Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน12 มีนาคม 2547
ราคาหุ้น "KTC-AEONTS" รูดรับธปท.คุมเข้มบัตรเครดิต             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย
โฮมเพจ ธนาคารกรุงเทพ
โฮมเพจ ธนาคารกสิกรไทย
โฮมเพจ อิออน ธนสินทรัพย์
โฮมเพจ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ธนาคารกสิกรไทย, บมจ.
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารกรุงเทพ, บมจ.
อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์), บมจ.
บัตรกรุงไทย, บมจ.
ซิกโก้, บล.
โชค ณ ระนอง
ธาริษา วัฒนเกส
ชาติชาย พยุหนาวีชัย
กัณตภณ วิมลไพโรจน์
Financing




แบงก์ชาติ ยอมรับเกณฑ์คุมเข้มบัตรเครดิตกระทบผู้ประกอบการบางกลุ่ม แต่จะส่งผลดีต่อระบบโดยรวม ด้านธนาคารกรุงเทพ ชี้ขั้นตอนการต่ออายุบัตรเครดิตยุ่งยาก-ค่าใช้จ่ายเพิ่ม ขณะที่ธนาคารกสิกรไทย ฟันธงตลาดสินเชื่อบุคคลคึกคักหลังประกาศใช้มาตรการธปท. งัดกลยุทธ์ดอกเบี้ยต่ำเจาะลูกค้า ด้านราคาหุ้น KTC-AEONTS รูดรับข่าวร้าย ลดลง 1.80% และ 4.58% ตามลำดับ

นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อควบคุมธุรกิจบัตรเครดิต ว่า จะมีการประกาศใช้มาตรการอย่างเป็นทางการในช่วงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ เนื่องจากมีรายละเอียดบางอย่างต้องพิจารณาให้รอบคอบ โดยเกณฑ์ดังกล่าวอาจจะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการบางกลุ่ม แต่จะส่งผลดีต่อส่วนรวม จึงเป็นเรื่องที่ควรดำเนินการ

สำหรับมาตรการที่จะประกาศใช้ ธปท.จะให้ความสำคัญกับการดูแลการก่อหนี้ของประชาชน โดยกำหนดให้ผู้ออกบัตรเครดิตระมัดระวังไม่ให้ผู้ถือบัตรเครดิตมีหนี้คงค้างรวมกันทุกบัตรเกินกว่า 5 เท่าของเงินเดือน หรือรายได้เฉลี่ยต่อปี การเพิ่มวงเงินในการผ่อนชำระขั้นต่ำแต่ละเดือนจากเดิม 5% ของยอดหนี้ เป็น 10% รวมถึงกรณีที่ผู้ถือบัตรค้างชำระหนี้เป็นเวลา 3 เดือน ผู้ออกบัตรเครดิตจะต้องยกเลิกบัตรทันที

พร้อมกันนี้ ธปท. ยังมีแนวคิดห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการบัตรเครดิตเข้าไปหาลูกค้าเป็นรายตัว หรือโทร.ไปหาลูกค้าเพื่อที่เร่งรัดให้มีการทำบัตรเครดิต เพราะต้องการให้ผู้สมัครบัตรเครดิตเป็นผู้ที่มีความพร้อมและตั้งใจใช้บัตรเครดิตจริงๆ ซึ่งไม่ได้เป็นการกีดกันผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหม่ที่จะเข้ามาในตลาด ธ.กรุงเทพชี้เพิ่มค่าใช้จ่าย

นายโชค ณ ระนอง ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า มาตรการควบคุมธุรกิจบัตรเครดิตของ ธปท. โดยเฉพาะการห้ามยอดคงค้างบัตรเครดิตเกิน 5 เท่าของเงินเดือน จะทำให้ผู้ประกอบการบัตรเครดิตมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น เพราะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลผ่านเครดิตบูโร และต้องมีค่าใช้จ่ายในการติดต่อสอบถามข้อมูลรายได้ใหม่ของลูกค้าใหม่ เพื่อนำมาคำนวณเปรียบเทียบกับยอดคงค้างไม่ให้เกิน 5 เท่าของเงินเดือนตามหลักเกณฑ์ของธปท.

