ในจำนวนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา คนส่วนใหญ่จะรู้จักแต่ชื่อของ บลจ.เอเจเอฟ ที่เน้นการทำตลาดเชิงรุก แต่หลังจากนี้ไป ชื่อของ บลจ.พรีมาเวสท์ จะเป็นที่รู้จักของผู้ลงทุนมากขึ้น
ถ้าจะถามว่าความแตกต่างระหว่าง บลจ.เอเจเอฟ กับพรีมาเวสท์อยู่ตรงไหน เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
ที่มีธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ คำตอบก็น่าจะอยู่ที่บุคลิก ของบริษัท
ทั้งนี้เพราะ บลจ.พรีมาเวสท์เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่เกิดขึ้นทีหลัง
เพิ่งมีการจัดตั้งเป็นรูปบริษัทเพียง 3 ปี เพราะฉะนั้นการดำเนินงานจึงเป็นไปอย่างเงียบๆ
และค่อนไปทาง Conservative
ผิดกับเอเจเอฟที่ผ่านร้อนผ่านหนาว มานานกว่า ดังนั้นการทำธุรกิจจึงดูเหมือน
จะติดไปทางหวือหวา ทั้งทางด้านการตลาด และนโยบายการลงทุน
แต่นับจากนี้ไป พรีมาเวสท์ได้ตั้งใจ ไว้แล้วว่า จะทำธุรกิจเชิงรุกมากขึ้น
"เราคิดว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่ภาวะหลายๆ อย่างเอื้ออำนวย จริงๆ แล้วมันก็เอื้ออำนวยมาตั้งแต่ปีก่อน
เช่นเรื่องอัตราดอกเบี้ย เพียงแต่ว่าเราคิดว่าปีนี้น่าจะเป็น ปีที่เราพร้อมมากขึ้น
จากใน 1-2 ปีแรก ซึ่งเป็นช่วงที่เราเริ่มฟอร์มทีมทำระบบภายใน พอปีนี้เราคิดว่าเรามีคนพอเพียงแล้วที่จะเริ่มรุกธุรกิจนี้มากขึ้น"
เพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บลจ.พรีมา เวสท์ บอกกับ "ผู้จัดการ"
บลจ.พรีมาเวสท์จัดตั้งขึ้นมาเมื่อเดือนมีนาคม 2544 โดยการซื้อใบอนุญาตของ
บลจ.ซิทก้า-ศรีนคร ต่อจากคณะกรรม-การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.)
กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ในพรีมาเวสท์ นอกจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ถือหุ้นอยู่
10% แล้ว ก็คือ กลุ่มบริษัทกรุงเทพวิทยุและโทรทัศน์ ผู้ดำเนินการสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง
7 สี
นอกจากนี้ยังมีบริษัท Mees Pierson International ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ
Fortis บริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำ จากประเทศเนเธอร์ แลนด์ ร่วมถือหุ้นอยู่ด้วยอีก
25% (รายละเอียดผู้ถือหุ้น โปรดดูตาราง)
"Mees Pierson เป็นผู้ร่วมก่อตั้งมาตั้งแต่ต้น โดยร่วมทุนกับกลุ่มซิทก้าเพื่อยื่นขอใบอนุญาตจัดการกอง
ทุนตั้งแต่เมื่อปี 2540 แต่หลังวิกฤติใบอนุญาตใบนี้ตกอยู่กับ ปรส.เขาก็ไม่ได้ถอนตัวไป
จนเมื่อ กลุ่มธนาคารกรุงศรี อยุธยา และช่อง 7 สี ซื้อใบอนุญาตต่อมา จาก ปรส.
