ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่พัฒนาเพื่อการขุดเจาะนำเอาน้ำแร่จากใต้พื้นดินของโตเกียวขึ้นมาทำออนเซนกลางกรุงได้สำเร็จเมื่อหนึ่งปีก่อนนั้น เป็นการช่วยเพิ่มสีสันใหม่ให้กับชีวิตของคนเมืองหลวงอย่างโตเกียว
(อ่านเพิ่มเติม : นิตยสารผู้จัดการ ฉบับกรกฎาคม 2546) แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เมื่อเวลาและสตางค์อำนวย
คนญี่ปุ่นแทบจะร้อยทั้งร้อย มักจะเลือกไปพักผ่อนตากอากาศตามออนเซนธรรมชาติในต่างจังหวัดมากกว่า
ตลอดแนวภูเขาไฟที่เรียงรายตั้งแต่เกาะฮอกไกโด ยาวไปถึงใต้สุดในหมู่เกาะโอกินาวา
ทำให้มีบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งมักจะมีส่วนผสมของเกลือแร่ชนิดต่างๆ
ที่เรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "ออนเซน" เท่าที่พบในปัจจุบันมีออนเซนประมาณ
27,000 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น
ออนเซนในแต่ละแห่งก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไปในแต่ละแบบตามสถานที่ท่องเที่ยว
และ/หรือโรงแรมในต่างจังหวัดที่ติดอันดับความนิยม ล้วนแล้วแต่มีออนเซนรวมอยู่ด้วย
อย่างเช่น หลังจากสนุกสนานบนลานสกีก็สามารถลงไปแช่ออนเซนอุ่นๆ ช่วยคลายปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้
ออนเซนบางแห่งอยู่ท่ามกลางแวดล้อมธรรมชาติ แช่ออนเซนไปพลาง ชมภูเขาไฟฟูจิไปพลาง
หรือบางที่ในช่วงก่อนเข้าฤดูใบไม้ร่วงก็มีใบไม้เปลี่ยนสีที่มองเห็นได้จากบ่อออนเซน
ในฤดูหนาว การแช่ออนเซนกลางแจ้งในขณะที่มีหิมะโปรยลงมานั้น โดยส่วนตัวแล้วถือว่าเป็นสุดยอดของออนเซนเลยทีเดียว
นอกเหนือจากนั้นแล้วคนญี่ปุ่นยังรู้จักใช้ประโยชน์จากออนเซนมาตั้งแต่อดีต
ส่วนใหญ่ที่ออนเซนมักจะเขียนบรรยายสรรพคุณในการรักษาอาการต่างๆ เช่น ปวดข้อ
หรือไม่ก็สรรพคุณที่ช่วยทำให้ผิวพรรณเนียนสวย กำกับเอาไว้ด้วยเสมอ
ออนเซนกับผิวสวย
เมื่อเร็วๆ นี้ Kanebo บริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอาง ชั้นนำบริษัทหนึ่งของญี่ปุ่น
ได้เริ่มงานวิจัยเกี่ยวกับออนเซนที่ร่ำลือในด้านของผิวพรรณและความงาม อันที่จริงแล้วเสียงลือเสียงเล่าอ้างดังกล่าวพบได้จากออนเซนหลายแห่งทั่วญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมติด
top 3 ได้แก่ Kawanaka onsen (จังหวัด Gunma), Ryujin onsen (จังหวัด Wakayama)
และ Yunokawa onsen (จังหวัด Shimane) จากการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ออนเซนทั้ง
3 แห่งมีส่วนผสมของเกลือแร่หลักต่างชนิดกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นจึงเกิดคำถามขึ้นว่า
ส่วนประกอบสำคัญที่มีผลต่อผิวที่เนียนสวยขึ้นจากการแช่ออนเซนนั้นคืออะไร
ทีมวิจัยเก็บซุ่มตัวอย่างน้ำจากออนเซนดังๆ ที่อ้างว่ามีผลต่อผิวพรรณมา
20 แห่งทั่วประเทศเพี่อศึกษาส่วนประกอบสำคัญที่มีผลต่อการกระตุ้นให้สร้าง
keratin ในผิวหนังชั้นนอกที่เรียกว่า epidermis (keratin คือโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง
เส้นผมและเล็บ)
การไขปริศนาส่วนประกอบสำคัญของออนเซนแต่ละแห่งไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด
เนื่องจากมีความหลากหลายของเกลือแร่ที่ละลายปนอยู่อย่างน้อย 18 ชนิด ขึ้นกับสถานที่ที่เป็นต้นกำเนิดของออนเซนแต่ละแห่ง
แต่ในที่สุด ทีมวิจัยของ Kanebo ก็สามารถสรุปได้ว่าสารประกอบในรูปของเกลือ
calcium และ siloxy มีส่วนกระตุ้นให้ cell culture จากผิวหนังของมนุษย์สร้าง
