Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 มีนาคม 2547
แอล.พี.เอ็น.ตั้งเป้าขาย5พันล้านแตกพาร์เร่งพัฒนาโครงการสูงในเมือง             
 


   
search resources

แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์, บมจ.
แกรนด์ ยูนิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์, บจก.
ทิฆัมพร เปล่งศรีสุข
Real Estate




แอล.พี.เอ็น แตกพาร์ใหม่ 10 บาทเหลือ 1 บาท รองรับขยายโครงการอนาคต แจงกำไรปี 46 อยู่ที่ 464 ล้านบาท พุ่งขึ้นกว่า 185% จากโครงการใหม่ และยอดขายที่ ทยอยรับรู้รายได้จากปีก่อน ตั้งเป้ารายได้ปี 47 จำนวน 5,300 ล้านบาทจากโครงการที่พักอาศัยแนวสูงในเมือง ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ครอบคลุมตลาด ระดับ C+ ถึง B+ สร้างโอกาสการตลาดและลดความเสี่ยง พร้อมทุ่มงบลงทุนเพิ่มสัดส่วนถือหุ้น ในแกรนด์ยูนิตี้เป็น 33% จาก 25% เตรียมพร้อมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ภายในปีนี้

นายทิฆัมพร เปล่งศรีสุข กรรมการผู้จัดการบริษัท แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากช่วง 4 ปีที่ผ่านมาธุรกิจอสังหาฯมีการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจคอนโดฯ พักอาศัย ดังนั้น ในการดำเนินงานในปี 2547 ของบริษัท ที่ประชุมบอร์ดจึงมีมติที่จะแตกพาร์จาก 10 บาทเหลือ 1 บาท จากนั้น ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 276,706,550 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 1,210,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 276,706,550 หุ้น นั้น มีมูลค่าหุ้นละ 1 บาท

โดยหุ้นเพิ่มทุน 276,706,550 หุ้น จะจัดสรร 236,706,550 หุ้น ที่ราคาหุ้น ละ 1 บาท เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน การจองซื้อ 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 2 บาท ที่ราคาหุ้นหุ้นละ 1 บาท ส่วนที่เหลือ 40,000,000 หุ้น จะสำรองไว้เพิ่มเติมสำหรับการรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิของผู้ถือหุ้นเดิมวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และ การใช้เงินทุนในส่วนนี้ ก็เพื่อซื้อที่ดินเพิ่มเติมสำหรับพัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัยในอนาคต คาดว่ามีมูลค่า การซื้อสูงขึ้นและเป็นการสร้าง หลักให้ แกรนด์ยูนิตี้ เพราะบริษัทต้องเข้าไปลงทุนเพิ่มขึ้น เมื่อดำเนินการผลักดันให้แกรนด์ยูนิตี้จดทะเบียนเข้าตลาด หลักทรัพย์ภายในปีนี้เรียบร้อยแล้ว

กำหนดการประชุมบอร์ด ได้กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2547 ในวันที่ 7 เมษายน 2547, กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือ หุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมและรับเงินปันผล วันที่ 17 มีนาคม 2547, กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 22 เมษายน 254, กำหนดวันรับเงินปันผลในวันที่ 30 เมษายน 2547 และกำหนดเวลาการเสนอขายใน ระหว่างวันที่ 10-14 พฤษภาคม 2547

"สำหรับการลงทุนในบริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งดำเนิน ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทางแอล.พี.เอ็น.ถือหุ้นอยู่ 33% จากเดิมที่มีอยู่ 25% หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของผู้ถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งการลงทุนในส่วนนี้เป็นการทำให้ผลประกอบการและกำไรส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยที่บริษัทใช้ความเสี่ยงในการดำเนินการน้อยลง โดยในส่วนของการดำเนินงานของแกรนด์ ยูนิตี้ จะเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบน แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงจากการดำเนินงานของบริษัท" นายทิฆัมพรกล่าว

ในปี 46 บริษัทมียอดรับรู้รายได้จาก บริษัท แกรนด์ยูนิตี้ กว่า 100 ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้จะรับรู้รายได้ในระดับ 100 ล้านบาทจากการเข้าซื้ออาคารร้างและพัฒนาเพื่อขาย ควบคู่กับแผนการลงทุนโครงการใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพ ล่าสุดได้เข้าไปพัฒนาอาคารในทำเลแนวเดินรถไฟฟ้าใต้ดินย่านอโศก

ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2546 ที่ผ่านมาจะเห็นว่าบริษัท มีรายได้จากการดำเนินการรวมกับรายได้จากการขาย การเช่า และบริการรวม 1,943.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2545 ที่มีรายได้รวม 1,071.20 ล้านบาท หรือคิดเป็น 81.44% และมีผลกำไรสุทธิ 464.66 ล้านบาท เทียบกับปี 45 ซึ่งมีผลกำไร 162.97 ล้านบาท จะทำให้มีผลกำไรเพิ่มขึ้น 185.12% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ในปี 2547 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 5,300 ล้านบาท จากโครงการใหม่ 7 โครงการ ซึ่งจะโตขึ้นจากปี 46 คิดเป็น 129.24% โดยตั้งเป้ารายได้จาก โครงการเก่าที่เปิดปี 2546 จำนวน 6 โครงการและโครงการใหม่อีก 1 โครงการที่เปิดปีนี้ ประมาณ 2,712 ล้านบาท โตขึ้นจากปีก่อน 55.15% บริษัทได้เปิดขายโครงการใหม่ไปแล้ว 2 โครงการในเดือนมกราคม คือ โครงการลุมพินี วิลล์ รัชดา-ลาดพร้าว และโครงการลุมพินี เซ็นเตอร์ สุขุมวิท 77 มูลค่ารวมประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยขณะนี้ได้มียอดจองแล้วเฉลี่ยประมาณ 80% และมีแผนการเปิดโครงการลุมพินี เพลส พระราม 3 มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาทภายในเดือนมี.ค.2547

แนวทางด้านการตลาดและพัฒนาสินค้าของกลุ่มแอล.พี.เอ็น จะประกอบด้วยแบรนด์ ลุมพินี สวีท กำหนดราคาขายอยู่ที่ 50,000 บาทต่อตารางเมตร จัดกลุ่มเป้าหมายระดับ B+ มีสัดส่วน 10% ของสินค้าทั้งกลุ่ม, ลุมพินี เพลส ระดับราคา 40,000-50,000 บาทต่อตารางเมตร เจาะตลาดระดับ B มีสัดส่วน 25% , ลุมพินี วิลล์ ระดับราคา 30,000-40,000 บาทต่อตารางเมตร จับกลุ่มเป้าหมายระดับ B- มีสัดส่วนสินค้า 25% และสุดท้ายเป็นโครงการที่พัฒนาภายใต้แบรนด์ ลุมพินี เซ็นเตอร์ ระดับราคา 20,000-30,000 บาทต่อตารางเมตร อยู่ในตลาดระดับ C+ มีสัดส่วนถึง 40% ของสินค้าทั้งหมด

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us