Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน15 มีนาคม 2547
เอส.แพ็คฯเข้าตลาดหุ้น ขาย17บาทจองล้น10เท่า             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ - MAI
บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน - AMC
ซิกโก้ แอดไวเซอรี่
เอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์, บมจ.
สหกิจบรรจุภัณฑ์
พงศกร เที่ยงธรรม
Stock Exchange




เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์เซ็นสัญญาตั้งโบรกเกอร์อันเดอร์ไรต์หุ้นวันนี้ (15 มี.ค.) บ.ซิกโก้ แอ็ดไวเซอรี่ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เคาะราคาจองที่หุ้นละ 17 บาท เสนอขายวันที่ 18-19 มีนาคม พร้อม กับเอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง ขณะที่ซิกโก้แอ็ดไวเซอรี่ เตรียมดันอีก 2 บริษัทต่อคิวเข้าตลาดหุ้นเป็นรายต่อไป

นายพงศกร เที่ยงธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัทซิกโก้ แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินหุ้นบริษัท เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้กำหนดราคาจองหุ้นบริษัทเอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์แล้วที่ระดับราคาหุ้นละ 17 บาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่ได้สำรวจความต้องการซื้อ ของนักลงทุนสถาบันแล้วและพบว่านักลงทุนให้ความสนใจเกินกว่า 10 เท่า โดยหุ้นจะเสนอขายภายในวันที่ 18-19 มี.ค.2547 นี้ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เสนอขายหุ้นบริษัทเอ็น.ซี.เฮาส์ซิ่ง

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะขายพร้อมกันแต่เชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อการขายหุ้น เพราะขนาดที่กระจายไม่ใหญ่มากนัก รวมถึงทั้ง 2 บริษัททำธุรกิจที่แตกต่างกัน

ทั้งนี้ บริษัทเอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์จะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนจำนวน 14 ล้านหุ้นโดยจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม 2 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 5 บาท ซึ่งจะได้เงินจากการระดมทุนครั้งนี้จำนวน 238 ล้านบาท โดยในวันนี้ (15 มี.ค.) เวลา 10.00 น. บริษัทเอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จะลงนามสัญญาแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ

สำหรับบริษัท เอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกล่องกระดาษพับแข็ง กล่องกระดาษพับแข็งปะลอนกล่องลูกฟูก และรับจ้างพิมพ์หนังสือสื่อสิ่งพิมพ์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2525 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาทในนามบริษัท ฉลองรัตน จำกัด โดยครอบครัวลีนุตพงษ์ เพื่อดำเนินธุรกิจรับจ้างพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์และผลิตกล่องพิมพ์พาณิชย์

บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 100 ล้านบาทและแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนในปี 2537 และย้ายไปตั้งโรงงานที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจ

การระดมทุนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการใช้เงินประมาณ 180 ล้านบาท ไปลงทุนในโครงการสร้างโรงงานผลิตกระดาษลูกฟูกแห่งใหม่ โดยแบ่งเป็นที่ดินสำหรับก่อสร้างโรงงานใหม่ 40 ล้านบาท, อาคารโรงงาน 60 ล้านบาท, เครื่อง จักร 80 ล้านบาท และเงินทุนหมุนเวียน 30 ล้านบาท "จะนำไปใช้ลงทุนในโครงการสร้างโรงงานผลิตกระดาษลูกฟูกลอนใหญ่ แห่งใหม่ในเขตกรุงเทพฯเพื่อขยายกำลังการผลิตกระดาษ ลูกฟูก ซึ่งจะรองรับกับยอดการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น" นายพงศกรกล่าว

ทั้งนี้ โครงสร้างรายได้การจำหน่ายบรรจุ-ภัณฑ์ของบริษัท เอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.46 เป็นดังนี้ กล่องพิมพ์ออฟเซต 38.50%, กล่องลูกฟูก 37.19%, รับจ้างพิมพ์ 15.89%, วัตถุดิบ 8.42%, โดยผลการดำเนินงานของบริษัทฯและบริษัทย่อยงวดสิ้นสุด 30 ก.ย.46 มีกำไรสุทธิ 90.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.95 ล้านบาท จาก 64.07 ล้านบาทในงวดสิ้นสุด วันที่ 30 ก.ย.45

ขณะที่สินทรัพย์รวมของบริษัทฯและบริษัทย่อย ณ 30 ก.ย.46 มีมูลค่า 822.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.61 ล้านบาท จากมูลค่าสินทรัพย์ รวม ณ สิ้นปี 45 ซึ่งมีมูลค่า 814.63 ล้านบาท

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธ.ค.46 ประกอบด้วย กองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (Thailand Equity Fund) ถือจำนวน 14 ล้านหุ้น หรือ 29.17% กลุ่มนายยุทธ ชินสุภัคคกุล ถือจำนวน 6.88 ล้านหุ้น หรือ 14.33% กลุ่มลีนุตพงษ์ ถือจำนวน 4 ล้านหุ้น หรือ 6.67% บ.อีโตชู แมนเนจเมนท์ (ประเทศไทย) ถือจำนวน 4 ล้านหุ้น หรือ 6.67% บ.สหกิจบรรจุภัณฑ์ จำกัด ถือจำนวน 3.784 ล้านหุ้น หรือ 7.89% บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) ถือจำนวน 3 ล้านหุ้น หรือ 6.25%

นายพงศกรกล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่บริษัท ซิกโก้ แอ็ดไวเซอรี่ นำหุ้นบริษัทเอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้วบริษัทต่อมาจะนำบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านอัญมณีและบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านเคมีภัณฑ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีผลประกอบการที่ดีโดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI) โดยจะยื่นแบบรายการแสดงข้อมูล(ไฟลิ่ง)ภายในปลายเดือนนี้ และคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นได้ในช่วงปลายเดือนพ.ค.หรือต้นมิ.ย.นี้

นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นที่ปรึกษาทางการเงินหุ้นบริษัทยานภัณฑ์ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่าจะระดมทุนไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us