ตลาดหลักทรัพย์ประกาศให้บริษัทจดทะเบียน 2 แห่งคือ TUNTEX และ BRCเข้าข่ายต้องฟื้นฟูกิจการโดยจะขึ้น
SP ห้ามการซื้อหรือขายหุ้น ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.47 พร้อมย้ายไปหมวด
REHABCO ในวันที่ 15 มี.ค. 2547 แต่ผ่อนผัน การประกาศเข้าข่ายต้องจัดทำแผน ฟื้นฟูกิจการของ
SRI ส่วน RANCH ซึ่งอยู่ในหมวด REHA BCO ย้ายกลับสู่หมวดปกติ
รายงานข่าวจากตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ได้ระบุว่า สำหรับการประกาศเข้าข่ายต้องฟื้นฟูกิจการตลาดหลักทรัพย์ฯนั้นได้กำหนดหลักเกณฑ์การต้องจัดทำแผนฟื้นฟู
กิจการหรือแก้ไขคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียน โดยใช้เกณฑ์ พิจารณาบริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้น
(Equity) ต่ำกว่าศูนย์
ทั้งนี้ ในการพิจารณาส่วนของผู้ถือหุ้นดังกล่าว ตลาดหลักทรัพย์จะพิจารณาปรับปรุงบวกกลับด้วยผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
และ/หรือปรับปรุงหักลดด้วยรายการที่ผู้สอบบัญชีได้ระบุถึงในรายงานผู้สอบบัญชีประเภทแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไข
หรือไม่แสดงความเห็น หรือแสดงความเห็นว่างบการเงินไม่ถูกต้อง
ในกรณีที่ส่วนของผู้ถือหุ้นหลังปรับปรุงมีค่าต่ำกว่าศูนย์ก็ให้นำมาพิจารณาตามเกณฑ์เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนด้วย
จากการพิจารณางบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.46 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีที่บริษัทจดทะเบียนนำส่งมายังตลาดหลักทรัพย์ได้ปรากฏว่าบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายต้องจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการหรือแก้ไขคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียนเนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าต่ำกว่าศูนย์มีจำนวน
2 บริษัท บริษัท ทุนเท็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TUNTEX) , บริษัท บางกอกรับเบอร์
จำกัด (มหาชน) (BRC)
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามความในข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่อง
การเพิกถอน หลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2542 ตลาดหลักทรัพย์จึงประกาศให้ผู้ลงทุนได้ทราบว่าบริษัทต้องแก้ไขคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียนและขึ้นเครื่องหมาย
SP (Suspension) ห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวเป็นการชั่วคราวในวันที่
12 มี.ค. 47 และ ย้ายหลักทรัพย์ไปอยู่ภายใต้หมวดบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ระหว่างแก้ไขการดำเนินงาน
(CompaniesUnder Rehabilitation) หรือ REHABCO ในวันที่ 15 มีนาคม 2547
โดยยังคงห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทจนครบ 30 วันนับจากวันประกาศเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน
หรือจนถึงวันที่ 10 เม.ย.47 ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้บริหารของบริษัทมีเวลาที่จะพิจารณาอย่างรอบ
คอบก่อนตัดสินใจเลือกทางเลือกที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ดีที่สุดแก่บริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัท
และให้บริษัทแจ้งให้ตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบภายในวันที่ 10 เม.ย.47 เพื่อเผยแพร่แก่ผู้ลงทุนทั่วไปถึงทางเลือกว่า
บริษัทจะดำเนินการฟื้นฟูกิจการตามพระราชบัญญัติล้มละลายต่อไปหรือจะเพิกถอนโดยสมัครใจหรือเลือกทางเลือกอื่นใดที่เป็น
ประโยชน์ต่อบริษัท ตลอดจนกำหนดเวลาดำเนินการในทางเลือกดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะอนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวในตลาดหลักทรัพย์ภายใต้หมวดREHABCO
ระหว่างวันที่ 12 เม.ย. 47 ถึงวันที่ 11 พฤษภาคม 2547 ภายหลังจากมีการเผยแพร่ข้อมูลว่าบริษัทมีทางเลือกใดเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทได้มีโอกาสซื้อหรือขายหลักทรัพย์ได้อีกระยะหนึ่งก่อนที่จะสั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ในระหว่างการฟื้นฟูกิจการ
ตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ
บริษัทจดทะเบียนดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2547 เป็น ต้นไป จนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการให้เหตุแห่งการเพิกถอนหมดไป
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ผ่อนผันการประกาศเข้าข่ายต้องฟื้นฟูกิจการ บริษัท
ศรีไทย ฟู้ดแอนด์เบฟเวอร์เรจ จำกัด (มหาชน) (SRI)ที่ได้นำส่งงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่
31 ธ.ค. 46 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี ซึ่งปรากฏว่ามีส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่าศูนย์
และต่อมา SRI ได้ ขอผ่อนผันการประกาศให้บริษัทเข้าข่ายต้องฟื้นฟูกิจการเนื่องจากปัจจุบันบริษัทกำลังดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับกลุ่มสถาบันการเงินซึ่งคาดว่าจะสามารถ
ลงนามในสัญญาได้ภายในเดือนเม.ย.47 และผลจากการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้จะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่ามากกว่าศูนย์จากการแปลงหนี้เป็นทุนและการยกเลิกดอกเบี้ยบางส่วน
ตลาดหลักทรัพย์ได้พิจารณาแล้วเห็นควรผ่อนผันการประกาศเข้าข่ายต้องฟื้นฟูกิจการของ
SRIออกไปจนถึงการนำส่งงบการเงินประจำไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.47 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแล้ว
สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ ระหว่างการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการในหมวด REHABCO
ซึ่งจากการพิจารณางบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2546 พบว่ามีบริษัทที่ตลาดหลักทรัพย์พิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่าสามารถให้พ้นเหตุเพิกถอนและย้ายกลับหมวดอุตสาหกรรมปกติได้
คือ บริษัทบางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) (RANCH) ซึ่งตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างประสานงานกับบริษัทในการขอพ้นเหตุเพิกถอนต่อไป
ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงขอให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปโปรดศึกษา รายละเอียดงบการเงินฉบับเต็มของ
บริษัทจดทะเบียนดังกล่าว และติดตามการดำเนินการเพื่อฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อไป