อาเธอร์ นาโปลิตาโน กรรมการผู้จัดการบริษัทคูดู (KUDU) บอกว่าบริษัทพัฒนาที่ดินของตนเองเป็นบริษัทเล็กๆ แต่ทำโครงการได้เร้าอารมณ์

อาร์เธอร์เป็นชาวอังกฤษ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาสนุกกับการได้ทำอาชีพหลากหลาย เช่น นักประวัติศาสตร์ศิลปะจนถึงนายหน้ายุทธปัจจัยทหาร กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เขาพำนักมานานถึง 16 ปี และเมื่อปี 2544 ก็ได้ก่อตั้งบริษัทคูดูขึ้นมา

ผลงานของคูดู คือ The Lofts สาทร The Lofts เย็นอากาศ ทุกโครงการมีจำนวนยูนิตไม่มากนัก ตั้งอยู่ย่านกลางเมืองเน้นการ ดีไซน์แบบบ้านที่สะดุดตาต่างจากบ้านจัดสรรทั่วไป โดยมีลูกค้ากลุ่มเอบวก เป็นเป้าหมาย

The Trees Sathorn คือโครงการล่าสุดของคูดู ในซอยเมฆสวัสดิ์ ถนนสาทร พื้นที่ 5 ไร่ ออกแบบเป็นบ้านแฝด 3 ชั้นครึ่ง ในเนื้อที่หลังละ 62-100 ตารางวา จำนวน 21 หลัง เป็นบ้านแฝด ที่แพงที่สุดโครงการหนึ่งของเมืองไทยเลยทีเดียว เพราะราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 30 ล้านบาท ถึง 50 ล้านบาท

เพื่อให้สมกับราคา แรกเริ่มทีเดียว อาเธอร์ได้ดึงทีมงานที่มีชื่อเสียงของไทยและประเทศเพื่อนบ้านหลายคนมาระดมความคิด เพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยกลางเมืองที่แตกต่างจากโครงการทั่วไปเริ่มจากสถาปนิกใหญ่ Robert G. Boughey ผู้ทำงานอยู่ในเมืองไทย นานกว่า 3 ทศวรรษ สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ ดีทแฮล์ม ทาวเวอร์ อาคารแห่งอเมริกา และบ้านส่วนตัวของเศรษฐีเมืองไทย อีกหลายหลังคือผลงานที่ผ่านมา

Budji Layug ชาวฟิลิปปินส์ ผู้ออกแบบภายในและออกแบบเฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้านตัวอย่าง ความแปลกใหม่ในโรงแรมสไตล์คอนเท็มโพลารี่ The Mertropolitan กรุงเทพฯ คือ หนึ่งในผลงานของเขา

Martin Palleros ชาวอาร์เจนตินา สถาปนิกภูมิทัศน์ของโครงการ เจ้าของผลงานที่อามันรีสอร์ต ประเทศออสเตรเลียและโรงแรม The Mertropolitan

The Trees Sathorn ออกแบบให้เป็นชุมชนขนาดเล็กในสไตล์ Asian Tropical Modern ท่ามกลางความร่มรื่นของป่าเมืองร้อน จามจุรีต้นใหญ่อายุกว่า 40 ปีในโครงการถูกวางเป็นหลัก บ้านแฝดรูปทรงเรขาคณิต จำนวน 21 หลัง รายรอบด้านนอกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าถูกศึกษาอย่างละเอียด เพื่อการจัดวางฟังก์ชันที่เหมาะสมสำหรับการใช้สอยจริงภายในตัวบ้าน

แบบบ้านหลากหลายถึง 10 แบบ หน้าตาหลังซ้ายและขวาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ขนาดของพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 360-590 ตารางเมตร ทุกหลังมีสระว่ายน้ำ มีสวนส่วนตัว พื้นถนน ผนังบ้าน จะเป็นวัสดุที่เลียนแบบหินธรรมชาติ วัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำทุกหลังเป็นของแบรนด์ดัง Kohler และ Dorn Bracht

ต้องรอดูต่อไปว่า บ้านของคูดูจะสามารถเร้าอารมณ์เศรษฐีเมืองไทย ให้ยอมควักกระเป๋าซื้อได้มากน้อยแค่ไหน แต่วันนี้บริษัท K-Tech กำลังเร่งงานก่อสร้าง ลูกค้ารายใดสนใจเตรียมเงินค่าจอง หลังละ 2.5 แสนบาท และเตรียมเงินอีกก้อนไว้ชำระในวันเซ็น สัญญา 10 เปอร์เซ็นต์ แบ่งจ่ายเป็นงวดอีก 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือสามารถผ่อนชำระได้กับบริษัทเงินทุนเกียรตินาคิน