Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 มีนาคม 2547
BAYล้างขาดทุน3หมืนล.ปรับวิธีการจัดสรรหุ้นใหม่             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
กรุงศรีอยุธยา ,บง
ยูโอบี เคย์เฮียน,บมจ.
จำลอง อติกุล
Banking




บอร์ดแบงก์กรุงศรีอยุธยา ปรับวิธีจัดสรรทุนจดทะเบียน โดยอนุมัติเพิ่มทุน 3 พันล้านหุ้น ขายนักลงทุนเฉพาะเจาะจงและประชาชนทั่วไป 2 พันล้านหุ้น ผู้ถือหุ้นเดิม 1 พันล้านหุ้น และตัดหุ้นที่ยังไม่ เรียกชำระจำนวน 3.7 พันล้านหุ้นที่เตรียมไว้รองรับ Warrant พร้อมล้างขาดทุนสะสมจำนวน 3.2 หมื่นล้านบาทหมดทันทีโดยใช้การนำส่วนล้ำมูลค่าหุ้น และสำรองมาหัก และของดจ่ายเงินปันผล ด้านนักวิเคราะห์ระบุแบงก์กรุงศรีฯสามารถปล่อยสินเชื่อโต 10% ได้โดยไม่ต้องเพิ่มทุน 2 ปี แต่หากต้องการควบรวมต้องเพิ่มทุนเร็วๆ เพื่อนำมาควบรวม

นายจำลอง อติกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรี-อยุธยา เปิดเผยว่า คณะกรรมการธนาคารมีมติให้ธนาคารออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 3,000 ล้านหุ้น โดยเสนอขายให้แก่นักลงทุนประเภทเฉพาะเจาะจง (Private Placement) หรือ PP และ/หรือขายให้แก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering) หรือ PO จำนวน 2,000 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 1,000 ล้านหุ้น

พร้อมกันนี้ คณะกรรมการยังมีมติให้ยกเลิกและอนุมัติให้ออกใหม่ในการเสนอขายหุ้นกู้ทุกประเภทในวงเงินรวมไม่เกิน 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

จากมติดังกล่าวเป็นการปรับวิธีการจัดสรรทุนจดทะเบียนใหม่ โดยมีมติให้ลดทุนจดทะเบียนจากมติเดิม 7,850 ล้านหุ้น เป็น 4,089 ล้านหุ้น โดยตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้จำหน่ายออก 3,761 ล้านหุ้น (จากเดิมที่เสนอขายแบบRight Offering 1,000 ล้านหุ้นและรองรับ Warrant ส่วนที่ไม่ได้ออกอีก 2,761 ล้านหุ้น) และมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่จาก 4,089 ล้านหุ้นเป็น 7,089 ล้านหุ้นดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังเป็นการทบทวนมติที่เกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อปี 2542 ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ใหม่ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในปัจจุบันที่มีอายุ 1 ปี

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มทุนจดทะเบียนและกำหนดโครงสร้างการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนใหม่ดังกล่าว เป็นเพียงการเตรียมความพร้อมในการระดมทุน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต หากธนาคารพิจารณาว่าจะเป็นประโยชน์ต่อกิจการธนาคารและเป็นการดำเนินการเตรียมให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ ของทางการเท่านั้น โดยธนาคารยังไม่ได้มีแผนเสนอ ขายหุ้นเพิ่มทุนในระยะอันใกล้แต่อย่างใด

"ขณะนี้แบงก์มีฐานะที่แข็งแกร่ง สามารถขยาย ธุรกิจได้ตามเป้าหมายโดยไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุนในปีนี้ ซึ่งการขอมติเพิ่มดังกล่าวเป็นการปรับเปลี่ยน วิธีการจัดสรรหุ้นและเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจในอนาคต และในส่วนของการเข้าไปรับซื้อสินเชื่อจากบง.กรุงศรีอยุธยาจำนวน 2-3 พันล้าน บาท แบงก์มีเงินเพียงพออยู่แล้วและถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น" กรรมการผู้จัดการใหญ่กล่าว

ธนาคารมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วประมาณ 40,893 ล้านบาท และมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ตามมาตรฐานบีไอเอส ณ ธันวาคม 2546 ประมาณ 13.92% นับได้ว่ามีบีไอเอสอยู่อันดับต้นๆเมื่อเทียบกับระบบ รวมทั้งมีการตั้งสำรองได้เกินเกณฑ์ที่ธนา-คารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องของฐานะของธนาคาร

กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวต่อไปว่าที่ประชุม คณะกรรมการยังมีมติให้ธนาคารล้างขาดทุนสะสม ณ วันที่ 31 ธันวาคม ที่มีอยู่จำนวน ประมาณ 32,885 ล้านบาท โดยให้โอนเงินสำรองอื่นๆที่อยู่ประมาณ 11,821 ล้านบาท จากทุนสำรองตามกฎหมายที่มีอยู่ประมาณ 800 ล้านบาท และทุนสำรองส่วนล้ำมูลค่าหุ้นสามัญที่มีอยู่ประมาณ 20,263 ล้านบาท มาหักชดเชยผลขาดทุนสะสม ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อส่วนของผู้ถือหุ้นและเงินกองทุนของธนาคาร นอกจากนี้คณะกรรมการยังมีมติงดจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดการดำเนินงานประจำปี 2546 โดยจะนำเสนอมติ ดังกล่าวต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่ 92 ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2547 นี้

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า สำหรับฐานะเงินกองทุน ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาขณะนี้หากต้องการที่จะใช้เพื่อขยายสินเชื่อที่เติบโตประมาณ 10% ธนาคารสามารถทำธุรกิจได้โดยไม่ต้องเพิ่มทุนอีก 2 ปี เพราะธนาคารมีกำไรอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะสามารถมีกำไรเติบโตทุกๆปี แต่หากธนาคารกรุงศรีอยุธยามีแผนที่จะควบรวมกิจการกับสถาบันการเงินอื่นๆนั้น คงจะต้องมีการเพิ่มทุนในเร็วๆนี้เพื่อมาใช้ในการควบกิจการ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us