เขาก็ยังคงถือหุ้นอยู่"
แม้จะมีอายุการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาเพียง 3 ปี แต่กิจกรรมทางธุรกิจของพรีมา
เวสท์ก็มีไม่น้อย เพราะมีการจัดตั้งกองทุนขึ้นมาแล้วถึง 10 กองทุน และมีมูลค่าสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารถึง
2,900 ล้านบาท
ทั้ง 10 กองทุน ที่มีการจัดตั้งขึ้นมา เป็นกองทุนเปิด มีนโยบายการลงทุนแบบระแวดระวัง
เน้นลงทุนในตราสารที่มีความ เสี่ยงน้อยที่สุด
"ช่วงแรกที่เราเพิ่งเริ่มต้น เราก็ต้อง ทำอะไรที่ค่อยเป็นค่อยไป ไม่อยากทำอะไร
ที่มันหวือหวามาก เดี๋ยวเสียหายไปแล้วจะแก้ไขไม่ได้"
เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา บลจ. พรีมาเวสท์ได้ประกาศออกกองทุนใหม่อีก
3 กองทุน มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท ซึ่ง ถือว่ามีมูลค่ามากกว่า 10 กองทุนที่เคยออก
มาในช่วง 3 ปีก่อนหน้านี้หลายเท่าตัว
ทั้ง 3 กองทุน มีทั้งกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ กองทุนผสมแบบยืดหยุ่นและ
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารทุนโดยเฉพาะ
กองทุนแรก ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์อินคัม (KPI) มูลค่า 4,000
ล้านบาท มีอายุ 3 ปี 4 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนเป็นหลัก โดย
50% ของกองทุน จะลงทุนในตราสาร หนี้ของสถาบันการเงิน ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทในกลุ่มอุตสาห-กรรมการเกษตร
อสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสื่อสาร
กองทุนที่ 2 ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์แวลู (KPV) มูลค่า 5,000
ล้านบาท แม้จะเป็นกองทุนเปิด แต่จะไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน จนกระทั่งถึงปี
2550 เป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น เน้นการลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงแต่ต่อเนื่อง
กองทุนสุดท้าย ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์เอ็คควิตี้ (KPE) มูลค่า
5,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนใน ตราสารทุนโดยเฉพาะ และไม่จ่ายเงินปันผล
มีเป้าประสงค์ที่ให้เป็น Growth Fund ที่จะต้องมีอัตราการเจริญเติบโตของสินทรัพย์
เทียบเท่า หรือสูงกว่าอัตราการเปลี่ยนแปลง ของ Set Index ดังนั้นกองทุนนี้จะต้องมีการ
ซื้อมา-ขายไปที่บ่อยครั้งกว่ากองทุน KPV
อาจถือว่าเป็นกองทุนที่จะ Active ที่สุดของพรีมาเวสท์
การออกกองทุนใหม่อีก 3 กองทุน เป็น 1 ใน 4 เป้าหมายหลักของแผนการดำเนินงานในปี
2547 ที่เน้นเพิ่มขนาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารขึ้นมาอีก 100% เพิ่มความหลากหลายของรูปแบบผลิตภัณฑ์
เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย และเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน เพื่อให้พรีมาเวสท์ขึ้น
เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำ
"เป้าหมายของเราคือ ต้องการให้สินทรัพย์ที่เราบริหาร เติบโตอย่างรวดเร็ว
เพราะใน 3 ปีแรก เราดำเนินธุรกิจอย่างค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ปีนี้เราก็อยากรุกมาก
ขึ้น โดยการขยายกองทุน เพิ่มประเภทสินค้าให้ครบทุกประเภท" เพิ่มพลกล่าว
ปัจจุบัน บลจ.พรีมาเวสท์มีพนักงาน ทั้งสิ้น 36 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้จัดการกองทุนจำนวน
5 คน นำทีมโดยณัฐรา อิสรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
ภายหลังจากการออกกองทุนใหม่ 3 กองทุนดังกล่าว ในช่วงครึ่งปีหลัง บลจ. พรีมาเวสท์ยังตั้งใจไว้ว่าจะออกกองทุนเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ
2 กองทุน
บุคลิกของ บลจ.พรีมาเวสท์กำลังเพิ่มบทบาทที่มีสีสันขึ้นเรื่อยๆ
ผู้ถือหุ้นของ บลจ.พรีมาเวสท์
1. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 10%
2. บริษัทบีบีทีวี แอสเซตแมเนจเมนต์ 10%
3. Mees Pierson International A.G. 25%
4. บริษัทบีบีทีวี เอ็คควีตี้ 55%