keratin ได้ดีที่สุด ซึ่งส่งผลให้ผิวหนังเนียนขึ้นได้ จากผลการวิจัยนี้ยังพบว่าน้ำที่นำมาจากออนเซนชื่อดังทั้ง
3 แห่งนั้นมีปริมาณของเกลือแร่สำคัญไม่มากอย่างที่ควรจะเป็น ในทางกลับกันพบว่า
Atami onsen (จังหวัด Shizuoka) และ Arima onsen (จังหวัด Hyogo) มีปริมาณของสารประกอบเกลือ
calcium และ siloxy ละลายอยู่ในความเข้มข้นสูง
อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยดังกล่าวเป็นเพียงก้าวแรกที่ให้ข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งยังไม่สมบูรณ์พอที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับผิวหนังของคนได้ในขณะนี้
การวิจัยยังคงดำเนินต่อไปโดยคาดหวังว่า สักวันหนึ่งจะสามารถพัฒนาเป็นเครื่องสำอางที่ช่วยประทินผิวให้กระชับเนียน
สวยอย่างได้ผล
ออนเซนกับการรักษาโรค
จากการที่คนญี่ปุ่นรู้จักใช้ประโยชน์จากออนเซนมาตั้งแต่อดีต เป็นต้นว่า
แพทย์ญี่ปุ่นพบว่าการดื่มน้ำจากออนเซนที่มีส่วนผสมของเกลือ sulfurate ในปริมาณ
ที่พอเหมาะเป็นประจำจะช่วยให้สามารถควบคุมระดับของน้ำตาลในเลือดได้ผลน่าพอใจ
ซึ่งสรรพคุณดังกล่าวเป็นเพียงการเสริมประสิทธิภาพการรักษาด้วยยา
ยังพบรายงานว่า ผู้ป่วยที่มีอาการผิวหนังอักเสบ ประเภท atropic eczema
มีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ จากการอาบน้ำที่นำมาจาก Kusatsu onsen (จังหวัด Gunma)
ผลการวิเคราะห์ทางเภสัชเคมีพบว่าส่วนผสมของสารประกอบเกลือ iodine และ magnesium
ในออนเซนนั้นมีความเข้มข้นพอเหมาะที่เชื่อว่าสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังได้
และส่งผลให้อาการอักเสบของผิวหนังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ความรู้ที่สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่งเกี่ยวกับสรรพคุณต่างๆ
นานาของออนเซนในแต่ละแห่ง คงจะเปรียบได้กับภูมิปัญญาของไทยที่รู้จักนำสมุนไพรมารักษาโรค
ถ้ามีการพัฒนาวางมาตรฐาน (standardize) ตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็น่าจะทำให้ได้ผลการรักษาที่แน่นอนแม่นยำเพียงพอที่จะมาประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ได้
ออนเซนใน concept ใหม่
เมื่อปีที่แล้ว มีการรวมกลุ่มกันของผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาวิชา เพื่อศึกษาและพัฒนา
"ออนเซนเพื่อสุขภาพ" ในรูปแบบของการท่องเที่ยวเชิงอุตสาหกรรมที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง
โครงการนี้เริ่มต้นที่ Hakone onsen (จังหวัด Kanagawa) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่อยู่ใกล้โตเกียว
มีการให้คำแนะนำกับเจ้าของกิจการโรงแรมและที่พัก เกี่ยวกับการปรับปรุงกิจการให้อยู่ในมาตรฐานขั้นสูง
สร้างเป็น model ของออนเซนเพื่อสุขภาพขึ้น ในขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ
จากผู้มาใช้บริการในขั้นทดลอง และจะนำไปปรับปรุงเพื่อขยายไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ
ทั่วญี่ปุ่น
ต่อไปในอนาคต การเดินทางไปพักผ่อนที่ออนเซนต่างจังหวัดในประเทศญี่ปุ่นนั้น
นอกจากจะได้ชมความงามของธรรมชาติทั้ง 4 ฤดูและการแช่ออนเซนแล้วยังมีบริการที่ได้มาตรฐาน
เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ พร้อมกับโปรแกรมการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมที่เตรียมพร้อมสำหรับการมาผ่อนคลายอย่างแท้จริง