ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งรับตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่งเข้าซื้อขาย 22 มี.ค. ในชื่อย่อ ECL ส่วน "เอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์" เปิดจอง วันแรกหมดเกลี้ยง รอเข้าซื้อขายปลายเดือนมี.ค.นี้ ขณะที่ "เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง" ได้รับการตอบรับท่วมท้นเช่นกัน ดีเดย์เทรด 29 มี.ค.นี้

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานศูนย์ระดมทุนและตลาด หลักทรัพย์ใหม่ เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้อนุมัติรับหลักทรัพย์ของ บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) จำนวน 82 ล้านหุ้น (ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิมจำนวน 62 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 20 ล้าน หุ้น) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท รวม 410 ล้านบาท เข้าจดทะเบียนในกลุ่ม ธุรกิจการเงิน หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ โดยจะเริ่มซื้อขายในตลท. ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2547 เป็น ต้นไป ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "ECL"

"ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองเป็นหลัก โดยมีเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองกว่า 100 ราย ในกรุงเทพฯและปริมณฑล นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบงาน ระบบคอม พิวเตอร์ รวมถึงบุคลากรเพื่อรองรับ ภาวะการแข่งขันอยู่เสมอ ดังนั้น ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุน" นางสาวโสภาวดีกล่าว

ECL มีอัตราการขยายตัวของรายได้ในช่วงปี 2544-2546 เฉลี่ยปีละมากกว่า 20% โดย ณ สิ้นปี 2546 บริษัทมีรายได้รวม 107.08 ล้านบาท กำไรสุทธิ 17.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ปี 2545 ที่บริษัทมีรายได้รวม 85.86 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 11.85 ล้านบาท ตามลำดับ

นอกจากนี้ อัตราส่วนกำไรสุทธิ ยังปรับตัวสูงขึ้นจากร้อยละ 13.8 ในปี 2545 เป็นร้อยละ 16.37 ในปี 2546 ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ

ทั้งนี้ ECL ได้เสนอขายหุ้นเพิ่ม ทุนจำนวน 20 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 19 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 6.35 บาท และขายให้กรรมการและพนักงานของบริษัทจำนวน 1 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 5.10 บาท ในระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์ ในการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองไปสู่ต่างจังหวัด ขยายวงเงินสินเชื่อ รวมถึงเพิ่มการลงทุนไปยังธุรกิจใหม่ๆ

นายศิริพงษ์ สุทธาโรจน์ กรรม การผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะแกนนำการจัดจำหนาย หุ้นเอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ เปิดเผยว่า วานนี้(18 มี.ค.) เป็นวันแรกที่มีการเสนอขายหุ้นเอส.แพ็คฯจากระยะเวลาที่กำหนด 18-19 มี.ค. 47 ปรากฏว่า นักลงทุน ให้การตอบรับเป็นอย่างดีจนทำให้หุ้นที่เสนอขายจำนวน 14 ล้านหุ้นขายหมดภายในวันแรก

โดยได้จัดสรรให้กับนักลงทุนสถาบัน 3 ล้านหุ้น และที่เหลือ 11 ล้านหุ้นเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป

สาเหตุที่หุ้นเอส.แพ็คฯได้รับความสนใจเนื่องจากเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี และราคาจองที่กำหนดไว้ 17 บาทนั้นถือว่าไม่สูงเกินไปนัก และการที่มีกองทุนไทยแลนด์อควิตี้ฟันด์ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้

ทั้งนี้คาดว่าหุ้นเอส.แพ็คฯ จะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในปลายเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งการที่ ภาวะตลาดหุ้นซบเซาคงจะไม่ส่งผล กระทบกับราคาหุ้นแต่อย่างใด เพราะ เชื่อมั่นว่าบริษัทเอส.แพ็คฯ เป็นบริษัท มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายสมเชาว์ ตันฑเทอด-ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิด เผยว่า บริษัทได้เปิดให้นักลงทุนทั่ว ไปจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ในวันนี้เป็นวันแรก ปรากฏว่าเสียง ตอบรับจากนักลงทุนนั้นเป็นที่น่าพอ ใจมากเหมือนกับครั้งที่เราได้รับความ ไว้วางใจเป็นอย่างดีจากกลุ่มนักลงทุน สถาบันทั้งในและต่างประเทศ

โดยบริษัทได้กระจายหุ้นให้กับ นักลงทุนรายย่อยเป็นจำนวน 19 ล้าน หุ้น ในราคาหุ้นละ 20 บาท ซึ่งคิดเป็น สัดส่วน 47.50% ของหุ้นที่จำหน่ายทั้งหมด ในขณะที่นักลงทุนสถาบันมีสัดส่วน 37.50% ส่วนที่เหลือเป็นของพนักงานและผู้มีอุปการคุณ

"เงินทุนที่ได้รับจากการเสนอขายครั้งนี้สามารถช่วยให้บริษัทเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และการพัฒนาธุรกิจรวมทั้งเพิ่มโอกาสในการ ขยายโครงการในอนาคตได้โดยทางกลุ่มผู้บริหารจะร่วมกันสานต่อความ สำเร็จของบริษัทเพื่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นและลูกค้าทั้งหมดของเรา" นายสมเชาว์ กล่าว

ด้านนายกฤช เอทเตอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่าบริษัทยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นักลงทุนให้ ความสนใจและเชื่อมั่นในการลงทุนกับหุ้นของบมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง เราเชื่อมั่นว่าบมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตที่ดี ทั้งนี้เราคาดว่าหุ้นทั้งหมดจะเปิดให้มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 29 มีนาคมนี้ ในกลุ่มอสังหา ริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อ "NCH"