การุกคืบของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันในการควบรวมกิจการอัลซ่า คอร์ปอเรชั่นเพื่อต้องการดันตัวเองก้าวขึ้นสู่ผู้นำแห่งเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ยา
การควบรวมกิจการของทั้งสองครั้งนี้จะอยู่ภายใต้ Hart-Scott-Rodino Antitrust
Improvments Act และการควบคุมของกฎเกณฑ์ European Union
คณะกรรมการและประธานกรรมการบริหารของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน Ralh Larsen
บอกว่า มีความตื่นเต้นที่ได้เห็นดีลนี้เกิดขึ้น ซึ่งจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้งสองบริษัท
เพื่อเป็นกุญแจสำคัญในการเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์
ในเวลาเดียวกันเป็นการเร่งเร้าให้รายได้เติบโตและเป็นสิ่งสำคัญต่อเทคโนโลยีในอนาคต
เป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมและเหมาะสมสำหรับพวกเรา
ด้าน William Weldon รองประธานของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ให้ความเห็นว่า
การที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ยาของโลก อัลซ่ามีความสำคัญในการนำบริษัทไปสู่โอกาสแห่งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
และจะมีความเป็นไปได้ที่ผลิตภัณฑ์จะยืดวงจรชีวิตมนุษย์
ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีจากอัลซ่าจะยกระดับให้จอห์นสันแอนด์จอห์นสันเติบโตในธุรกิจที่ตัวเองถนัด
ประกอบไปด้วยการศึกษาเกี่ยวกับการรักษาเนื้องอก (oncology), สุขภาพผู้หญิง,
การศึกษาเกี่ยวกับปัสสาวะ (urology), การบริหารความเจ็บปวด และศูนย์กลางของระบบประสาท
(central nervous system)
Weldon อธิบายเพิ่มว่าอัลซ่าจะรักษาชื่อเสียงและการบริหารงานของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันให้ยั่งยืนต่อไปได้
พวกเขาจะพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ไปอย่างต่อเนื่องบนพื้นฐานเทคโนโลยีที่มีอยู่
สำหรับประธานและกรรมการบริหารอัลซ่า Dr.Ernest Mario ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันไปแล้วบอกว่าจะได้รับประโยชน์จากดีลนี้ในทุกๆ
เรื่อง การควบรวมกิจการครั้งนี้เป็นไปได้ว่าผู้ถือหุ้น ของพวกเราจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นโดยผ่านการดำเนินธุรกิจของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
สำหรับมูลค่าของอัลซ่านั้นจอห์นสันแอนด์จอห์นสันจะต้องจ่ายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น
10.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และดีลนี้จะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ปีนี้
จากการที่จอห์นสันแอนด์จอห์นสันควบกิจการกับอัลซ่าจะส่งผลให้มูลค่าของหุ้นลดลง
(dilution) ในปีนี้และปีหน้า และจะเพิ่มสูงขึ้นในปีถัดไป ซึ่งผลกระทบดังกล่าวนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทำให้รายได้ต่อหุ้นลดลง
0.14 เหรียญสหรัฐและ 0.05 เหรียญสหรัฐในปี 2001 และ 2002 ตามลำดับ ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
ก็ได้ออกมาพูดถึงความกังวลใจเกี่ยวกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์บางสำนัก
ที่มองว่ารายได้ต่อหุ้นจะอยู่ที่ระดับ 3.80-3.88 เหรียญสหรัฐ
อัลซ่า คอร์ปอเรชั่นมีสำนักงานใหญ่ใน Mountain View แคลิฟอร์เนีย ก่อตั้งขึ้นในปี
1968 โดย Dr. Alejandro Zaffaroni ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 30 ชนิดและมีพาร์ตเนอร์กว่า
70 ประเทศ
ปัจจุบันอัลซ่าเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและการวิจัยเภสัชภัณฑ์ และมีจุดแข็งอยู่ที่การศึกษาเกี่ยวกับการรักษาเนื้องอกและปัสสาวะ
ด้านจอห์นสันแอนด์จอห์นสันมียอดขายทั่วโลก 29.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีฐานการผลิตครอบคลุมทุกด้านในเรื่องผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ
มีบริษัทในเครือ 194 แห่ง ใน 51 ประเทศ และมีสินค้าวางจำหน่ายอยู่กว่า 175
ประเทศทั่วโลก