Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2547








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2547
Tri-Pillar Strategy ยุทธศาสตร์เพื่อความมั่นคง             
โดย สมศักดิ์ ดำรงสุนทรชัย
 

   
related stories

Japan Tobacco Inc. Delight World with Brand-ing Declaration
ข้อมูลบริษัท วันนี้ของ JT บนรอยอดีตของการผูกขาด
บุหรี่ Brand หลักที่ผลิตโดย 3 ผู้ประกอบการระดับโลก

   
search resources

Japan Tobacco Inc. (JT)
Pharmaceuticals & Cosmetics
Food and Beverage




ความมั่งคั่งและรายได้ของ JT ที่เคยโชติช่วงเหมือนแสงไฟที่เผาไหม้อยู่ที่ปลายมวนบุหรี่แต่ละมวน กำลังเบาบางลงไม่ต่างจากควันและมวนบุหรี่ที่หดสั้นลงทุกขณะ ซึ่งนอกเหนือจากการรุกเพื่อรักษารายได้จากตลาดยาสูบ ซึ่งเป็นธุรกิจแกนกลางของกลุ่ม ภายใต้ Brand-ing Declaration แล้ว JT ได้เร่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มธุรกิจเวชภัณฑ์ เพื่อเติมเต็มยุทธศาสตร์การเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

JT ได้ระดมสร้าง Brand สินค้าแต่ละกลุ่ม ด้วยการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้ประกอบการที่มีความชำนาญการหลากหลาย รวมถึงการเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่อง ไม่แตกต่างจากการสร้างสะพานเชื่อมเพื่อการก้าวกระโดด สำหรับกลุ่มธุรกิจที่สร้างขึ้นใหม่นี้

Key Coffee Inc. ผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟผง ได้รับเลือกจาก JT ในฐานะพันธมิตรรายแรกๆ เพื่อการผลิต Roots เครื่องดื่มกาแฟบรรจุกระป๋อง ที่ในระยะเริ่มต้นมีรสชาติให้เลือกมากถึง 11 แบบ ก่อนที่จะลดจำนวนสายการผลิตเหลือเพียง 6 แบบในปัจจุบัน

นอกจากนี้ JT ได้ร่วมมือกับ Doutor Coffee Co. ผู้ประกอบการเครือข่ายร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมมากรายหนึ่งของญี่ปุ่น เพราะยังคงบุคลิกการเป็นร้านกาแฟในอุดมคติ สำหรับผู้ชื่นชอบการสูบบุหรี่ด้วยการจัดพื้นที่สำหรับการสูบบุหรี่ไว้อย่างกว้างขวาง เพื่อร่วมผลิตเครื่องดื่มกาแฟ ภายใต้ brand และรูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์ใหม่ ในรูปของขวดพลาสติก PET ที่กำลังได้รับความนิยมเพราะสามารถพกพาไปได้ตลอดการเดินทางด้วยฝาปิดอีกด้วย

แต่นั่นมิได้หมายความว่า JT ปราศจากศักยภาพในการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด

ความได้เปรียบของ JT อยู่ที่การมีเครือข่ายของช่องทางการจัดจำหน่ายที่ผู้ประกอบการธุรกิจรายอื่นๆ อาจทำได้เพียงเฝ้ามอง เพราะนอกเหนือจากร้านค้ายาสูบ ซึ่งถือเป็นร้านค้าเฉพาะทางที่มีอยู่ทั่วไปทุกหัวมุมถนนแล้ว ร้านค้าประเภทสะดวกซื้อ และ Supermarket ทุกแห่ง ยังถือเป็นช่องทางและพื้นที่การจัดจำหน่ายที่ JT มีความคุ้นเคยอย่างดี

ไม่นับรวม vending machine ที่มีสถานะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการบริโภคของสังคมญี่ปุ่น และได้รับการจัดวางกระจายอยู่ในทุกที่ที่ต้องการสินค้า refreshment เหล่านี้

ขณะเดียวกัน JT ได้เข้าซื้อกิจการด้านอาหารจาก Asahi Chemical Industry Co. และร่วมเป็นพันธมิตรกับ Katokichi Co. ผู้ประกอบการด้านอาหารรายใหญ่รายหนึ่งของญี่ปุ่น เพื่อรองรับการผันตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารและอาหารแช่แข็ง รวมถึงการเข้าซื้อกิจการของ Saint-Germain ผู้ประกอบการเครือข่ายร้าน bakery ที่ดำเนินไปในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจที่ต้องการเน้นอาหารแช่แข็ง เครื่องปรุงรส (seasonings) และ Bakery ด้วย

