Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 มีนาคม 2547
กรีนชูหุ้นทอท."ภัทร"ไม่ทุบก่อนซื้อคืน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ท่าอากาศยานไทย, บมจ.
กระทรวงการคลัง
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ภัทร, บล.
แมนพงษ์ เสนาณรงค์
Stock Exchange




"ภัทร" ออกโรงแจงกรีนชูหุ้นทอท.-AOT ภัทรไม่จำเป็นต้องทุบหุ้นทอท.ก่อนเพื่อเข้าซื้อ ชี้กรีนชูเป็นเรื่องปกติที่โลกเขาทำกัน เผยนักลงทุนสถาบันเข้าใจ แต่รายย่อยเข้าใจผิด จึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจงให้เข้าใจ พร้อมระบุ ตัวเลขดีลไอพีโอ ต.ค.46 ถึงขณะนี้มูลค่า 6 หมื่นล้านบาทอยู่ในมือต่างชาติ 40% คิดเป็นมูลค่า 2 หมื่น ล้านบาท

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายการตลาดตราสารทุน กล่าวถึงกรณีที่นักลงทุน มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับกรีนชูหรือหุ้นสำรองที่จัดสรรไว้เมื่อมีความต้องการซื้อมากกว่าจำนวนหุ้น ว่า การมีกรีนชูออปชันจะทำให้หุ้นตัวนั้นมีราคาต่ำกว่าราคาจองหลังจาก ที่เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง โดยหุ้นที่จะมีกรีนชูส่วนใหญ่ เป็นหุ้นที่มีขนาดมูลค่ามาร์เกตแคปใหญ่ และนักลงทุนมีความต้องการที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นมากกว่าจำนวนหุ้นที่มีอยู่

การออกกรีนชูจึงเป็นตัวช่วยรักษาเสถียรภาพของราคา การที่บริษัทเข้าไปซื้อหุ้นสำรองนี้สามารถทำได้โดยไม่ผิดกฎระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งทางบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน จะหารือกับเจ้าของกิจการที่ต้องการนำหุ้นเข้าตลาด และเสนอเรื่องต่อ ก.ล.ต.โดยก.ล.ต.ได้มีกฎว่า สามารถ จัดสรรหุ้นสำรองได้ไม่เกิน 15% ของ จำนวนหุ้นทั้งหมด

"บริษัทที่ปรึกษาทำการหารือกับ เจ้าของกิจการในการออกหุ้นสำรอง ไว้ตามจำนวน ที่ก.ล.ต.อนุญาต และ ต้องไปยืมหุ้นมาจากผู้ถือหุ้นเดิมเพื่อ นำมาจัดสรรให้กับนักลงทุนให้ได้ในจำนวนไม่เกิน 15% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด แต่บริษัทที่ปรึกษาจะต้องนำหุ้นที่ยืมไปจากผู้ถือหุ้นเดิมมา คืนภายใน 30 วัน นับจากวันที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์"

บริษัทหลักทรัพย์ภัทรไม่มีส่วนได้รับประโยชน์จากการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน หรือ กรีนชู ออปชันของหุ้น AOT หรือ บริษัท ท่าอากาศ ยานไทย จำกัด (มหาชน) แต่อย่างใด ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ภัทร มีกำหนดต้องส่งมอบหุ้น AOT ในส่วนนี้จำนวน 53.77 ล้านหุ้น คืนให้แก่กระทรวงการคลังภายในวันที่ 7 เมษายน 2547

นายแมนพงศ์ กล่าวว่า เมื่อบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินจะต้องทำการซื้อหุ้นคืนทำให้นักลงทุนมีการคาดการณ์ว่าบริษัทที่ปรึกษาจะต้องเข้าไปทุบราคาหุ้นให้ยืนอยู่ในระดับต่ำกว่าราคาจองเพื่อจะได้ซื้อหุ้นในราคาที่ถูกไปคืนผู้ถือหุ้นเดิม จึงอยากอธิบายว่าการซื้อคืนนั้นที่ปรึกษาทางการเงินสามารถทำได้ 2 วิธี คือในกรณีที่ราคาหุ้นต่ำกว่าราคา จอง หุ้น AOTที่ 42 บาท ก็สามารถซื้อหุ้นในตลาดหุ้นคืนได้เลย และในกรณีที่ราคาหุ้นสูงกว่าราคาจอง ที่ปรึกษาทางการเงินจะสามารถซื้อหุ้นในส่วนที่สำรองไว้กับบริษัทในราคาจอง 42 บาทไปคืนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมได้ โดยไม่จำเป็นต้องทุบราคาหุ้น

นายแมนพงศ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้ทำกรีนชูไปแล้วได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท.สผ. จำกัด (มหาชน), บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยโอเลฟินส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งไม่เคยมีปัญหา เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการขายหุ้นให้ลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งมีความเข้าใจดี ในเรื่องของการทำกรีนชู แต่สำหรับนักลงทุนรายย่อยหลายรายเข้าใจผิด ในเรื่องกรีนชูจึงได้ชี้แจงให้เกิดความ เข้าใจในเรื่องดังกล่าว

สำหรับประเด็นการเทขายของนักลงทุนต่างชาติที่เป็นที่วิตกในช่วงที่ผ่านมานั้นนายแมนพงศ์ มีความเห็นว่าเป็นไปตามบรรยากาศการลงทุนเท่านั้น โดยมีข้อสังเกตว่า หากนับจากเดือนตุลาคม 2546 ได้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการออกหุ้น IPO มูลค่าทางการตลาดคิดเป็นกว่า 6 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้นักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนเป็น 40% คิดเป็นประมาณ 2 หมื่นล้านบาท แสดงว่านักลงทุนต่างชาติยังให้ ความสนใจตลาดหุ้นไทยอยู่ อีกทั้งปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยยังจูงใจให้นักลงทุนเข้าตลาดอยู่

อย่างไรก็ดี การเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น จะต้องพิจารณาความพร้อมของทั้งบริษัท และสภาพตลาดว่าอยู่ในช่วงที่ตลาด เปิดหรือไม่ด้วย โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าทำการซื้อขาย มักจะอยู่ในช่วงหลังตรุษจีน ถึง กลางเดือนมิถุนายน และอีกช่วงคือ ต้นกันยายนถึงกลางพฤศจิกายน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us