Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 มีนาคม 2547
ธปท.ชี้ไข้หวัดนกฉุดจีดีพี0.4%เศรษฐกิจโตหนุนคงดอกเบี้ยอาร์พี             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
อัจนา ไวความดี
Economics




แบงก์ชาติ ยืนอัตราดอกเบี้ยอาร์/พี 14 วันไว้ที่ระดับเดิม 1.25% เหตุเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 พุ่งต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปีนี้ พร้อมปรับตัวเลขการประเมินผลกระทบจากการแพร่ ระบาดไข้หวัดนกฉุดจีดีพีลงจาก 0.2% เป็น 0.4% ด้านเสถียรภาพต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี ดุลบัญชีเดินสะพัดและเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง ขณะที่หนี้ต่างประเทศลดลง

นางอัจนา ไวความดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่า ที่ประชุมมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วัน (อาร์/พี) ไว้ที่ระดับ 1.25% ต่อปีเช่นเดิม เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของไตรมาสที่ 4 ได้ขยาย ตัวดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับภาวะของเศรษฐกิจเดือนมกราคมยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญเพราะยังเป็นสถาน การณ์ที่เอื้ออำนวยต่อการขยายตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจ และรักษาอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานให้ได้ตามเป้าหมาย

ขณะเดียวกัน การที่คงอัตราดอกเบี้ยอาร์/พี จะช่วยเอื้อประโยชน์ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้มีความต่อเนื่อง และรักษาอัตราเงิน เฟ้อพื้นฐานให้ได้ตามเป้าหมาย

สำหรับการระบาดที่เกิดโรคไข้หวัดนกระบาดในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา และสถาน การณ์ความไม่สงบในเขตพื้นที่ภาคใต้ที่ส่งผลให้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและประชาชนลดลงนั้น นับเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อการขยายตัวทาง เศรษฐกิจ ซึ่ง ธปท. ได้ทำการประเมินผลกระทบ จากสิ่งดังกล่าวแล้วพบว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดนกส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ลดลง -0.2 ถึง - 0.4% ซึ่งมากกว่าที่ได้ประมาณการไว้จากเดิม -0.2% เพราะก่อนหน้านี้ ธปท.ได้รวมแต่ผลกระทบจากการส่งออก แต่ ครั้งนี้ได้รวมผลกระทบที่เกิดจากความไม่เชื่อมั่น ภายในการไม่บริโภคไก่ และการฟื้นตัวของธุรกิจ ฟาร์มไก่อีก 3-6 เดือน

นางอัจนา กล่าวต่อว่า เสถียรภาพด้านต่างประเทศยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี โดยดุลบัญชีเดินสะพัด และเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับที่สูง รวมทั้งฐานะหนี้ต่างประเทศที่ปรับลด ลงก็เป็นปัจจัยที่ทำให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจของไทยจะดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ที่แสดงให้เป็นปัญหาต่อเศรษฐกิจ

ส่วนดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจในประเทศนั้น อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน กุมภาพันธ์ปรับตัวไปอยู่ที่ 2.2% เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบ เทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ 1% ซึ่งเป็นผลจากการ เพิ่มขึ้นของราคาสินค้าในหมวดอาหารและพลัง งาน ซึ่งทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานที่ติดลบ -0.1% ในเดือนมกราคมกลับมาเป็นบวก โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากราคาค่า เช่าเริ่มชะลอการปรับตัวลง และค่าโดยสารรถประจำทางที่เพิ่มขึ้น ทำให้คณะกรรมการฯ มีความ เห็นว่าช่วงต่อไปนี้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะไม่กลับ ไปอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของ ธปท.ที่ 0-3.5%

สำหรับธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ หนี้ภาค ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการซื้อขายในตลาดหุ้น ที่มีความร้อนแรงยังถือว่าไม่มีปัญหาหรือก่อให้เกิดความไม่สมดุลทางการเงิน เนื่องจากการเร่งตัว ของยอดขายภาคอสังหาริมทรัพย์และตลาดหลัก ทรัพย์ในเดือนมกราคมได้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย

ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงในเรื่องเงินทุนไหลออกจากการขายหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างประเทศเป็นจำนวนมากนั้น นางอัจนา กล่าวว่า ขณะนี้ ธปท. มีตัวเลขการไหลเข้าออกของเงินทุนในเดือน มกราคม และ ยังไม่พบว่ามีเงินทุนไหลออกจนผิดปกติ และการที่นักลงทุนต่างประเทศเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของไทยนั้น ถือว่าเป็นการปรับฐาน การลงทุนในตลาดหุ้นที่เป็นเรื่องปกติ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us