แม้ว่าความเคลื่อนไหวของ JT ในธุรกิจอาหารซึ่งเริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังตั้งแต่เมื่อปี 1998 จะไม่คึกคักมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจยาสูบ อีกทั้งยังดำเนินไปในลักษณะที่ไม่สามารถสร้างตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ ให้โดดเด่นจากผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการรายอื่นๆ แต่ย่างก้าวของ JT ในห้วงระยะเวลาเพียง 5 ปี คงสั้นเกินไปที่จะประเมินความสำเร็จหรือล้มเหลวของกลุ่ม

แตกต่างจากกลุ่มธุรกิจเวชภัณฑ์ ซึ่ง JT ได้เริ่มขยายธุรกิจมาตั้งแต่เมื่อปี 1987 จากการเป็นหน่วยงานวิจัยภายใน (in-house research) เพื่อรองรับการขยายตัวของกิจการยาสูบ ปัจจุบัน ธุรกิจเวชภัณฑ์ของ JT มีผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของผู้บริโภคอย่างหลากหลาย ภายใต้คำขวัญ "The World provides Excellent R&D resources for us" ซึ่ง JT กำลังได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในฐานะผู้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่

ในปี 1998 การขยายตัวเข้าสู่ตลาดเวชภัณฑ์ภายในประเทศญี่ปุ่นของ JT เริ่มต้นขึ้น เมื่อ JT เข้าซื้อหุ้น 53% ในกิจการของ Torii Pharmaceutical พร้อมกับการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาร่วมกับองค์กรอื่นๆ ทั้งบริษัทผู้ประกอบการ และหน่วยงานในระดับมหาวิทยาลัย ทั้งในญี่ปุ่นและในต่างประเทศ เพื่อผลิตเวชภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

โดย Viracept ยาเพื่อการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV และมีวางจำหน่ายทั้งในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และในอีกหลายประเทศ ก็เป็นส่วนหนึ่งของผลงานการร่วมวิจัยและพัฒนาระหว่าง JT และ Agouron Pharmaceuticals Inc. ที่มีฐานธุรกิจอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมกันผลิตขึ้น

นอกจากนี้ JT ยังได้ลงนามในสัญญาเพื่อเป็นผู้ครอบครองสิทธิการจำหน่ายยาต่อต้านไวรัส HIV ที่พัฒนาโดย Gilead Sciences Inc. บริษัทเวชภัณฑ์จากสหรัฐอเมริกาโดยสัญญาดังกล่าวให้สิทธิ JT ในการเป็นผู้จำหน่ายยา VireadR และ Emtriva รวมถึงยาชนิดใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ด้วยการนำประสิทธิภาพของยาทั้งสองชนิดมาผนึกผสมเข้าด้วยกัน แต่เพียงรายเดียวสำหรับตลาดญี่ปุ่น

การให้ความสำคัญกับยาต่อต้านไวรัส HIV มาเป็นสินค้าหลักในห้วงปัจจุบัน ทำให้ JT มีลักษณะของการเป็นผู้ประกอบการ ที่มีสถานะแตกต่างจากผู้ประกอบการเวชภัณฑ์และยาอย่างสามัญรายอื่น หากเป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงขีดความสามารถของ JT ในการเป็นผู้วิจัยและคิดค้นให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

กระนั้นก็ดี ธุรกิจเวชภัณฑ์ และธุรกิจอาหารเครื่องดื่ม ที่ JT มุ่งหมายจะสร้างให้เติบโตเป็นธุรกิจแกนหลักของกลุ่ม ภายใต้ยุทธศาสตร์สามก้อนเส้าทางธุรกิจ (tri-pillar business strategy) เพื่อเป็นหลักในการร่วมสร้างความมั่งคั่งและแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกิจยาสูบที่เป็นรากฐานของกลุ่ม ดูเหมือนยังต้องอาศัยเวลาในการสั่งสมประสบการณ์ และการยอมรับจากผู้บริโภคอีกนานพอสมควร

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us