Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 มีนาคม 2547
ฟินันซ่าใช้ชื่อการันตีประกันชีวิตถือส่วนน้อย10%เลี่ยงถ่วงราคาหุ้น             
 


   
search resources

เนชั่นไวด์ โกลบอล โฮลดิ้ง
ฟินันซ่า, บมจ.
เนชั่นไวด์ ประกันชีวิต
ฟินันซ่าประกันชีวิต
วิริยะประกันภัย
สยามอินเวสเมนท์ฟันด์
เอสบีเอสซี โอลดิ้ง
เอชที แคปปิตอล โฮลดิ้ง
กฤษฎา หุตะเศรณี
Banking and Finance




บทสรุปสุดท้ายเนชั่นไวด์ประกันชีวิต ถูกเปลี่ยนโฉมหน้าเป็นฟินันซ่าประกันชีวิต มีบมจ.ฟินันซ่าถือหุ้นแค่ 10% ที่เหลือเป็นโฮลดิ้งที่ถือโดยผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ในฟินันซ่า ผู้บริหารฟินันซ่ายอมรับถือหุ้นแค่ 10% เพื่อเลี่ยงความเสียหายที่อาจโยงไปถึงราคาหุ้น ล่าสุด ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1.7 พันล้านบาท เป็น 2.1 พันล้านบาท

นายกฤษฎา หุตะเศรณี ประธาน กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเนชั่นไวด์ประกันชีวิตจำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท ฟินันซ่าประกันชีวิต จำกัด หลังจากได้เปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนชื่อ ดังกล่าวจะเริ่มใช้ได้จริงเมื่อไรนั้น ต้อง รอกรมการประกันภัยอนุมัติหลังจากที่บริษัทเสนอเรื่องเข้าไปซึ่งก็คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ของเนชั่นไวด์นั้น มีบริษัทฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วน 10% บริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด ถือหุ้นใน สัดส่วน 10% และ บริษัท SBSC โฮล-ดิ้ง ถือหุ้นในสัดส่วน 60% บริษัท HT แคปปิตอล โฮลดิ้ง ถือหุ้นในสัดส่วน 10% และที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย

ทั้งนี้ HBHC โฮลดิ้ง ก่อนหน้านี้ ผู้ถือหุ้นคือ เนชั่นไวด์โกลบอล ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเนชั่นไวด์ประกันชีวิต ถือหุ้นอยู่ แต่หลังจากที่ถอนตัวออกไป ก็เปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหม่เป็น สยามอินเวสเมนท์ฟันด์ และผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บมจ. ฟินันซ่า เช่นเดียวกับ HT แคปปิตอล โฮลดิ้ง ก็ถือหุ้นโดยราย ย่อยของ บมจ.ฟินันซ่า ซึ่งกล่าวได้ว่ากลุ่มฟินันซ่าได้เข้าไปถือหุ้นในเนชั่นไวด์ ประกันชีวิตถึง 80%

อย่างไรก็ตาม ฟินันซ่ายอมรับว่า การเข้าถือหุ้นในนามบมจ.ฟินันซ่าเพียง 10% เพราะต้องการเลี่ยงการบันทึกบัญชีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเฉพาะผลประกอบการบริษัทฟินันซ่าประกันชีวิต ที่อาจจะถ่วงให้ราคาหุ้นฟินันซ่ารูดลงได้ การถือหุ้นสัดส่วนน้อยโดยใช้โฮลดิ้งถือส่วนใหญ่ก็เพื่อเลี่ยงปัญหานี้

นายกฤษฎา กล่าวว่า ในระยะยาวบริษัทจะได้ประโยชน์จากการที่ฟินันซ่าเข้ามาถือหุ้น โดยเมื่อฟินันซ่าสามารถผันตัวเองเป็นธนาคาร ทั้งในส่วนของฐานลูกค้าและช่องทางการจำหน่ายผ่านแบงก์ก็คือประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ เช่นเดียวกันกับวิริยะฯ ที่นอกจากจะสามารถใช้ฐานลูกค้าร่วมกันเพื่อขายผลิตภัณฑ์แล้ว ในส่วนของตัวแทนก็สามารถขายผลิตภัณฑ์ให้แก่กันได้

กล่าวได้ว่าโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่นี้ทำให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วม กัน อย่างเช่นการให้ตัวแทนประกันชีวิตขายสินค้าของบริษัทประกันวินาศภัยได้ เช่นเดียวกันประกันวินาศภัยก็ขายสินค้าประกันชีวิตได้ ซึ่ง ตรงนี้ก็เป็นแผนที่เราจะทำในอนาคต รวมถึงแผนที่จะทำธุรกิจแบงก์แอส ชัวรันส์ซึ่งเร็วๆ นี้เราจะเปิดตัวกรม ธรรม์ประกันชีวิตใหม่ที่จะขายผ่านธนาคาร ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้

หลังจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีความชัดเจนในทุกๆ ด้านแล้ว บริษัทก็ได้วางนโยบายบริหารในระยะ 5 ปีข้างหน้า คือตั้งแต่ปี 2547-2551 โดยแผนที่วางไว้มี 3 ระยะ คือระยะแรก ปี 2547 บริษัทจะเน้นสร้างเสถียร-ภาพ และความมั่นคงโดยการขยายเงิน กองทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ ควบไปกับการพัฒนาระบบงาน ให้สามารถบริการลูกค้าได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

ส่วนระยะที่ 2 ปี 2548-2549 บริษัทจะเร่งขยายธุรกิจให้มีความเจริญเติบโตอย่างสมดุล โดยการขยาย ฐานลูกค้าทั้งในแนวกว้างให้ครอบคลุม ทั้งประเทศ และในแนวลึกโดยการเพิ่ม ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ พร้อมกับการผนึกกำลังกับพันธมิตรที่เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทในการขยายตลาดด้านแบงก์แอสชัวรันส์ พร้อมกับให้ตัวแทนเน้นการขายแบบProduct mixed เพื่อสร้างความสะดวกและความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า รวมถึงแผนในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ส่วนระยะสุดท้าย ปี 2550-2551 บริษัทมีแผนมุ่งสู่ความเป็นเลิศ และเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจประกันชีวิต โดยมีจุดมุ่งหมายให้บริษัทก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ใน 5 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิตและมีส่วนแบ่งการตลาดไม่ต่ำกว่า 5%

บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มทุนอีก 350 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีทุนจดทะเบียน 1,700 ล้าน ทำให้หลังเพิ่มทุน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 2,100 ล้านบาท และ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2547 บริษัทมีสินทรัพย์มูลค่าตามราคาประเมิน 4,316.9 ล้านบาท มีสิน ทรัพย์ลงทุน 3,824.2 ล้านบาท มีเงินสำรองประกันภัย 3,592.5 ล้านบาท และเงินกองทุน 358.5 ล้านบาท

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us