"การต่ออายุบัตรเครดิต จะมีขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยาก และเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะต้องเข้าไปตรวจสอบข้อมูลกับเครดิตบูโร ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรายการละประมาณ 6-12 บาท รวมทั้งต้องเพิ่มพนักงานเข้ามาดูแลในส่วนนี้ด้วย ปัจจุบันธนาคารกรุงเทพมีผู้ถือบัตร 480,000 ใบ บัตรเครดิตต้องต่ออายุเดือนละ 20,000-30,000 ใบ"

ส่วนกรณีกำหนดการผ่อนชำระขึ้นต่ำจาก 5% เป็น 10% และยกเลิกบัตรเครดิตที่ค้างชำระเกิน 3 เดือน และเกณฑ์ออกบัตรเครดิตให้กับผู้มีรายได้ต่อเดือนขั้นต่ำที่ 15,000 บาทนั้น ธนาคารกรุงเทพไม่มีปัญหา เนื่องจากธนาคารกรุงเทพได้มีการปฏิบัติตามเกณฑ์ดังกล่าวอยู่แล้ว กสิกรไทยฉวยจังหวะรุกสินเชื่อบุคคล

ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อผู้บริโภค ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า มาตรการของธปท. จะส่งผลให้ลูกค้าบัตรเครดิตหันมาใช้สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มมากยิ่งขึ้น เหมือนในอดีตเมื่อปลายปี 2545 ที่ธปท.เริ่มออกระเบียบมาควบคุมธุรกิจบัตรเครดิต ทำให้ลูกค้าหันมาใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ดังนั้นธนาคารจึงมีนโยบายที่จะรุกตลาดสินเชื่อบุคคลเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าใหม่ประมาณ 2,000 ล้านบาท จากยอดคงค้าง ณ สิ้นปี 2546 ที่มีประมาณ 550 ล้านบาท

ราคา "KTC-AEONTS" รูด

จากมาตรการคุมเข้มธุรกิจบัตรเครดิตของธปท. ได้ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านบัตรเครดิต คือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC และบริษัท อิออน ธนทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS ทำให้ราคาหุ้นได้รับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายในช่วงเช้าจนกระทั่งปิดตลาด

โดย KTC ปิดที่ 27.25 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.50 บาท หรือ 1.80% มูลค่าการซื้อขายรวม 47.21 ล้านบาท ขณะที่ AEONTS ปิด 146 บาท ลดลง 7 บาท หรือ 4.58% มูลค่าการซื้อขายรวม 14.47 ล้านบาท

นายกันตภณ วิมลไพโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ กล่าวว่า มาตรการของธปท.จะมีผลกระทบกับธุรกิจของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (NON BANK) มากกว่าธนาคารพาณิชย์ แต่สำหรับหุ้น AEONTS และ KTC ยังไม่มีผลกระทบมากนัก เนื่องจากจะต้องรอดูมาตรการที่ชัดเจนของ ธปท.

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการธุรกิจบัตรเครดิตจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อหารายได้อื่นเพิ่ม เพื่อทดแทนรายได้ที่หายไปจากจำนวนลูกค้าที่ลดลง ซึ่งคาดว่า NON BANK ได้รับผลกระทบมากกว่า BANK เนื่องจาก NON BANK มีฐานลูกค้าที่น้อยกว่า และมาตรการการควบคุมการออกบัตรเครดิตที่มีความเข้มงวดต่ำกว่า BANK อย่างไรก็ตาม ผลกระทบคงจะไม่รุนแรงมากนัก โดยเฉพาะไม่มีประเด็นเรื่องการตั้งสำรองที่เข้มงวดขึ้น และการปรับเพิ่มฐานรายได้ของผู้ถือบัตร

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us