Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 มีนาคม 2547
ปิโก กำไรโตคนจองรับปันผล0.16บ.             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ - MAI
ยูไนเต็ด,บล.
ปิโก (ไทยแลนด์), บมจ. - PICO
ศศิธร พงศธร
พิเสฐ จึงแย้มปิ่น
News & Media




ปิโก (ไทยแลนด์) ใช้กลยุทธ์จ่ายปันผลอัตรา 0.16 บาทต่อหุ้น หวังดึงนักลงทุนเข้ามาจองซื้อ บล.ยูไนเต็ดชี้ลูกค้ามีความต้องการล้นมากกว่าจำนวนหุ้นที่ ได้รับจัดสรรถึง 3 เท่า เล็งเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ สถาบันการเงิน บริษัทประกัน และธุรกิจขายตรง

นางศศิธร พงศธร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด(มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นบริษัทปิโก (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า บริษัทจะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.16 บาทต่อหุ้น จากผลประกอบการของบริษัทในปีที่ผ่านมาให้กับผู้ถือหุ้นเดิม และผู้ถือหุ้นใหม่ที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ ทั้งนี้ บริษัทปิโก (ไทยแลนด์) จะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 26 ล้านหุ้น โดยเสนอขายในราคาหุ้นละ 6.25 บาทซึ่งในระดับราคาดังกล่าวจะมีค่าพี/อีเรโชอยู่ที่ระดับ 13.48 เท่า ซึ่งจะสูงกว่า พี/อี เรโชของตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI) ที่เข้าซื้อขาย ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการของปี 2546 แต่ถ้าพิจารณาจากผลประกอบการในปี 2547 ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 25% จะทำให้ค่าพี/อี เรโช ลดลงเหลือ 10 เท่า และหุ้นจะขายในวันที่ 31 มีนาคมถึง 2 เมษายน 2547 เข้าซื้อขายในวันที่ 20 เมษายน 2547 นี้ จากจำนวนหุ้นที่กระจายนั้นในส่วนของบล. ยูไนเต็ดได้รับการจัดสรรประมาณ 30% และปรากฏว่าลูกค้าของบริษัทได้แสดงความสนใจจองที่จะจองซื้อหุ้นมากกว่าจำนวนที่ได้รับการจัดสรรถึง 3 เท่า

"ถึงแม้ว่าบรรยากาศการซื้อขายหุ้นในช่วงนี้จะมีความผันผวน และมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงไปบ้าง แต่ก็มั่นใจว่าหุ้นบริษัท ปิโกจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจและการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ รวมทั้งการขยายตัวด้านกิจกรรมการตลาดของธุรกิจยานยนต์ และสื่อสาร ซึ่งเป็นกลุ่มที่ครองตลาดอยู่ สอดรับกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของปิโก" นายพิเสฐ จึงแย้มปิ่น ประธานกรรมการ บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ว่า การระดมทุนครั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับการลงทุนในบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจที่สอดคล้อง ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของบริษัท และเพื่อขยายการดำเนินงานธุรกิจในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทตามแนวโน้มของภาวะอุตสาหกรรมการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่มีแนวโน้มที่ดี โดยมีรัฐบาลให้การสนับสนุน และกำหนดเป็นกลยุทธ์ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแสดงสินค้านานาชาติและศูนย์รวมของภูมิภาค ซึ่งรัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้กว่า 4 พันล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติที่ภูเก็ต และเชียงใหม่ ภายใน 2 ปีข้างหน้า

ปัจจุบัน บริษัทปิโก (ไทยแลนด์) มีกลุ่มลูกค้าประจำทั้งธุรกิจผู้ผลิตรถยนต์ และการสื่อสาร เช่น Mercedez Benz, Chevrolet, Ford, GM และ Shin Group ซึ่งบริษัทชั้นนำเหล่านี้ต่างให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมทางการตลาดแบบครบวงจร เพื่อสร้าง ภาพลักษณ์ธุรกิจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงมากขึ้นส่งผลให้บริษัทมีรายได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจบริหารงานออกแบบพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะหากลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มลูกค้าสถาบันการเงิน บริษัทประกัน บริษัทที่ทำธุรกิจขายตรง เช่นบริษัทที่ขายเครื่องสำอาง เป็นต้น

ด้านโครงสร้างรายได้ในปี 2545-2546 มีการขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีรายได้รวมในปี 2545 จำนวน 373.60 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 449.34 ล้านบาทในปี 2546 โดยมีรายได้หลักจากการจัดกิจกรรมงานแสดงสินค้า 61.59% การจัดกิจกรรมการตลาด 24.50% และการจัดกิจกรรมนิทรรศการถาวรและพิพิธภัณฑ์ 8.06% ของรายได้รวม ส่วนกำไรสุทธิมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2545 บริษัทมีกำไรสุทธิ 23.15 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 30.14 ล้านบาท ในปี 2546

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us