Letizia ว่าที่ราชินีแห่งสเปน, เมื่อนักข่าวสาว กลายมาเป็นเจ้าหญิง
La Boda de siglo XXI นี่คือชื่อที่สื่อมวลชนสเปนตั้งให้กับงานแต่งงานนี้
ซึ่งหมายถึงงานแต่งงาน แห่งศตวรรษที่ 21 จะจัดขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคม 2004
ณ กรุงมาดริด
เมื่อปลายปี 2003 ข่าวดังที่สุดข่าวหนึ่งและเป็นที่รอคอยของชาวสเปนคือ
ข่าวประกาศการแต่งงานของเจ้าชายฟิลิปป์ มกุฎราชกุมาร วัย 35 ปี แห่งสเปน
ซึ่งเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการของสำนักพระราชวังเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน
2003 ข่าวนี้ได้นำมาซึ่งความปลาบปลื้มยินดีและความประหลาดใจในเวลาเดียวกัน
สำหรับชาวสเปนดีใจที่ได้เห็นเจ้าชายได้เข้าพิธีแต่งงาน (ซะที) เพราะทุกคนได้เฝ้ารอวันนี้มานานพร้อมความกังวลเล็กน้อย
เนื่องด้วยวัยที่ล่วงเลยมาของเจ้าชาย และที่ประหลาดใจก็เพราะว่า คนที่จะมาเป็นเจ้าหญิงนั้นเป็นนักข่าวสาวที่ชื่อว่า
Letizia Ortiz ของทีวีช่อง 1 ซึ่งในช่วงนั้นทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศข่าวประจำวัน
และไม่มีวี่แววมาก่อนว่า เธอจะได้เป็นว่าที่เจ้าหญิงแห่งสเปน แม้แต่เพื่อนร่วมงานก็ไม่มีใครทราบเรื่องนี้มาก่อน
ภายหลังได้รับการเปิดเผยว่าทั้งสองได้รู้จักและเป็นแฟนกันมาแล้วเกือบปี ก็ยิ่งสร้างความประหลาดใจมากขึ้นไปอีก
ทุกคนจึงรู้สึกทึ่งในความสามารถพิเศษของเลติเซีย ในการปกปิดข่าวนี้ไว้ได้อย่างแนบเนียน
เรื่องราวตำนานรักของเจ้าชายฟิลิปป์นี้เริ่มต้นมานานแล้วตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น
เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของสื่อมวลชนมาโดยตลอด มีทั้งข่าวความสัมพันธ์กับขุนนางสเปน
นางแบบชาวอเมริกัน, และอีกมากมาย แต่ก็ดูเหมือนว่าทั้งหมด นั้นเป็นเพียงข่าวลือ
นอกจากกรณีล่าสุดที่เป็นข่าวความสัมพันธ์กับนางแบบสาวชาวนอร์เวย์ ที่ชื่อว่า
Eva Sanumm แต่ในที่สุดทางสำนักพระราชวังก็ออกมาแถลงข่าวถึงการสิ้นสุดของความสัมพันธ์ดังกล่าว
ส่วนในกรณีของเลติเซียนั้นกลับไม่มีข่าวใดๆออกมาก่อนการประกาศอย่างเป็นทางการเลย
ซึ่งหลังจากคำประกาศออกมาแล้ว เรื่องราวต่างๆ ก่อนหน้านี้ ก็จบลงโดยปริยาย
หลังจากที่มีการประกาศเรื่องงานแต่งงานแล้ว ก็ได้มีกำหนดวันแต่งงานในเวลาต่อมา
ซึ่งตรงกับวันที่ 22 พฤษภาคม 2004 ซึ่งจะจัดขึ้นในโบสถ์ประจำพระราชวัง La
Almohada ณ กรุงมาดริด ถึงตรงนี้ก็อยากแนะนำประวัติของว่าที่เจ้าหญิงเลติเซียกันสักเล็กน้อย
ชื่อเต็ม Letizia Ortiz Rocasolano เกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 1972 ที่เมืองหลวงของแคว้นอาสตูเรียส
ทางเหนือของสเปน ในครอบครัวระดับกลาง เป็นครอบครัวธรรมดาไม่มีเชื้อไม่มีสายแต่อย่างใด ด้วยวัย 31 ปี
ทำงานทางด้านสื่อสารมวลชนมาตลอด และสุดท้ายก็คือทีวีช่อง 1 ในฐานะผู้ประกาศข่าว
เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานทุกคน อัธยาศัยดี ฉลาด รับผิดชอบและทุ่มเทในงานที่ทำ
จนเป็นที่กล่าวขานกันว่าเธอเป็นนักข่าวจอมลุยคนหนึ่ง ทุกคนที่เคยร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานต่างก็มีแต่คำชมให้กับเธอ
จบการศึกษาสาขา Information Science จากมหาวิทยาลัย Complutense มาดริด
เรียนต่อปริญญาเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและเรียนต่อปริญญาเอกที่ประเทศเม็กซิโก
