CM เทกฯ "อะกรีฟู้ดโพรเซสซิ่ง" โดยขอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ 49% จากบริษัท
ริเวอร์แคว อินเตอร์เนชั่นแนล อุตสาหกรรมอาหาร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
ขณะนี้อยู่ในระหว่างประเมินหามูลค่าที่เหมาะสม ไซรัส ประเมินธุรกิจใหม่ของ CM คือข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง
และเบเกอรี่ในปีนี้จะดีขึ้น คาดรายได้จะโต 18.5% กำไรสุทธิ 135.9 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีโครงสร้างการเงินแข็งแกร่งอยู่แล้ว แนะซื้อ มีราคาเป้าหมายที่ 6 บาท
นายศักดา พิมเมือง ผู้จัดการฝ่ายบัญชี บริษัท เชียงใหม่โฟรเซ่นฟูดส์ จำกัด (มหาชน)(CM)เปิดเผยถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ
ครั้งที่ 1 / 2547 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2547 ว่า ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลประจำปีสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่
1 มกราคม -31 ธันวาคม 2546 ในอัตราหุ้นละ 3 บาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 28 พฤษภาคม
2547
กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงิน ปันผลในวันที่ 14
พฤษภาคม 2547 เวลา 12.00 น. และกำหนดวันประชุม สามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2547 ในวันที่
29 เมษายน 2547 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมโรงแรมตวันนา รามาดา
ทั้งนี้ยังมีมติให้บริษัทฯเข้าไปลงทุนเพิ่มในบริษัท อะกรีฟู้ดโพรเซสซิ่ง จำกัด
จากเดิมที่บริษัทถืออยู่ 51% เป็น 100% โดยเป็นการซื้อหุ้นที่ เหลือจำนวน 49% และการซื้อดังกล่าว
เป็นการขอซื้อเงินลงทุนจากบริษัท ริเวอร์แคว อินเตอร์เนชั่นแนล อุตสาหกรรมอาหาร
จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนที่ไม่มีรายการที่เกี่ยวข้องกันกับบริษัท เชียงใหม่โฟรเซ่นฟูดส์
จำกัด (มหาชน) ส่วนมูลค่าที่จะเข้าไปดำเนิน การขอซื้อเงินลงทุนดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาหามูลค่าที่เหมาะสม
เมื่อต้นเดือนธันวาคม 46 CM ได้เข้าโครงการร่วมลงทุนใน บริษัท C & Winterfoods
Co.,Ltd. โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนการลงทุนในอัตรา 49% ของทุนจดทะเบียนจำนวน 200 ล้านบาท
เนื่องจากบริษัท C&W Inter-foods Co.,Ltd. ได้ทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม
200 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท ดังนั้น คณะกรรมการ บริษัทฯ จึงอนุมัติให้เพิ่มเงินลงทุนในบริษัทดังกล่าวตามสัดส่วนการลงทุน
จำนวน 49.0 ล้านบาท โดยมีขนาดของรายการคิดเป็น 3.74% และบริษัทได้สร้างห้องเย็นเพื่อเก็บสินค้าเพิ่ม
เนื้อที่ขนาด 6,000 ตารางเมตร เพื่อใช้เก็บสินค้าจำนวน 4,000 ตัน มูลค่ารวมประมาณ
140 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลประโยชน์ที่คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะได้รับ เพื่อลดภาระค่าเช่าห้องเย็นปีละประมาณ
30 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินทุนจากการดำเนินงาน มีระยะเวลาคืนทุน 5 ปี และการซื้อหุ้น
อะกรีฟู้ดโพรเซสซิ่งในครั้งนี้ก็เป็นการ เอื้อประโยชน์ในการทำธุรกิจของบริษัท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล. ไซรัส เปิดเผยว่า CM ประกาศกำไรสุทธิปี 2546 จำนวน
99.4 ล้านบาท โดย เป็นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 7.7 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรพิเศษดังกล่าว
กำไรจากการดำเนินงานในปี 2546 ลดลง 1.0% เป็น 91.7 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราคาดถึง
17.2% เพราะบริษัทได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น รวมทั้งปริมาณการขยายของธุรกิจแป้งขนม
ปังแช่แข็ง (Frozen Dough) และสินค้าเบเกอรี่ที่ยังไม่เป็นไปตามเป้า
จุดเด่นของ CM อยู่ที่โครง สร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง แม้ว่าจะมี การกู้เงินเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
37.3 ล้าน บาท ซึ่งทำให้ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น แต่ บริษัทมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นอยู่
298.4 ล้านบาท (1.42 บาท/หุ้น) มากกว่าหนี้สินรวมที่มีอยู่ 185.2 ล้านบาท จึงทำให้
CM อยู่ในฐาน Net Cash position
ธุรกิจใหม่เริ่มส่งผลดีในปี 2547 เราคาดว่าธุรกิจข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องและเบเกอรี่ในปี
2547 จะเริ่ม ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะยอดขายของข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องที่จะรวมเข้ามาเต็มปี
ส่วนธุรกิจเบเกอรี่น่าจะขาดทุนลดลงมาก แต่แนวโน้มค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้เราคาดว่ารายได้
จะขยายตัว 18.5% และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นเป็น 27.8% ซึ่งจะทำให้ CM มีกำไรสุทธิ
135.9 ล้านบาท (6.47 บาท/หุ้น) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 36.8%
แนะนำ "ซื้อ" คาดจ่ายเงินปันผล 3.00 บาท/หุ้น ปัจจุบัน CM มีค่า P/E
8.1 เท่า และ PBV 0.9 เท่า เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมาย 60.00
บาท (P/E 9 เท่า) นอกจากนี้ ยังคาดว่า CM จะจ่ายเงินปันผล 3.00 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี
2546 ที่ผ่านมา คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 6.1%