฟันธงดอกเบี้ยยังไม่ปรับขึ้นในช่วงนี้ เหตุสภาพคล่องส่วนเกินล้นระบบกว่า 8 แสนล้านบาท

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวานนี้ (7 เม.ย) ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท สำหรับผลประกอบการประจำปี 2546 รวมทั้งคณะกรรมการธนาคาร มีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นทุกๆ 6 เดือน ทำให้ในปีนี้ธนาคารจะมีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอีกครั้งหนึ่งในเดือนตุลาคม 2547 ซึ่งเป็นผลประกอบการจากงวดครึ่งปี โดยมี นโยบายการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยประมาณ 40-50% ของกำไรสุทธิ

สำหรับสาเหตุปรับนโยบายการจ่ายเงินปันผลทุก 6 เดือนนั้น สืบเนื่องจากการประเมินผลการดำเนินงานธนาคารคาดว่าจะมีอัตราการทำกำไรแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นกำไรจากผลประกอบการทั้งในส่วนของรายได้ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม

"ปี 2546 ที่ผ่านมา โครงสร้างรายได้ของธนาคารแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักคือ รายได้จาก ดอกเบี้ยมีสัดส่วนประมาณ 75% และอีกประมาณ 25% เป็นรายได้จากค่าธรรมเนียม โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าที่จะเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียมให้อยู่ในระดับ 30%Ž"

พร้อมกันนี้ ธนาคารยังมีแผนการเพิ่มรายได้จากดอกเบี้ย ด้วยการนำเอเอ็มซีโน้ตไปปล่อย สินเชื่อต่อ ซึ่งจะทำให้ธนาคารได้รับดอกเบี้ยประมาณ 4.6% ขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากจากเอเอ็มซีโน้ตอยู่ที่ระดับ 1.37% ดังนั้นจึงมีผลตอบ แทนจากส่วนต่างดังกล่าวเพิ่มขึ้น

"ธนาคารได้รับเอเอ็มซีโน้ตจากกองทุนฟื้นฟูฯ ทุกปี ตอนนี้เหลืออีก 3 ปี ประมาณปีละ 44,000 ล้านบาท ซึ่งแบงก์พยายามปล่อยสินเชื่อ ให้ได้เฉลี่ยไตรมาสละ 10,000 ล้านบาท เพื่อเข้ามาชดเชยกับเอเอ็มซีโน้ต โดยจากตัวเลขสินเชื่อไตรมาสแรกของปีนี้นับว่าเป็นไปตามเป้าหมาย" สภาพคล่องล้น ดอกเบี้ยยังไม่ปรับขึ้นแน่

สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนั้น นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยจะยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินยังคงมีอยู่ล้นระบบ โดยสภาพคล่องในระบบขณะนี้ประมาณ 800,000 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารนครหลวงไทยมีสภาพคล่องส่วนเกินอยู่ประมาณ 50,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารได้บริหารต้นทุนดังกล่าวเพื่อให้เกิดรายได้ด้วยการเข้าไปลงทุนในพันธบัตร ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทน ในอัตราที่ดีพอสมควร

"การปรับอัตราดอกเบี้ยของไทย จะต้องพิจารณาถึงอัตราเงินเฟ้อที่ขณะนี้ยังอยู่ในระดับที่ต่ำแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะปรับ อัตราดอกเบี้ยขึ้น ก็ไม่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยของไทยมากนัก เพราะขณะนี้มีสภาพคล่องเหลือ มากส่วนใหญ่เป็นเม็ดเงินภายในประเทศ ไม่ได้กู้เงินจากต่างประเทศเข้ามา ดังนั้นเชื่อว่ายังคงไม่มีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยขึ้นในระยะอันใกล้นี้"

รอพิจารณาแผนทีพีไอก่อนปล่อยกู้ต่อ

นายอภิศักดิ์ กล่าวถึงกรณีของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ ในฐานะเจ้าหนี้ทีพีไอรายหนึ่งว่า ขณะนี้ต้องรอศึกษารายละเอียดของแผนฟื้นฟูกิจการ ฉบับใหม่ของทีพีไอก่อน หากทีพีไอต้องการที่จะขอวงเงินกู้ใหม่ธนาคารจะต้องมีการพิจารณาถึงแผนอย่างละเอียด ซึ่งเป็นการพิจารณาตามปกติเหมือนกับลูกหนี้รายอื่นๆ ที่ดูถึงความเป็น ไปได้ของโครงการเงินทุนหมุนเวียน กระแสเงินสด ขณะนี้ทีพีไอ จัดอยู่ในชั้นลูกหนี้เอ็นพีแอลของธนาคาร และมีการตั้งสำรองไว้เรียบ ร้อยแล้วสูงกว่า 65% ซึ่งเกินกว่าเกณฑ์ที่ธปท.กำหนด

พัฒนาองค์กรก้าวสู่ Universal Bank

"เพื่อเป็นการตอกย้ำการเป็น Universal Bank ธนาคารมุ่งมั่นที่จะพัฒนาองค์กร 3 ด้านพร้อมกัน คือ การปรับปรุงรูปแบบของสาขาทั่ว ประเทศ การพัฒนาบุคลากร เพื่อพัฒนาให้บริการ แบบ High Personal Touch รวมทั้งการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ทั่วถึง"

โดยธนาคารได้กำหนดให้ปี 2547 นี้ เป็นปีแห่งการพัฒนาและการสร้างรูปแบบให้บริการของพนักงาน ภายใต้แนวคิด Be Scib, Be your wish เพื่อพัฒนาด้านบุคลากรและระบบงานให้มีการบริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร จนเกิดความ ประทับใจ ทั้งนี้ธนาคารได้จัดโครงการส่งเสริมการขายพิเศษ มอบโชค 2 ชั้นแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยลูกค้าสามารถตัดคูปองส่วนลดของธนาคารจากหนังสือพิมพ์ เพื่อนำมาใช้เป็นส่วน ลดค่าบริการจากธนาคาร เช่น บริการด้านเงินฝากออมทรัพย์ และบัตรเอทีเอ็ม สามารถใช้คูปองส่วนลด 100 บาทต่อการบริการ 1 ครั้ง

บริการด้านประกันชีวิต สามารถใช้คูปองส่วนลด 500 บาท ต่อการใช้บริการ 1 ครั้ง และ บริการสินทรัพย์รอการขาย(เอ็นพีเอ) สามารถใช้คูปองเป็นส่วนลดพิเศษได้โดยเอ็นพีเอที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 7,000 ล้านบาท โดยคาดว่า จะขายได้จำนวน 350 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีโครงการการแข่งขันทางด้านการบริการของสาขาธนาคารทั่วประเทศ ผ่านการให้คะแนนจากลูกค้า ภายใต้ชื่อโครงการ Scib focus โดยลูกค้ามีสิทธิ์ลุ้นรางวัลมูลค่ารวม 4 ล้านบาท ซึ่งจะมีการจับรางวัลชิงโชคทุกๆ 3 เดือน ส่วนพนักงานที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจะได้รับเงินรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาทเช่นกัน

ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าจะมีจำนวนบัตรเอทีเอ็มเพิ่มขึ้นจากโครงการดังกล่าวจำนวน 100,000 บัตร และบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ 100,000 บัญชี ขณะที่ทั้งปีเป้าเพิ่มฐานลูกค้าเงินฝากเป็น 1 ล้านบัญชี และประกันชีวิต 15,000 ราย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us