DBS Bank ยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หวังขยายฐานธุรกิจธนาคารด้วยการเทกโอเวอร์
Dao Heng Bank ธนาคารอันดับ 4 แห่งเกาะฮ่องกง
ที่ผ่านมา DBS ได้เข้าควบรวมกิจการ Kwong On Bank ในฮ่องกงด้วยการเข้าถือหุ้น
87% คิดเป็นมูลค่า 878.8 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (483.9 ล้านเหรียญสหรัฐ) เมื่อเดือนมีนาคม
1999 เป็นสัญญาณบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า DBS ต้องการเสนอตัวเป็นศูนย์กลางทางการเงินแห่งที่สองในเอเชีย
และความฝันจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อ DBS ต้องกระโดดเข้าไปดำเนินธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่
DBS Bank บริหารงานภายใต้ DBS Group Holding ซึ่งถูกควบคุมโดยรัฐบาลสิงคโปร์ที่มีความปรารถนาแสวงหาโอกาสในการออกไปดำเนินธุรกิจนอกประเทศ
หลังพบว่าตลาดในสิงคโปร์เริ่มมีขนาดเล็กลง
ล่าสุด Singapore Telecommunication ใช้เม็ดเงินถึง 8 พันล้านหรียญสหรัฐเข้าเทกโอเวอร์
Australias Cable & Wirless Optus เมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา
การเทกโอเวอร์ Dao Heng จะส่งผลให้ DBS เป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 5 ทางด้านการให้กู้ยืมเงิน
Stephen Fros นักวิเคราะห์แห่ง HSBC ซิเคียวริตี้คาดการณ์ พวกเขาต้องการใหญ่ในฮ่องกงและการที่ตัดสินใจซื้อ
Dao Heng ปราศจากความยุ่งยากทุกสิ่งทุกอย่าง
Dao Heng Bank มี The Guoco Group เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ กลุ่มธุรกิจดังกล่าวเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลสัญชาติมาเลเซีย
นำโดย Quek Leng Chan ซึ่งจะขายหุ้นจำนวน 71.3% ให้กับ DBS Bank ธุรกิจในเครือของ
DBS Diamond Hoding (DDH)
ความสนใจ Dao Heng ของ DBS มีความปรารถนาจะเข้าถือหุ้นเต็ม 100% ซึ่งเงื่อนไขที่
DBS เสนอให้กับ The Guoco Group มีสองทางเลือก คือ ให้ราคา 60.14 เหรียญฮ่องกงต่อหนึ่งหุ้นของ
Dao Heng และเป็นเงินสด ทางเลือกสุดท้าย คือ เงินสด 43.26 เหรียญฮ่องกงต่อหนึ่งหุ้น
บวกกับหนึ่งหุ้นของ DDH ต่อหนึ่งหุ้นของ Dao Heng ซึ่งคาดว่าการเจรจาจะเสร็จเรียบร้อยภายในไตรมาส
3 ปีนี้
ถ้าหากว่าดีลนี้ประสบความสำเร็จ ผู้ถือหุ้นของ Dao Heng จะเป็นฝ่ายได้รับประโยชน์เพราะนี่คือ
good deal เป็นราคาที่ดีสำหรับ Dao Heng แต่หากมองทางด้าน DBS เป็นการซื้อด้วยราคาที่สูงเกินไป
Frost กล่าว
หลังจาก DBS คิดคำนวณราคาที่จ่ายให้กับ Dao Heng เข้าไปในต้นทุนทางการเงินของตนเองแล้ว
ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนครั้งนี้ Frost มั่นใจว่าไม่เกิน 3% แน่นอน
แน่นอนว่า DBS มีความพร้อมสำหรับการจ่ายในราคาสูงๆ เพื่อเสนอตัวเองให้เป็นผู้นำด้านธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในภูมิภาคนี้
สิ่งที่ปรารถนาของ DBS คือ ความเป็น Regional Bank และโอกาสแห่งความเป็นจริงอาจจะมีไม่มากถึงการซื้อทุกสิ่งทุกอย่าง
หลังจากข่าวการเทกโอเวอร์ครั้งนี้ประกาศออกไป สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
S&P ได้มอง DBS ทางด้านอัตราส่วนหนี้สินในทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไร เนื่องจากมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับผลกระทบในโครงสร้างเงินทุน
ขณะที่ S&P มอง Dao Heng ในด้านบวก
อย่างไรก็ตาม Philippe Paillart แห่ง DBS Bank บอกว่า การควบกิจการครั้งนี้เป็นผลความสร้างสรรค์ให้พวกเราเป็นหนึ่งในภูมิภาคนี้
กฎหมายของสิงคโปร์ถูกจำกัดด้านการทำงานและการขยายการดำเนินกิจการธนาคารในสิงคโปร์
แต่เหตุการณ์พื้นฐานดังกล่าวไม่เกิดขึ้นบนเกาะฮ่องกง ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น
(HSBC) และสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด
Dao Heng มีสินทรัพย์ ณ สิ้นปีที่ผ่านมา 17.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (136.9
พันล้านเหรียญฮ่องกง) และเมื่อเร็วๆ นี้ได้ขยายฐานธุรกิจเข้าไปในจีนแผ่นดินใหญ่
