Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน1 เมษายน 2547
MINORเปิดรง.ใหม่ส.ค.             
 


   
search resources

ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น, บมจ.
ปรารถนา มโนมัยพิบูลย์
Retail




ไมเนอร์ฯตั้งเป้าปีนี้โตทั้งรายได้และกำไร 20% หรือประมาณ 2,340 และ 93 ล้านบาทตามลำดับ เนื่องจากเศรษฐกิจ ในประเทศขยายตัวดี และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีสูง รวมทั้งโรงงานแห่งใหม่จะเริ่มผลิตได้สิงหาคมนี้ หนุนรายได้รับจ้างผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันกว่าล้านบาท

นางปรารถนา มโนมัยพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)(MINOR) เปิดเผยแผนการดำเนินงานในปี 2547 ว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้ประมาณ 2,340 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 93 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 20% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีรายได้ 1,951 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 77.5 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจจัดจำหน่าย สินค้าอุปโภค (Retail) ที่ขยายตัวการภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมทั้ง บริษัทจะนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมจากฝรั่งเศสเข้า มาทำตลาดในช่วงเดือนเมษายนนี้ และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะสต๊อกสินค้า

โครงสร้างรายได้บริษัทฯในปีนี้จะมาจากธุรกิจ Retail ประมาณ 46% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้คิดเป็น 35%ของรายได้ทั้งหมด ธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้าอุปโภค (Manufacturing) 41% ลดลงจากเดิมที่มีสัดส่วน 51% แม้ว่าในปีนี้จะเปิดโรงงานรับจ้างผลิตแห่งใหม่ในช่วงเดือน สิงหาคมก็ตาม แต่เนื่องจากบริษัทประเมินว่า การสั่งซื้อของลูกค้าต่างประเทศจะลดน้อยลง เนื่อง จากไม่ต้องเก็บสต๊อกสินค้าเหมือนปีที่แล้ว

โดยปี 2546 บริษัทฯมีรายได้จากการรับ จ้างผลิตสินค้าอุปโภคเพิ่มขึ้นเป็น 977 ล้านบาท เติบโตขึ้น 100% เนื่องจากการเพิ่มปริมาณการขาย น้ำหอมปรับอากาศรถยนต์ของลูกค้าเดิมเพื่อส่งออกต่างประเทศ โดยปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจการรับจ้างผลิตฯเพียงแค่ 800 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน ซึ่งขณะนี้โรงงานดังกล่าวได้สร้างไปแล้วประมาณ 30%

ในช่วง 2 เดือนแรก(ม.ค.-ก.พ.) ของปีนี้ บริษัทมีรายได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประ-มาณ 23% สูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทฯตั้งเป้าไว้ที่ 20%

นางปรารถนา กล่าวว่า การสร้างโรงงานแห่ง ใหม่จะช่วยลดต้นทุนเกี่ยวกับค่าเช่าในการจัดเก็บสต๊อกสินค้าและการขนส่งประมาณเดือนละ 3 แสนบาท รวมทั้งโรงงานเดิมบริษัทฯมีแผนจะขาย ออกไปคาดว่าจะบันทึกเป็นรายได้ในปีหน้า มูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท ทั้งนี้โรงงานแห่งใหม่ จะสร้างรายได้ประมาณ 1 พันกว่าล้านบาท และรอง รับคำสั่งผลิตสินค้าได้ประมาณ 3ปี หลังจากนั้นจะมีการติดตั้งเครื่องจักรใหม่เพิ่มเติมในพื้นที่เดิม 9 ไร่

ทั้งนี้ บริษัทได้รับเงินกู้จากสถาบันการเงินเพื่อใช้ในการสร้างโรงงานแห่งใหม่จำนวน 87 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำอยู่ที่ 3% ซึ่งขณะนี้ได้เบิกเงินกู้ก้อนแรกมาใช้ในการซื้อที่ดินแล้ว 32 ล้านบาท ที่เหลือจะนำมาใช้ในการสร้างโรงงานและเครื่องจักร

การรับจ้างผลิตสินค้านั้นมีความเสี่ยงไม่มาก เนื่องจากลูกค้าบางรายไม่มีโรงงานผลิตสินค้าเอง ส่วนลูกค้าที่มีโรงงานผลิตสินค้าเอง หากมีการออกสินค้าใหม่ๆ ก็จะจ้างเราผลิต เพื่อลดความเสี่ยงของตัวสินค้าว่าจะได้รับความนิยม หรือไม่ ทำให้มีต้นทุนต่อหน่วยต่ำกว่าการลงทุนผลิตเอง นอกจากนี้ ลูกค้าจะทำสัญญาจ้างผลิตเป็นรายปีล่วงหน้า ทำให้บริษัทฯบริหารงานได้ง่าย

ดังนั้น แผนการลงทุนในปีนี้จะใช้เงินประมาณ 70 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุน 50 ล้านบาทในการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว หลังจากใช้เงินลงทุนซื้อที่ดินแถวนวนคร ไปแล้ว 30 ล้านบาท ส่วนเงินลงทุนอีก 20 ล้านบาท จะใช้ในการขยายร้านค้าและเคาน์เตอร์เพิ่มขึ้นในห้างสรรพสินค้า

"เป้าหมายของบริษัทฯต้องการเป็นผู้นำการขายสินค้าเกี่ยวกับ Life Style ที่ผู้บริโภคมีการใช้อยู่เป็นประจำ โดยเป็นสินค้าที่มีระดับพอสมควร ไม่ใช่สินค้าแบบMass โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 1.2 เท่า"

บริษัทไมเนอร์ฯ เป็นผู้จัดจำหน่ายเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งเอสปรี บอสสินี เครื่องสำอางเรดเอิร์ธและบลูม รวมทั้งนำเข้าไม้กอล์ฟ PING และอุปกรณ์ต่างๆชั้นนำของโลก รวมทั้งมีโรงงานรับ จ้างผลิตสินค้าอุปโภคให้กับบริษัทยูนิ ลิเวอร์, ไลออน , จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และคอลเกต ปาล์มโอลีฟ เป็นต้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us