เคยทำงานกับหนังสือ พิมพ์ ABC สำนักข่าว EFE ทีวี Bloomberg, CNN plus เป็นต้น
ในปี 2000 ได้เข้าทำงานที่ทีวีช่อง 1 (ซึ่งเป็นช่องหลักของประเทศสเปน)
ได้ถูกส่งไปเป็นผู้รายงานข่าวในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เช่น ตึกเวิลด์เทรดถล่ม
11-S, สงครามอิรัก, เรือน้ำมัน Prestig ล่มทางชายฝั่งทางเหนือของสเปน, และหน้าที่ล่าสุดก่อนที่จะมาเป็นว่าที่เจ้าหญิง
คือผู้ประกาศข่าว เคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อตอนอายุ 25 ปี กับอาจารย์โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในมาดริด
อยู่กันเพียงหนึ่งปีก็หย่าร้างกัน ได้รับรางวัลนักข่าวดาวรุ่งยอดเยี่ยม
ประจำปี 2001
ในส่วนของเจ้าชายฟิลิปป์ ถือกันว่าเป็นมกุฎราชกุมารที่มีความพร้อมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติสเปน
ได้รับการเตรียมพร้อมอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการศึกษา และความรู้ความสามารถด้านต่างๆ
เพื่อจะเป็นกษัตริย์ปกครองประเทศสเปน
ในศตวรรษที่ 21 นามที่เรียกกันโดยทั่วไปคือ Principe de Asturias คือเจ้าชายแห่งอาสตุเรียสนั่นเอง
สูง 1.97 เมตร น้ำหนัก 85 กิโลกรัม มีความเชี่ยวชาญทางด้านการทูต, กฎหมาย,
วัฒนธรรมและด้านเศรษฐกิจ
เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1968 ปัจจุบันอายุ 36 ปี ผู้ใกล้ชิดบอกว่าเป็นคนที่รอบคอบ
สุขุม อัธยาศัยดี มีอารมณ์ขัน แต่จะเอาจริงเอาจังมากในเรื่องงาน
หลังจากที่ข่าวประกาศเรื่องการแต่งงานออกมาแล้ว ก็ได้มีเสียงตอบรับออกมามากมาย
ส่วนใหญ่ก็เป็นไปในทางบวก คือยอมรับ และเห็นด้วยกับการ "เลือก" ของเจ้าชาย
เริ่มต้นที่ Don Juan Carlos กษัตริย์องค์ปัจจุบัน และพระราชินี Sofia ได้ออกมาเปิดเผยว่า
รู้สึกดีใจและยินดีเป็นอย่างมาก เห็นด้วยทุกอย่างกับการตัดสินใจของเจ้าชาย
ในส่วนของผู้นำทางการเมืองจากทุกกลุ่มทุกพรรคก็ออกมาแสดงความยินดีกันถ้วนหน้า
ให้ความเห็นว่าเป็นการเลือกที่ชาญฉลาดมาก เต็มไปด้วยความสุขุมรอบคอบ และตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจถึงบทบาทของประเทศสเปนที่จะมีในอนาคต
เห็นด้วยและยินดีกับการตัดสินใจในครั้งนี้
แม้หลายๆ คนจะรู้สึกประหลาดใจแบบ "คาดไม่ถึง" เพราะว่ามันเป็นเหมือนกับนิยายรักในตำนาน
ที่กลายมาเป็นความจริง วันหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศสเปนมีการคาดการกันว่า
ในวันนั้นจะมีสื่อมวลชนจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 5,600 มาทำข่าว และจะมีเงินสะพัดในส่วนนี้ถึง
1,060 ล้านยูโร
และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ในวันนั้น บุคคลสำคัญๆ ทั่วโลกจะมารวมกันเพื่อเป็นเกียรติและเป็นสักขีพยาน
ไม่ว่าจะเป็นพระราชา มหากษัตริย์ ประธานาธิบดีและผู้นำประเทศต่างๆ ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงนักท่องเที่ยวทั่วไปอีกมากมาย
ทางด้านเมืองมาดริดในฐานะเจ้าภาพก็ไม่พลาดโอกาสนี้ ได้เตรียมการเป็นอย่างดี
เพื่อจะใช้งานนี้ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว และได้คาดหวังว่าความสำคัญ ความยิ่งใหญ่อลังการของเหตุการณ์นี้จะทำให้
กรุงมาดริดเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งจะเป็นการผลักดันและยกระดับให้มาดริดเป็นเมืองสำคัญในระดับต้นๆ
ของโลกเทียบเท่ากับนิวยอร์ก หรือลอนดอน