นักวิเคราะห์รายหนึ่งมองว่า Dao Heng มีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในระยะยาว
แต่พวกเขาไม่ปรารถนาหรือคำมั่นสัญญาอะไรมากมายจาก DBS ในการเข้ามาควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน
ขณะที่ DBS มีทางเลือกจำกัดในการขยายธุรกิจเข้าไปในเกาะฮ่องกง เพราะที่นั่นตลาดอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ถูกครอบงำและมีบทบาทโดย
HSBC, Bank of China, สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และ Bank of East Asia
เป้าหมายของ DBS ของการดำเนินธุรกิจบนเกาะฮ่องกงจะใช้ประโยชน์จากสาขาและผ่านเครือข่ายกิจการในเครือ
DBS Kwong On Bank ธนาคารอันดับ 13 ในแง่สินทรัพย์ ซึ่งที่ผ่านมาหลังจากเข้าร่วมทำงานด้วยกันแล้วถือว่าเจริญรุดหน้าไปด้วยดี
แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่รุนแรง
กระนั้นก็ดี DBS ยังมองว่า Kwong On Bank มีขนาดเล็กและไม่เพียงพอที่จะทำให้ตนเองบรรลุผลหรือพอใจต่อความทะเยอทะยาน
ในการเป็นผู้เล่นสำคัญของธุรกิจธนาคารในตลาดฮ่องกง
Dao Heng จึงเป็นทางออก เนื่องจากมีชื่อเสียงด้าน Retail Banking ปัจจุบันมีเครือข่ายสาขา
70 แห่ง มี ATM 80 แห่งกระจายอยู่ทั่วเกาะฮ่องกง รวมไปถึง Electronic Banking
Centres ส่วนธุรกิจบัตรเครดิต Dao Heng ใหญ่เป็นอับ 3 ของตลาด มีผู้ถือบัตรเครดิตมากกว่า
7 แสนใบ ที่สำคัญมีฐานอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งที่พร้อม และกลยุทธ์การร่วมทุนครั้งนี้ก็เพื่อที่จะทำให้การทำงานในอนาคตสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะการบริการทางด้านการเงิน
นี่คือประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในเอเชียและการบริการทางเงิน Paillart ชี้
ฮ่องกง คือ ศูนย์กลางการขยายธุรกิจในกลยุทธ์ของเรา และนี่คือการรวมตัวกันของ
DBS และ Dao Heng และฮ่องกงกับสิงคโปร์ บางสิ่งบางอย่างพวกเราไม่เคยทำต่อไปเราจะสร้างมันขึ้นมา
DBS พุ่งเป้าการปฏิรูปบนการควบรวมกิจการหรือการเคลื่อนไหวกลยุทธ์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบแห่งการเติบใหญ่ภายในองค์กร
และการถือครองด้วยยุทธวิธีอื่นๆ และ Dao Heng เป็นตัวอย่างหนึ่งของการปฏิรูปดังกล่าว
พวกเราได้ติดตามความก้าวหน้าแบะการพัฒนาของ Dao Heng มาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง Paillart กล่าว นี่คือการวางตำแหน่งที่มีพลังจากลักษณะพิเศษของเราที่มีความทะเยอทะยานในเอเชีย
การตัดสินใจขายหุ้นของ Dao Heng นั้น Kwek Leng Hai ซีอีโอของ Dao Heng
บอกว่า DBS เป็นพาร์ตเนอร์ที่มีพลังการทำงานที่สูงระหว่างความสำเร็จในระดับท้องถิ่นและภูมิภาค
พวกเขามีประสบการณ์ครอบคลุมทั่วเอเชีย และจะสร้างความเติบโตในฮ่องกงด้วย
เหตุผลดังกล่าวสอดคล้องกับ Jackson Tai ประธานของ DBS เขามองว่าตลาดกำลังจับตาและรอคอยการรวมกันของทั้งสอง
และเมื่อดีลนี้เกิดขึ้นก็อธิบายความสำคัญว่า DBS มีความอดทนในการรอคอย มันเป็นดีลที่ตรงไปตรงมา
ช่วงที่ผ่านมา DBS มียุทธศาสตร์การขยายตัวในภูมิภาคนี้ลักษณะ aggressive
นับตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการธนาคารในไทยและฟิลิปปินส์ เป้าหมายต่อไปคือรุกเข้าไปในออสเตรเลีย
จีนและอินโดนีเซีย เมื่อปีที่แล้วมีข่าวลือว่า DBS สนใจควบรวมกิจการกับสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด
แต่ก็ไม่มีอะไรนอกเหนือจากการคาดเดา
Dao Heng Bank ก่อตั้งขึ้นในปี 1921 เป็นกิจการในเครือ The Guoco Group
นำโดย Quek Leng Chan ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ Hong Leong Group ในมาเลเซีย
นอกจากนี้เขายังดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ First Capital Group อีกด้วย
ปัจจุบัน Dao Heng Bank ให้บริการทางด้านการเงินครบวงจร ล่าสุดเป็นผู้ริเริ่มผลิตภัณฑ์
ec-home เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตนเองในรูปแบบการบริการ ec-banking platform
ประกอบด้วย ec-card & ec-account
การนำตนเองเข้าสู่โลกธุรกิจยุคใหม่ของ Dao Heng จะอยู่ภายใต้คำขวัญ "Reaching
out to you"